กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--ก.ล.ต.
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวภายหลังการประชุมประจำไตรมาสร่วมกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุนว่า ก.ล.ต. และสมาคมมีมติร่วมกันที่จะกำหนดมาตรการส่งเสริมให้ผู้ลงทุนพิจารณาลงทุนในกองทุนรวมให้เหมาะสมสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนรับได้ เนื่องจากปัจจุบันกองทุนรวมได้พัฒนาจนมีตั้งแต่รูปแบบการลงทุนในตราสารที่เข้าใจง่าย ไปจนกระทั่งตราสารที่ซับซ้อน
และมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน จึงมีมาตรการที่จะกำหนดให้บริษัทจัดการจัดกลุ่มกองทุนรวมตามระดับความเสี่ยง โดยจะดำเนินการ ดังนี้
1. จัดระดับความเสี่ยงของกองทุนรวม โดยใช้ตัวเลข 1 ถึง 8 จากน้อยไปหามาก เพื่อให้เป็นวิธีสื่อสารให้แก่ผู้ลงทุนแบบเข้าใจง่าย
2. กำหนดให้สถาบันผู้ขายจะต้องทำการประเมินระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อให้คำแนะนำสำหรับผู้ลงทุนแต่ละคนเป็นการเฉพาะ แต่ทั้งนี้ผู้ลงทุนที่ประสงค์จะเลือกหน่วยลงทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูงกว่านั้นก็ยังสามารถทำได้ โดยจะต้องลงนามยืนยันว่าตนได้เข้าใจถึงระดับความเสี่ยงนั้นแล้ว
3. กำหนดให้กองทุนรวมตลาดเงินและกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ประกาศรับซื้อหน่วยลงทุนทุกวันทำการ จะต้องบริหารสภาพคล่องเพื่อรองรับให้มีการไถ่ถอนได้จริง โดยจะกำหนดให้กองทุนดังกล่าวลงทุนเฉพาะตราสารที่มีคุณภาพสูงและมีสภาพคล่อง อายุคงเหลือของตราสารในกอง จะต้องไม่ยาวเกินไป หากมีการลงทุนในต่างประเทศจะต้องมีจำนวนไม่มากนักและต้องป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า แนวคิดของ ก.ล.ต. ที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์ในเรื่องต่างๆ สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำความรู้จักลูกค้าด้วยการทำแบบสอบถาม เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ลงทุน และบริษัทจัดการ รวมถึงผู้ที่ทำหน้าที่ขายหน่วยลงทุน ซึ่งเมื่อได้ทราบระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนรับได้แล้ว การให้คำแนะนำและการตัดสินใจลงทุนจะทำได้อย่างเหมาะสม ลดปัญหาความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือการสื่อสารไม่ตรงกันได้เป็นอย่างดี