กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--Sir (Thailand)
- บริษัทมีรายรับประจำไตรมาส จำนวน 2,660 ล้านเหรียญสหรัฐ
- กำหนดเป้าหมายในการทำกำไรขั้นต้นในระยะยาวประมาณ ร้อยละ 22-26
- ลดหนี้สินประจำปีการเงิน จากช่วงต้นปีการเงินจนถึงปัจจุบัน ทั้งสิ้น 685 ล้านเหรียญสหรัฐ
ซีเกท เทคโนโลยี (NASDAQ: STX) รายงานผลประกอบการทางการเงินในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2552 โดยมีการจัดส่งดิสก์ไดรฟ์จำนวน 46.3 ล้านตัว ยอดรายรับ 2,660 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรขั้นต้น ร้อยละ 24.5 รายได้สุทธิ จำนวน 179 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี เท่ากับ 35 เซ็นต์ ทั้งนี้ ผลประกอบการทางการเงินดังกล่าว ได้รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการตัดค่าเสื่อมของสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนซึ่งบริษัทได้ซื้อมา จำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างองค์กร จำนวน 46 ล้านเหรียญสหรัฐและค่าใช้จ่ายในการตัดค่าเสื่อมของสินทรัพย์ในระยะยาว จำนวน 64 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลกระทบโดยสุทธิของรายการเหล่านี้มีจำนวนทั้งสิ้น 120 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 23 เซ็นต์ต่อหุ้น
ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปีการเงิน 2010 ซีเกทได้ลดการกู้ยืมระยะสั้นและหนี้สินระยะยาวลงประมาณ 465 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการถึงกำหนดของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ์ที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวจำนวน 300 ล้านเหรียญสหรัฐและการใช้หนี้ในวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน จำนวน 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากการสิ้นสุดของไตรมาสที่ 1 ปีการเงิน 2010 ซีเกทได้ชำระหนี้ในวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน จำนวน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ จำนวน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ในช่วงปีการเงิน 2010 บริษัทมียอดหนี้สินทั้งหมดลดลงประมาณ 685 ล้านเหรียญสหรัฐ
“ในช่วงเวลาที่ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทาย เรามีความพึงพอใจในผลประกอบการทางการเงินของบริษัท ซึ่งมียอดรายรับ กำไร และรายได้จากการดำเนินงานซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี” นายสตีฟ ลุคโซ่ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของซีเกท (Steve Luczo, Seagate CEO) กล่าว “บริษัทได้กลับเข้าสู่รูปแบบการดำเนินงานที่ดีกว่าที่เราเคยคาดไว้ในช่วง 6 เดือนที่แล้ว และในตอนนี้ เราคาดว่าจะรักษาระดับกำไรขั้นต้นประมาณร้อยละ 22-26 ได้ ถึงแม้ว่าปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กรยังไม่กลับสู่ระดับที่เคยมีขึ้นในอดีต เราได้รับประโยชน์จากการจัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังลูกค้าที่ติดตั้งไดรฟ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้ค เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และในองค์กร อย่างทันท่วงที”
มุมมองธุรกิจ
ในขณะที่ธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตลอดปีปฏิทิน ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจของโลกที่กำลังดำเนินอยู่ทำให้มันเป็นการยากในการคาดการณ์เกี่ยวกับปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง ทำให้เป็นไปได้ว่าผลประกอบการที่แท้จริงของซีเกทอาจแตกต่างจากการคาดการณ์ในปัจจุบัน
สำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนธันวาคม บริษัทกำลังวางแผนสำหรับปริมาณความต้องการดิสก์ไดรฟ์ของอุตสาหกรรมโดยรวมประมาณ 153-160 ล้านตัว ดังนั้น บริษัทคาดว่าจะมีรายรับประมาณ 2,750 — 2,850 ล้านเหรียญสหรัฐและมีกำไรขั้นต้นซึ่งคิดเป็นร้อยละของรายรับในจำนวนที่ใกล้เคียงกับระดับที่สูงสุดของเป้าหมายของบริษัทซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 22-26
มุมมองสำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนธันวาคมไม่รวมผลกระทบของการปรับโครงสร้างองค์กร การรวมกิจการในอนาคต การควบกิจการ การขอสินเชื่อ การขายกิจการ หรือการรวมธุรกิจที่บริษัทอาจจะกระทำในอนาคต ซึ่งนโยบายของบริษัทคือการหลีกเลี่ยงจากแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการเหล่านี้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลประกอบการทางการเงินสำหรับไตรมาสแรกของปีการเงิน 2010 มีอยู่ทางออนไลน์ที่ seagate.com
