กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--เจ เอส แอล
“สุริวิภา” ทึ่งในชีวิตอิสสระ สร้างสุขด้วยการทำงานหนักของ“ปลาวาฬ” นักธุรกิจพันล้านวัย 25
หากจะถามว่า มีสักกี่คนเมื่อตอนอายุ 25 ปี ได้รับโอกาสบริหารธุรกิจที่มีมูลค่ามากกว่าพันล้านบาท และจะมีสักกี่คนที่พิสูจน์ความสามารถด้วยการนำพาธุรกิจนั้นไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง อีกทั้งเห็นอนาคตว่าจะยังคงเติบโตขึ้นได้เรื่อยๆ “สุริวิภา” ขอพาคุณผู้ชมไปพบกับชายหนุ่มวัย 25 ผู้น่าทึ่งคนนั้น
“ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ” ทายาทพันล้านของสงกรานต์และศรีวราในตระกูล “อิสสระ” บริหารธุรกิจพันล้านด้วยแนวคิดของเด็กหนุ่มไฟแรง ที่สร้างสีสันความสนุกสนานให้กับการทำงานตลอดเวลา เขาทำให้โครงการบ้านพักต่างอากาศระดับหรู “ศรีพันวา” บนเกาะภูเก็ต ที่มีมูลค่าหลังละ 27-200 ล้านบาท มีผู้จับจองซื้อไปอย่างง่ายดาย และมุ่งมั่นบริหารโรงแรมศรีพันวาจนกลายเป็นบูติกโฮเต็ลที่มีชื่อของภูเก็ต ปลาวาฬเติบโตมาอย่างอิสระแต่ตามรอยแบบอย่างที่ดีของพ่อแม่ เขาจึงใช้ชีวิตอย่างเต็มที่และอิสระสมชื่อตระกูล เพื่อขวนขวายหางานสนุกๆที่ได้เงินตอบแทนอย่างงามทำอย่างต่อเนื่อง เป็นการสั่งสมประสบการณ์ก่อนจะมาคุมบังเหียนใหญ่ที่ “ศรีพันวา”
“ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ” เล่าย้อนประวัติก่อนจะมาถึงวันนี้ว่า “คุณพ่อคุณแม่เป็นคนตั้งชื่อให้ผมครับ มีน้องชายชื่อปลาทู น้องสาวปลาเข็ม เพราะฝั่งคุณพ่อไก่เป็นสัตว์ปีกหมดแล้ว คุณพ่อคุณแม่ส่งผมไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่ 9 ขวบ อยู่ 7 ปีแล้วย้ายไปจบไฮสคูลที่อเมริกา อีก2 ปีเข้ามหาวิทยาลัยเรียนด้านธุรกิจ จากนั้นจึงมาเรียนด้านการโรงแรมที่ฟลอริด้า สุดท้ายย้ายไปจบด้านการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์ คุณพ่อและคุณแม่ค่อนข้างให้อิสระผมเต็มที่ด้านการเรียนและความคิดการตัดสินใจ แต่คงด้วยความที่คลุกคลีกับธุรกิจที่บ้านมาตั้งแต่เด็ก จึงชอบงานด้านโรงแรมมากกว่า ก่อนหน้านั้นลองผิดลองถูกเลือกเรียนมาแล้วหลายอย่าง ทั้งกฎหมาย รัฐศาสตร์ การเงิน
ผมเริ่มทำงานหาเงินเพิ่มเติมตอนอยู่มัธยมอายุ 14 แล้วครับ เพราะผมเกรงใจที่บ้าน พ่อให้เงินเพียงพอสำหรับการเรียนและการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว แต่ผมอยากเที่ยวมากกว่านั้นผมก็ต้องหาเอง เริ่มทำในร้านอาหารหรือผับ-บาร์ ตั้งแต่ล้างจาน ต้อนรับลูกค้า เสิร์ฟอาหาร แคชเชียร์ จนได้มาดูแลลูกค้า VIP มีรายได้ค่อนข้างเยอะครับเพราะอย่างน้อยค่าทิปก็คือ 20 % ของบิล ลูกค้า VIP เท่าที่ผมจำได้อย่าง บียองเซ่ เจซี-นักอเมริกันฟุตบอล
และจากประสบการณ์ที่ผมเคยทำมา ตอนที่ผมต้องทำโปรเจ็คต์ในปีสุดท้ายเพื่อจบ ผมจึงเสนอทำบาร์ในโรงเรียน โชคดีว่ามีสถานที่ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง เพราะทุกวันนี้บาร์ที่ผมทำไว้ยังอยู่ให้รุ่นน้องได้ศึกษา โชคดีที่ผู้บริหารโรงแรม Feltrinelli ที่อิตาลีมาเห็นโปรเจ็คต์นี้ ผมจึงได้ไปฝึกงานในบูติกโฮเต็ลโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่เป็นท็อป 5 ของโลก ที่นั้นมีเพียง 21 ห้องจะเปิดเพียง 5-6 เดือนในรอบปี ลูกค้าที่มาพักเป็นระดับไฮเอนด์ เช่นมือขวาของบิลเกตต์ ราคาห้องเฉลี่ยสองแสนบาทต่อคืน ผมทำหน้าที่เป็น Management Trainee ทำงานบริการลูกค้าทุกอย่าง ทั้งด้านอาหารเครื่องดื่ม จัดหาเรือล่องทะเลสาบ จัดเฮลิคอปเตอร์ แม้กระทั่งถ้าลูกค้าต้องการมะนาวหรือกระดาษทิชชู เขาต้องนึกถึงผมโทรหาผม แล้วผมค่อยกระจายงานให้แต่ละส่วน ผมมีหน้าที่ต้องทำให้ลูกค้าประทับใจ จนเวลาที่เดินผ่านกันเขาจะต้องเป็นคนทักผมก่อนให้ได้ ที่พักผมจะอยู่ในบริเวณโรงแรมจึงเหมือนต้องทำงาน 24 ชั่วโมง แต่คืนวันศุกร์เสาร์ช่วงพักของผม ผมจะไปผ่อนคลายด้วยการไปรับจ็อบงานเป็นดีเจในผับใกล้ๆ”
