กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--IDC
จากรายงานการสำรวจรายไตรมาสล่าสุดในการติดตามความเคลื่อนไหวตลาด Thin Client นั้น พบว่า ตลาด Thin Client ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น มียอดจำหน่ายโดยรวม 419,000 ยูนิตในครึ่งปีแรกของปี 2552 มีอัตราการเติบโตเมื่อเปรียบกับครึ่งปีแรกของปี 2551 ประมาณ ร้อยละ 15.5
“จากวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่อ CAPEX ขององค์กรธุรกิจต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจบริการด้านการเงินได้แซงหน้ากลุ่มธุรกิจอื่นๆ ในเรื่องของการนำ Thin Client มาใช้งานในองค์กร เฉพาะกลุ่มธุรกิจนี้ก็มีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของยอดจำหน่ายโดยรวมในครึ่งปีแรกของปี 2551 โดยมีปัจจัยมาจากธนาคารต่างๆ ในประเทศจีน ได้มีการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เป็นจำนวนมากในไตรมาสที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นธนาคารท้องถิ่น หรือธนาคารต่างชาติ สำหรับโครงการจัดซื้อจากหน่วยงานภาครัฐฯ โดยส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มการศึกษา โดยมีอัตราการเติบโตร้อยละ 47 จากครึ่งปีหลังของปี 2551 และเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนมากเป็นอันดับสองในครึ่งปีแรกของปี 2552 ซึ่งมีอัตราการเติบโตของยอดจำหน่ายของกลุ่มนี้ที่ร้อยละ 23.3 ทั่วทั้งภูมิภาคนี้” กล่าวโดยนายรูเบน แทน ผู้จัดการอาวุโสด้าน Personal System Group ประจำ ไอดีซีเอเชียแปซิฟิก “ไอดีซี เชื่อว่า การพัฒนา และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องด้าน Virtualization Application สำหรับ Desktop จะเป็นตัวกระตุ้นตลาด นอกจากนี้แล้ว ผลสำรวจยังพบว่าในปัจจุบัน Thin Client สามารถขยายตลาดผู้ใช้ให้ครอบคลุมกว้างขวางขึ้นมากกว่าแต่ก่อนอีกด้วย ผู้จัดการแผนกไอทีเริ่มได้รับข้อมูลเพิ่มมากขึ้นว่า การช่วยลดต้นทุนในระยะยาวที่มาจากการใช้ Virtualization Desktop นั้นจะช่วยให้ประหยัดได้มากที่สุดเมื่อจุดต่างๆ ของการเชื่อมต่อที่ต่อเข้ากับระบบได้ถูกเปลี่ยนให้ไปเป็นอุปกรณ์แบบที่รองรับ Thin Client ได้ .
การจัดอันดับของผู้ค้า
สำหรับผู้ค้าหลัก 6 อันดับต้นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ป่นในครึ่งปีแรกของปี 2552 คือ Centerm, HP, HCL, Start, nComputing และ Greatwall ซึ่งอันดับของผู้ค้าในภูมิภาคนี้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากครึ่งปีหลังของปี 2551 โดย nComputing ได้รุกเข้าสู่กลุ่มการศึกษาในหลายประเทศจึงส่งผลทำให้ผุ้ค้ารายนี้แซงหน้าผู้ค้าอีกรายหนึ่งคือ Wyse ได้ ผู้ค้าหลักทั้ง 6 รายนี้มีสัดส่วนรวมกันอยู่ที่ร้อยละ 74.7 จากยอดจำหน่าย Thin Client ทั้งหมดของภูมิภาคนี้ในครึ่งปีแรกของปี 2552 มีอัตราการเติบโตจากครึ่งปีหลังของปี 2551 ร้อยละ 70.3
แนวโน้มในแต่ละประเทศ
จากการคาดการณ์แนวโน้มตลาดล่าสุดในอีก 5 ปีข้างหน้าของไอดีซี ชี้ว่า ประเทศอินเดียคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตแบบสะสมปีต่อปี (CAGR) ในอีก 5 ปีข้างหน้าอยู่ที่ร้อยละ 33.7 รองลงมาคือประเทศจีนที่ร้อยละ 30.1 สำหรับตลาดที่พัฒนาไปมากแล้วอย่างประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ก็ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในภาพรวม แต่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต (CAGR) ในระดับที่ไม่สูงมากนักคือร้อยละ 14.6 และ ร้อยละ 13.6ตามลำดับ ขณะที่ตลาดอื่น ๆ เช่น ฮ่องกง เกาหลี สิงคโปร์ และไต้หวัน คาดว่ายังคงมีอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสืบเนื่องมาจากมีการใช้งานแอพพลิเคชั่นใหม่ทั้งหมดและมีการขยายการใช้งานในกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ
เกี่ยวกับไอดีซี
ไอดีซี บริษัทที่ปรึกษา และ วิจัยข้อมูลการตลาดชั้นนำระดับโลก ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โทรคมนาคม และ คอนซูเมอร์เทคโนโลยี โดยนำเสนอข้อมูลจากการ วิเคราะห์เจาะลึก แก่ผู้เชี่ยวชาญด้าน ไอที ผู้บริหาร และ นักลงทุน ให้สามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ จัดซื้อเทคโนโลยี และ กำหนด กลยุทธ์ทางธุรกิจ ปัจจุบัน IDC มีนักวิเคราะห์ กว่า 1,000 คน ใน 110 ประเทศทั่วโลก ทำหน้าที่นำเสนอ ข้อมูล และ ให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ อย่างรอบด้าน แก่ลูกค้าในเรื่อง เทคโนโลยี รวมถึงโอกาสทาง ธุรกิจ และ แนวโน้มของอุตสาหกรรม ต่างๆ ทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาค และ ระดับประเทศ ด้วยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญที่สะสมมามากว่า 45 ปี เพื่อช่วยให้ลูกค้า บรรลุทุกวัตถุประสงค์ทาง ธุรกิจ IDC เป็นบริษัทในเครือของ ไอดีจี ซึ่งดำเนิน ธุรกิจสื่อสารเทคโนโลยี วิจัย และ จัดงานสัมมนาชั้นนำระดับโลก ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.idc.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คุณศศิธร แซ่เอี้ยว
ที่หมายเลข 662-651-5585 ต่อ 113
sasithorn@idc.com