กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--ธนาคารทหารไทย
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB Bank ประกาศผลการดำเนินงานก่อนตรวจสอบสำหรับงวดครึ่งปีสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 ในวันนี้ ว่ามีกำไรสุทธิ 3,335 ล้านบาท
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ในงวดหกเดือนแรกของปีนี้ธนาคารมีรายได้จากดอกเบี้ยรับสุทธิ (NII) เพิ่มขึ้น 9% รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 24% และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2548 เนื่องจาก การขยายฐานด้านสินเชื่อและเงินฝากในครึ่งปีแรกของธนาคาร อีกทั้งดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์ได้ปรับตัวสูงขึ้นตามแนวโน้มระบบเศรษฐกิจโลก ด้านการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนเป็นผลสืบเนื่องจากการขยายฐานไปยังธุรกิจที่มีศักยภาพมากขึ้น รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์และให้บริการใหม่ๆ การวางกลยุทธ์ในการขยายช่องทางการขายบริการทั้งด้านเครือข่ายสาขาและบริการอิเล็กทรอนิกส์
อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเปรียบเทียบกับหกเดือนแรกของปี 2548 อันเป็นผลสืบเนื่องจากการปรับเงินเดือนและเงินรางวัลพิเศษสำหรับพนักงานเพื่อกระตุ้นให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการรับพนักงานใหม่เข้ามาเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจในในสภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูง อีกทั้งธนาคารได้มีการตั้งสำรองการด้อยค่าของตั๋วบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย และประกอบกับความผันผวนของตลาดทุนภายในประเทศ ทำให้ผลกำไรในงวดหกเดือนแรกของปีนี้ต่ำกว่างวดเดียวกันของปีที่แล้ว 800 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 19%
ฐานะทางการเงินของธนาคาร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 ธนาคารทหารไทย มีสินทรัพย์รวม 769,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จาก ณ สิ้นปี 2548 และมีเงินให้สินเชื่อรวม 560,146 ล้านบาท
สำหรับการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ นายสุภัคกล่าวว่า ธนาคารยังคงมุ่งพัฒนาธุรกิจตามแผนที่วางไว้โดยต่อเนื่อง ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนช่องทางการขาย มุ่งเพิ่มรายได้ เช่น บริการบัตรเดบิต โดยที่ธนาคารเป็นผู้ให้บริการบัตรเดบิตวีซ่าอิเล็กตรอนใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในประเทศไทย บริการโอนเงิน รับชำระเงิน บริการสินเชื่อ บริการวาณิชธนกิจ บริการด้านการค้าระหว่างประเทศ ขายประกันภัยและหน่วยลงทุนผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ cash management และบริการ TMB BizDirect ซึ่งเป็นบริการธนาคารอิเล็กทรอนิกส์สำหรับลูกค้านิติบุคคล ทั้งนี้ธนาคารยังคงพิจารณาควบคุมการลงทุนและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและการแข่งขันในตลาด เพื่อให้สอดรับกับแผนการเสริมสร้างความมั่นคงของฐานะเงินทุนโดยการเพิ่มทุนจดทะเบียนธนาคารที่อยู่ในระหว่างดำเนินการและคาดว่าจะเสร็จลุล่วงภายในไตรมาสที่ 3 นี้
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ:
อรธิชา รัตนวรรณาทิพย์
โทร. 02 242 3255