กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--กฟผ.
กฟผ.เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำของ 2 เขื่อนใหญ่คือ เขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนภูมิพลอย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันยังสามารถรองรับน้ำได้อีกและมีการประสานงานร่วมกับกรมชลประทาน ในการควบคุมการระบายน้ำไม่ให้กระทบกับประชาชน
วันนี้ (5 ก.ย.) นายวัฒนา ทองศิริ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่เกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำและลมมรสุมที่พาดผ่านตอนเหนือของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ปริมาณฝนตกได้ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 20-30 ซึ่งอ่างเก็บน้ำของเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ยังสามารถรับน้ำได้อีก
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ล่าสุดเมื่อวานนี้ระดับน้ำเขื่อนภูมิพลอยู่ที่ 249.36 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) มีปริมาณน้ำ 10,323.63 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 77 ของความจุอ่างเก็บน้ำ สามารถรับน้ำได้อีก 3,138.37 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 23 จากสถิติที่ผ่านมาในเดือนกันยายนจะมีน้ำไหลเข้าอ่างประมาณ 2,000 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้นหากมีฝนตกลงมาอีกก็ยังสามารถรับน้ำได้ ทั้งนี้เขื่อนภูมิพลจะระบายน้ำตามความจำเป็นตามที่คณะกรรมการจัดสรรน้ำแห่งชาติซึ่งประกอบด้วย กรมชลประทาน กฟผ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้พิจารณา เพื่อประโยชน์ด้านการอุปโภค-บริโภคของประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อน
นายวัฒนา กล่าวต่อไปว่า ทางด้านเขื่อนสิริกิติ์นั้น ภายหลังจากที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องจนทำให้น้ำไหลจากจังหวัดน่านเข้ามาเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งช่วยป้องกันอุทกภัยให้กับพื้นที่ท้ายเขื่อน จ.อุตรดิตถ์ จ.พิษณุโลก และ จ.พิจิตร ได้ในระดับหนึ่ง สำหรับระดับน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ขณะนี้อยู่ที่ 156.09 เมตร รทก. มีปริมาณน้ำ 8,041 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 84 และสามารถรับน้ำได้อีก 1,468 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 16 จากสถิติช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาจะมีน้ำไหลเข้าอ่างประมาณ 1,400 ล้าน ลบ.ม.
ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ กล่าวต่อไปว่า กรณีน้ำหลากบริเวณลำน้ำปิงตอนล่าง ซึ่งเป็นผลจากน้ำในแม่น้ำวังไหลมาบรรจบ ทำให้มีปริมาณน้ำเอ่อล้นตลิ่งในบางพื้นที่ซึ่งเป็นที่ลุ่ม ทั้งนี้ปัจจุบันระดับน้ำในลำน้ำปิงช่วง จังหวัดตาก กำแพงเพชร และนครสวรรค์ ยังอยู่ในระดับปกติ ส่วนระดับน้ำในลำน้ำน่านตอนล่างก็มีน้ำจากแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำยมไหลมาบรรจบ จึงทำให้ระดับน้ำในบางพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นในบางพื้นที่ ทั้งนี้ยืนยันว่า ที่ผ่านมาเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนภูมิพลสามารถกักเก็บน้ำฝนที่ตกในช่วงดังกล่าวไว้ ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบในเรื่องปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่างของลำน้ำปิงและลำน้ำน่านได้มาก รวมทั้งได้มีการปรับแผนการระบายน้ำของทั้งสองเขื่อนเพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนคอยติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ยังมีการตรวจสอบเขื่อนทุกวัน ยืนยันเขื่อนมั่นคงแข็งแรง และได้เฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและประสานงานกับหน่วยงานของจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อแจ้งแก่ประชาชนในพื้นที่รอบเขื่อนโดยใช้วิทยุชุมชนและสื่อมวลชนในท้องที่ พร้อมทั้งโทรศัพท์แจ้งเหตุยังผู้นำชุมชนและชาวบ้านโดยตรงอีกทางหนึ่งด้วย