ด้วยหัวใจที่รักงานบริการเอาใจใส่เป็นกันเองกับลูกค้าอย่างดีเช่นนี้ หลังจบฤดูกาลท่องเที่ยวของโรงแรมอิตาลี จึงมีโรงแรมหรูในไอร์แลนด์ยื่นข้อเสนอรับตัวไปทำงานต่อทันที แต่ช่วงนั้นคุณพ่อสงกรานต์ก็ยื่นข้อเสนอให้ ลูกชายคนโตเช่นกัน
“พ่อเริ่มก่อสร้างบ้านศรีพันวาได้ประมาณ 8 เดือน บนพื้นที่ที่เราเคยได้ดูด้วยกันจนชอบใจและตัดสินใจร่วมกันให้ซื้อมาทำโครงการ ผมจึงขอพ่อมาทำที่นี่ และศึกษาจนแน่ใจเลยขอพ่อให้ทำเป็นโรงแรมด้วยนอกเหนือจากทำบ้านขายอย่างเดียว ถือว่าผมได้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่จากที่เรียนและจากที่เคยทำงานและฝึกงานมา ผมได้ช่วยในเรื่องการวางแนวคิดหลัก การจัดการระบบต่างๆ การขาย การตลาด การดูแลต้อนรับลูกค้า เรามีทีมงานเป็นเพื่อนๆ ที่เรียนรุ่นเดียวกันและใกล้เคียงกันมาร่วมงาน ทุกคนได้ทำงานช่วยกันเต็มที บางคืนแทบไม่ได้นอน แต่สนุกกันมากกว่าจะรู้สึกว่าเป็นงานหนัก เพราะคิดว่าคุณพ่อลำบากกว่าผมมาก ท่านเป็นคนที่ต้องหาเงินมาลงทุน จนผมค่อนข้างรู้สึกเสียวท้องมากกว่า ว่าเขาไว้ใจเรานะ ยังมีผู้ใหญ่อีกหลายคนจับจ้องมองดูเราอยู่ว่าเราจะทำได้ไหม แต่ก็ไม่รู้จักกดดันมากครับ เป็นความรู้สึกท้าทายมากกว่า”
"สุริวิภา” จึงพาคุณผู้ชมไปสัมผัสบรรยากาศโครงการบ้านพักตากอากาศและโรงแรมสุดหรูศรีพันวาถึงเกาะภูเก็ต ชมบ้านพักราคาคืนละห้าหมื่นบาทที่มีสระว่ายน้ำจากูซซี่ล้อมรอบและเล่นระดับสวยงามกับน้ำทะเล อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสดชื่นสวยงาม อีกทั้งยังได้ชมการทำสปาที่แสนจะผ่อนคลาย จนทำให้เราได้เห็นภาพที่โป๊ที่สุดในชีวิตของ “สุริวิภา”!!!!
และปลาวาฬก็ไม่ลืมที่จะย้ำว่างานที่สำคัญที่สุดของเขาคืองานบริการ ที่จะต้องทำให้ลูกค้าประทับใจในฐานะแขกพิเศษที่สุดของที่นี่ “เราไม่เพียงแต่จะทักทายทราบชื่อลูกค้า แต่เราจะให้การดูแลตามความต้องการและความชอบของลูกค้าแต่ละรายได้ในทุกรายละเอียด เราสามารถส่งพ่อครัวให้ไปทำอาหารเฉพาะให้ถึงบ้านพัก จัดเรือจัดทริปดำน้ำ บริการสปาหรืออื่นๆ แต่ส่วนใหญ่ลูกค้ามักใช้เวลาพักอยู่ที่บ้านมากกว่า เราจึงเน้นบริการด้านงานแม่บ้านให้เป็นงานที่เราใส่ใจให้ความสำคัญที่สุด เพราะต่อให้บริการดีเลิศยังไงแต่ถ้าห้องไม่เรียบร้อยไม่สะอาดก็ไม่น่าประทับใจ ผมเลือกคนมาทำงานที่นี่ด้วยการประกาศรับสมัครไม่มีการซื้อตัวใครมา เราจึงมีคนในพื้นที่อยู่กับเราเยอะ และทุกคนสามารถหมุนเวียนทำงานทดแทนกันได้ทุกอย่าง และทุกคนถือว่าเป็นเซลล์สามารถขายบ้านได้ค่าคอมมิชชั่นทุกคน ผมมีวิธีการตรวจสอบคุณภาพการให้บริการของโรงแรมด้วยการทำตัวเป็นลูกค้าคอยรับการบริการบ้างในวันหยุด หรือไปแลกเปลี่ยนกับโรงแรมอื่นใกล้เคียงในลักษณะต่างคนต่างช่วยกันตรวจสอบให้กัน เพราะผมไม่เคยคิดว่าโรงแรมอื่นๆในภูเก็ตเป็นคู่แข่ง เขาเป็นเพื่อนบ้านกับผมต่างหากครับ”
ยังมีเรื่องราวน่าทึ่งอีกมากมายจากวิธีคิดของชายหนุ่ม “ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ” ติดตามชมได้ใน “สุริวิภา” วันพุธที่ 3 พ.ค. นี้ เวลาดีสี่ทุ่ม ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
วิรดา อนุเทียนชัย (วิ) 0 — 1804 - 5493
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net