กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--ก.ไอซีที
ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่า การสัมมนาในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมาของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ชุดปัจจุบัน ซึ่งดำรงตำแหน่งในวาระที่ 2 (พฤศจิกายน 2549 - พฤศจิกายน 2552) แก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ทราบถึงบทบาท อำนาจหน้าที่ ตลอดจนภารกิจต่างๆของคณะกรรมการฯที่สามารถผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงสิ่งที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานและผลักดันเพื่อส่งต่อให้กับคณะกรรมการฯชุดใหม่ในวาระที่ 3 เพื่อให้สานต่อการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายในเดือนพฤศจิกายน 2552 นี้
“ภารกิจของคณะกรรมการฯ นั้นถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของไทย โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น การเสนอแนะต่อรัฐมนตรีในการตราพระราชกฤษฎีกาหลายฉบับ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะช่วยทำให้การกำกับดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ มีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาออกใบอนุญาตให้กับผู้ให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งที่เป็นสถาบันการเงินและมิใช่สถาบันทางการเงิน จำนวนกว่า 60 ราย” ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ์ กล่าว
นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของประเทศตามแนวทางโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลชุดปัจจุบันด้วย เช่น การพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ การสร้างองค์ความรู้ด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป การสำรวจสถานภาพพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยเพื่อประกอบการวางแผนส่งเสริมและพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งมีการจัดทำแผนการดำเนินงานของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นกรอบทิศทางการดำเนินภารกิจของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในวาระปัจจุบันและวาระถัดไป ซึ่งคณะกรรมการฯ ชุดปัจจุบันจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 และขณะนี้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กำลังดำเนินการ สรรหาคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแต่งตั้งต่อไป
“สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการนำเสนอผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้ง 6 คณะแล้ว ยังเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา สมาคม ชมรมที่เข้าร่วมสัมมนา จำนวนกว่า 500 คน โดยจะมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “โอกาสทางเศรษฐกิจ...ความคาดหวังจากธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของไทย” และการเสวนาเชิงวิชาการในหัวข้อต่างๆ ได้แก่ เรื่อง Information Security จะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามและทำให้ระบบสารสนเทศขององค์กรมั่นคงแข็งแรงได้อย่างไร รวมทั้งเรื่อง ทำไม National Single Window จึงส่งผลให้ดัชนีของประเทศไทยขยับดีขึ้นในเวทีโลก และเรื่อง Imaged Cheque โอกาสและความท้าทาย” ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ กล่าว