เกี่ยวกับซีเกท
ซีเกทคือผู้นำในด้านฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และโซลูชั่นสำหรับจัดเก็บข้อมูลทั่วโลก ท่านสามารถพบซีเกทได้ทั่วโลกและค้นหาข้อมูลซีเกทเพิ่มเติมที่ seagate.com
ข้อควรระวังเกี่ยวกับข้อความที่เกี่ยวกับมุมมองในอนาคต
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยข้อความเกี่ยวกับมุมมองในอนาคตในความหมาย ของเซ็คชั่น 27 เอ (Section 27A) ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ปี ค.ศ. 1933 ตามที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม และเซ็คชั่น 21 อี (Section 21E) ของพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์ ค.ศ. 1934 ตามที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม ข้อความเกี่ยวกับมุมมองในอนาคตเหล่านี้ครอบคลุม แต่มิได้จำกัดอยู่เพียง ข้อความต่าง ๆ เกี่ยวกับผลการดำเนินงานในอนาคตและผลประกอบการทางการเงินในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 และประกอบด้วยข้อความต่าง ๆ เกี่ยวกับยอดรายรับ กำไรขั้นต้น การแข่งขันของผลิตภัณฑ์ ปริมาณความต้องการดิสก์ไดรฟ์ของลูกค้า และสถานการณ์ทางการตลาดโดยทั่วไปที่บริษัทคาดไว้ ข้อความเกี่ยวกับมุมมองในอนาคตเหล่านี้ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่มีอยู่แก่ซีเกทตามวันที่ที่ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ ความคาดหวัง การประมาณการและบทสรุปในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่าง ๆ รวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้ผลประกอบการที่แท้จริงแตกต่างจากสิ่งที่เราคาดไว้ในข้อความเกี่ยวกับมุมมองในอนาคตเหล่านี้ ความเสี่ยง ความไม่แน่นอนและปัจจัย อื่น ๆ อาจอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางด้าน เศรษฐกิจ ทั่วโลกยังคงนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อผลการดำเนินงานและผลประกอบการทางการเงินของบริษัท เนื่องจากผู้บริโภคและธุรกิจต่าง ๆ ได้เลื่อนและอาจยังคงเลื่อนการซื้อสินค้าออกไปตามการให้เครดิตที่เข้มงวด ยิ่งขึ้นและข่าวสารทางการเงินในแง่ลบ ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนดังกล่าวยังครอบคลุมผลกระทบของปริมาณความต้องการที่ผันแปรและสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรงของดิสก์ไดรฟ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ทางธุรกิจและเศรษฐกิจในปัจจุบัน ขึ้นอยู่กับความสามารถของซีเกท ในการทำให้ผู้ผลิตยอมรับผลิตภัณฑ์และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดิสก์ไดรฟ์จำนวนมากขึ้นบนพื้นฐานความมีประสิทธิภาพทางด้านราคาและคุณภาพที่ได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ดิสก์ไดรฟ์ใหม่ ๆ ที่มีโครงสร้างทางด้านต้นทุนลดลง และผลกระทบของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่สามารถแข่งขันได้และความเป็นไปได้ที่จะมีสินค้ามากเกินความต้องการของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ดิสก์ไดรฟ์บางประเภท ความสามารถของซีเกทในการประสบความสำเร็จในการลดค่าใช้จ่ายซี่งเกี่ยวเนื่องกับแผนการปรับโครงสร้างองค์กรที่ได้ประกาศไปแล้วและแผนการปรับโครงสร้างองค์กรที่คาดว่าจะมีขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยง ความไม่แน่นอนและปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้ผลประกอบการที่แท้จริงแตกต่างจากที่ประมาณการในข้อความเกี่ยวกับมุมมองในอนาคตเหล่านี้อยู่ในรายงานประจำปีของบริษัท ฟอร์ม 10-เค (Form 10-K) ตามที่ได้ส่งให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสหรัฐฯ ในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ซึ่งมีข้อความที่ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เพื่อใช้อ้างอิง ข้อความเกี่ยวกับมุมมองในอนาคตเหล่านี้ไม่ควรถูกนำมาใช้เพื่อแสดงความคิดเห็นของบริษัทหลังจากวันดังกล่าวและซีเกทขอสงวนสิทธิ์ในการ ทำให้ข้อความเกี่ยวกับมุมมองในอนาคตเหล่านี้ทันสมัยอยู่เสมอเพื่อสะท้อนให้เห็นเหตุการณ์หรือกรณีใดใดที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่ข้อความเหล่านี้ได้ถูกจัดทำขึ้น
For more information, please contact Khun Wacharee Pichaisriswad, Public Relations Consultant of Sir (Thailand) Co., Ltd. by calling 0-2720-3397 or emailing wacharee_pr@yahoo.com.