กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--กรมศุลกากร
ในวันนี้ (วันจันทร์ ที่ 2 พฤศจิกายน 2552) เวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากร งานสืบสวนปราบปราม 1 ฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 1 ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร จับกุมชายชาวปากีสถาน ลักลอบนำเข้าเฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 700 กรัม มูลค่าประมาณ 2.1 ล้านบาท ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ตามที่ นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายในเรื่องการควบคุมทางศุลกากรอย่างเคร่งครัด เกี่ยวกับการสกัดกั้นปราบปรามการลักลอบหนีศุลกากรและยาเสพติดให้โทษเพื่อปกป้องสังคม ได้สืบทราบว่า จะมีกลุ่มชาวปากีสถานจะลักลอบนำยาเสพติดให้โทษเข้ามาในราชอาณาจักรทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้สั่งการให้ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมศุลกากรด้านปราบปราม นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม และนายวรพัฒน์ เชาว์วิศิษฐ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 3 ดำเนินการวางแผนจับกุม
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2552 เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักสืบสวนและปราบปราม ได้ติดตามและแสดงตัวตรวจค้นชายชาวต่างชาติ ขณะเดินทางเข้ามาภายในบริเวณช่องตรวจไฟเขียว(ไม่มีของต้องสำแดง) หมายเลข 3 อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศฝั่งตะวันออก โซน B ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า นายมูฮัมหมัด อูเมอร์ บาบาร์ (MR. MUHAMMAD UMER BABAR) อายุ 23 ปี สัญชาติปากีสถาน ถือหนังสือเดินทางประเทศปากีสถาน เลขที่ AD3022302 เดินทางมาจากเมืองละฮอร์ ประเทศปากีสถาน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG346/02.11.52 จากการตรวจค้นตามตัวและกระเป๋าสัมภาระไม่พบวัตถุต้องสงสัยแต่พบอาการพิรุธจึงได้นำตัว ไปทำการเอ็กซเรย์ช่องท้อง พบวัตถุต้องสงสัยอยู่ในช่องท้องจำนวนมาก จึงให้ นายมูฮัมหมัด อูเมอร์ บาบาร์ ถ่ายวัตถุต้องสงสัยออกมาโดยเบื้องต้นถ่ายออกมาจำนวน 41 ก้อน และทำการทดสอบด้วยน้ำยาทดสอบยาเสพติดของสำนักงานปปส. ผลจากกการทดสอบปรากฏว่าเป็นเฮโรอีน โดย นายมูฮัมหมัด อูเมอร์ บาบาร์ ยอมรับสารภาพว่ากลืนมาทั้งหมด จำนวน 50 ก้อน น้ำหนักประมาณ 700 กรัม ราคาในท้องตลาดประมาณ 2.1 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ฯจะได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ พบว่า นายมูฮัมหมัด อูเมอร์ บาบาร์ รับทราบว่า การมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับอนุญาต เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 และพ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ฯจะได้ยึดของดังกล่าวพร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องหาส่งกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ งานสืบสวนปราบปราม 1 ฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 1 ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร ได้จับกุมผู้ลักลอบนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 2 ราย คือในวันที่ 30 ตุลาคม 2552 จับกุม นายมูฮัมหมัด อาฟซาล (MR. MUHAMMAD AFZAL) อายุ 22 ปี สัญชาติปากีสถาน ลักลอบนำเข้า เฮโรอีน โดยการกลืนลงในช่องท้อง จำนวน 43 ก้อน น้ำหนักประมาณ 500 กรัม ราคาในท้องตลาดประมาณ 1.5 ล้านบาท และ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 ได้จับกุมนายอารี เนาโนฮัมมาดี (MR. ALI NOURMOHAMMADI) อายุ 20 ปี สัญชาติอิหร่าน ลักลอบนำเข้าไอซ์ โดยวิธีการกลืนลงในช่องท้อง เช่นเดียวกัน จำนวน 19 ก้อน น้ำหนักประมาณ 165.4 กรัม มูลค่าในท้องตลาดประมาณ 6 แสนบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้ง 2 ราย ส่งกองบัญชาการตำรวจปราบปราม เพื่อดำเนินรคดีต่อไปเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 กรมศุลกากรสามารถจับกุมยาเสพติดให้โทษ ที่ลักลอบนำเข้าทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 23 ราย มูลค่าประมาณ 175 ล้านบาท
ประกอบด้วย
1. เฮโรอีน จำนวน 12 ราย น้ำหนัก 12.4 กิโลกรัม
2. ไอซ์ จำนวน 7 ราย น้ำหนัก 24.3 กิโลกัรม
3. โคเคน จำนวน 2 ราย น้ำหนัก 1.7 กิโลกัรม
4. ยาอี จำนวน 1 ราย น้ำหนัก 0.4 กิโลกัรม
5. กัญชา จำนวน 1 ราย น้ำหนัก 0.2 กิโลกรัม