กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--บลจ. กสิกรไทย
บลจ. กสิกรไทย ส่งกองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน เสิร์ฟผู้ลงทุน แนะลงทุนดักโอกาสรับผลตอบแทนจากความแกร่งของเศรษฐกิจจีนและการเติบโตของหุ้น เปิดขายครั้งแรก 27 ต.ค. — 2 พ.ย. นี้
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดขายกองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน (K China Equity Fund : K-CHINA) เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนในตราสารทุนให้กับลูกค้า โดยเท่าที่ผ่านมาในช่วง 5 ปี ตลาดหุ้นจีนให้ผลตอบแทนมากถึงประมาณ 23% ต่อปี ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ประมาณ 6% ต่อปี และตลาดทุนโลกที่ประมาณ 1.5% ต่อปี
กองทุนเปิด K-CHINA จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Fidelity Funds — China Focus Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในประเทศจีนโดยเฉพาะที่ใหญ่ที่สุดในโลกถ้านับรวมกองทุนที่ตั้งขึ้นหลังจากปี 2533 และนับตั้งแต่ต้นปี 2552 ถึง 30 ก.ย. 2552 กองทุนนี้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ถือหน่วยโดยมีเม็ดเงินลงทุนใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 16,500 ล้านบาท และบริหารจัดการโดย Fidelity International Limited (FIL) ซึ่งมีความสามารถในการเลือกลงทุนในหุ้นได้อย่างเหมาะสม มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลกและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ซึ่ง บลจ.กสิกรไทยเชื่อมั่นในความสามารถในการเลือกหุ้นที่ถูกต้องซึ่งจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้นักลงทุนได้ โดยเฉพาะในตลาดที่ยังอยู่ในช่วงเติบโตสูงเช่นปัจจุบัน
สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจจีน นายพัชรกล่าวว่า โอกาสที่จะเกิดเศรษฐกิจฟองสบู่ (asset bubble) ในประเทศจีนนั้นค่อนข้างจะต่ำ เนื่องจากรัฐบาลจีนได้ทยอยลดระดับสภาพคล่องในระบบลงเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจร้อนแรงจนเกินไป นอกจากนั้น เศรษฐกิจจีนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมายังแสดงให้เห็นว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนได้เปลี่ยนจากการพึ่งพาการส่งออกไปยังประเทศตะวันตก มาเป็นการเติบโตด้วยความต้องการบริโภคภายในประเทศ โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาในระบบได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสม นอกจากนี้ ในช่วง 2 — 3 เดือนที่ผ่านมา ภาคธุรกิจโดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างได้เติบโตอย่างเห็นได้ชัด และเข้ามาแทนที่การเติบโตผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี
นายพัชรกล่าวต่อไปว่า ถึงแม้ตลาดหุ้นจีนจะได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 50% ตั้งแต่ต้นปี แต่โอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มก็ยังมีอยู่ อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนได้มีการปรับตัวลงมาบ้างแล้ว จากจุดสูงสุดในปี 2550 ประมาณ 40% และยังเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะเลือกเข้ามาลงทุนในช่วงวันที่ตลาดมีการปรับตัวลดลง
“ปัจจุบันมีกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นจีนให้ผู้ลงทุนเลือกมากมายหลายกอง นักลงทุนควรจะเปรียบเทียบผลตอบแทนย้อนหลังเมื่อเทียบกับความผันผวนของแต่ละกองทุนให้รอบคอบ นอกจากนั้น ชื่อเสียงและความสามารถในการเลือกลงทุนในตลาดหุ้นจีน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกกองทุนจีนที่ถูกต้องได้”
นายพัชรกล่าวในที่สุด
สำหรับกองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน (K-CHINA) ซึ่ง บลจ. กสิกรไทย จะเสนอขายครั้งแรกในวันที่ 27 ต.ค. — 2 พ.ย. 2552 มีมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง สภาพคล่องสูง ซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการของ บลจ. กสิกรไทย และกองทุนหลักในต่างประเทศ ทั้งยังมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศอีกด้วย ผู้ที่สนใจลงทุนสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน (K-CHINA) ได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา บลจ. กสิกรไทย จำกัด หรือตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนแรกเริ่มได้