กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--เอาท์ดอร์ พีอาร์
บริษัทเครือข่ายสัญชาติอเมริกัน “ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้งฯ” เร่งเครื่องปลายปี นำนวัตกรรมทางการแพทย์ สุดไฮเทคเครื่องเดียวในไทย “B-Pro Pulse wave device” เอาใจลูกค้าบริการตรวจวัดความดันโลหิตฟรีให้กับสมาชิก ตอกย้ำองค์กรรับผิดชอบใส่ใจผู้บริโภค ตั้งเป้าเตรียมส่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักรุกตลาด หลังมีกระแสตอบรับดี มั่นใจยอดขายสิ้นปีทะลุ 300 ล้านบาท คาดปีหน้ายอดพุ่ง 600 ล้านบาท...
นายศุภพงศ์ จันทรวีระกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัทซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเครือข่ายจากซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ ที่ดำเนินกิจการใน 18 สาขาทั่วโลก เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯดำเนินธุรกิจขายตรงในไทยมากว่า 10 ปี และได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้นำเข้าเครื่องตรวจวัดความดันโลหิตและลิ้นหัวใจ “B-Pro Pulse wave device” มูลค่าลิขสิทธิ์กว่า 50 ล้านบาท เพื่อบริการตรวจให้กับลูกค้าที่มีความเสี่ยงเป็นความดันโลหิต และลิ้นหัวใจ ซึ่งคุณสมบัติของตัวเครื่องนั้นมีความแม่นยำถึง 99.6 เปอร์เซ็นต์
สำหรับเครื่อง “B-Pro Pulse wave device” ถูกพัฒนาขึ้นโดย ดร. โจ เพร์นเดอร์เกสท์ (Dr.Joe Prendergast) นักวิทยาศาสตร์ชาวสหรัฐฯ ที่เคยได้รับรางวัลโนเบลมาแล้ว และถือเป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่จะช่วยเตือนว่า มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจหรือไม่ โดยจะส่งคลื่นไฟฟ้าไปยังหัวใจโดยตรง และใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็สามารถรู้ผลได้ว่าบุคคลนั้นๆ มีโอกาสเป็นโรคหัวใจหรือไม่ ซึ่งผู้รับการตรวจจะไม่เจ็บตัวเหมือนกับการใช้วิธีอื่นๆ ที่จะต้องมีการเจาะขาหนีบแล้วสอดอุปกรณ์ไปให้ใกล้กับหัวใจ เพื่อตรวจสอบการทำงานของหัวใจว่าผิดปกติหรือไม่ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกกลัวต่อการตรวจเป็นอย่างมาก
“บริษัทฯ เราเน้นขายสินค้าเพื่อสุขภาพ และการนำเครื่อง “B-Pro Pulse wave device” เข้ามา จะเป็นการสร้างการรับรู้ถึงองค์กรของเราว่า มีความใส่ใจต่อสุขภาพของผู้บริโภค และเป็นการสร้างฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันในเมืองไทยก็มีเครื่อง “B-Pro Pulse wave device” ที่บริษัทฯ เราเพียงแห่งเดียว พร้อมมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของผู้ผลิตเครื่องดังกล่าว มาสาธิตในการใช้งานด้วย และที่สำคัญเราไม่คิดค่าใช้บริการใดๆ ทั้งสิ้นสำหรับสมาชิก ขณะที่ในอเมริกาหากใครจะใช้เครื่องนี้
ต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 70-200 เหรียญสหรัฐฯ ในยุโรปค่าใช้จ่ายถึง 500 ยูโร ในเบื้องต้นเครื่อง “B-Pro Pulse wave device” เราจะนำมาใช้บริการลูกค้านานประมาณ 6 เดือน
นอกจากนี้นายศุภพงศ์ ยังได้พูดถึงแผนการตลาดของบริษัทฯ ในปีหน้าว่า จะมีการเพิ่มสัดส่วนสินค้าประเภทลดน้ำหนักมากขึ้น เพราะปัจจุบันบริษัทฯ ได้แบ่งสินค้าออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเสริมอาหาร มีสัดส่วนประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก มีสัดส่วนประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มสกินแคร์ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์
“ในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลุ่มผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักมาแรง ทำให้ปีหน้าเราเตรียมนำเข้าผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มาจำหน่ายอีก 1 ตัว ซึ่งบริษัทแม่เตรียมที่จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเร็วๆ นี้ ภายใต้ชื่อ “ดับเบิ้ล เบิร์น” (Double Burn) ส่วนสินค้ากลุ่มอื่นๆ เราก็มีการเสริมทัพกันอย่างต่อเนื่อง โดยในปลายปีนี้ก็จะเปิดตัวยาสีฟัน “ซินเนอร์ เฟรช” (SynerFresh) คาดว่าในในปีนี้บริษัทฯ น่าจะมียอดขายประมาณ 300 ล้านบาท และตั้งเป้าปีหน้าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรือประมาณ 600 ล้านบาท จากมูลค่าการตลาดธุรกิจขายตรงที่มีกว่า 50,000 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม ในการสร้างเครือข่ายนั้น ผู้จัดการทั่วไป บริษัทซินเนอร์จี้ฯ กล่าวย้ำว่า ยังคงมีการพัฒนาต่อเนื่อง เพราะถือว่ามีความสำคัญเช่นกัน ปัจจุบันบริษัทฯ มีเครือข่ายทั่วประเทศประมาณ 30,000 คน มีสำนักงาน 4 แห่ง คือ กรุงเพทฯ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี และนครราชสีมา และในวันที่ 23-24 ตุลาคมนี้ จะมีผู้บริหารระดับสูง คือ มร.แดน นอร์แมน (Mr. Dan Norman) ประธานบริษัทซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ฯ เข้าร่วมงานคอนเวนชั่น ที่โรงแรมพัทยาปาร์ค จ.ชลบุรี เพื่อตอกย้ำการทำธุรกิจขายตรงของบริษัทฯ ที่เรามีเป้าหมายขึ้นเป็นบริษัทขายตรง 1 ใน 10 ของประเทศไทยนั่นเอง
“ที่ผ่านมาธุรกิจขายตรงมีการแข่งขันที่รุนแรงมาก โดยจุดแข็งของบริษัทซินเนอร์จี้ฯ เราจะนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนสินค้าสุขภาพที่จำหน่าย เพื่อสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า สินค้าเราดีต่อสุขภาพจริงๆ และตรงนี้เองเราอยากให้วงการขายตรง ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค เพราะหากมีการหลอกลวง ธุรกิจขายตรงก็จะเสียหาย และเกิดภาวะถดถอยทั้งระบบในที่สุด” นายศุภพงศ์ กล่าว