กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานจังหวัดในภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแจ้งเตือนประชาชนเตรียมรับมือสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างรวดเร็วในช่วงวันที่ 1-4 พฤศจิกายน 2552 ส่วนจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่งในระยะ 5-6 วันนี้ (วันที่ 30 ตุลาคม — 4 พฤศจิกายน 2552)
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศ กับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ช่วงวันที่ 1-4 พฤศจิกายน 2552 มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้พื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ลมแรง และอากาศหนาวเย็น ลงอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิลดลง 2-6 องศาเซลเซียล ประกอบกับช่วงวันที่ 30 ตุลาคม — 4 พฤศจิกายน 2552 หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้พื้นที่ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกและตกหนัก
ในบางพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง ส่วนจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานให้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณเทือกเขาและพื้นที่สูง เตรียมการป้องกันอันตรายจากภัยธรรมชาติที่มักเกิดขึ้นในช่วงอากาศหนาว พร้อมทั้งกำชับมิสเตอร์เตือนภัยแจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯในพื้นที่เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวอย่างรวดเร็วและทั่วถึง นอกจากนี้ปภ.ยังได้ประสานให้จังหวัดภาคใต้ตอนล่างดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน
ในระยะ 5-6 วันนี้ (วันที่ 30 ตุลาคม — 4 พฤศจิกายน 2552) โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ปริมาณน้ำจากกรมชลประทาน และระดับการขึ้น-ลงของน้ำจากกรมอุทกศาสตร์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย
เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย หากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดและอำเภอ
นายอนุชา กล่าวว่า ระยะนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นและลมแรง ขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและดูแลผลผลิตทางการเกษตรเป็นพิเศษ รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟทุกประเภททั้งการประกอบอาหารจุดธูปเทียน สูบบุหรี่ เป็นต้น เนื่องจากฤดูหนาวสภาพอากาศแห้งและลมพัดแรง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าสูงกว่าปกติ การขับขี่รถในช่วงที่มีหมอกลงจัด ควรเปิดไฟต่ำหรือไฟตัดหมอกจะช่วยให้มองเห็นสภาพเส้นทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ นอกจากนี้ยังพบว่าคลื่นลมบริเวณห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากสภาพอากาศหนาวเย็น อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-2432200 PR DDPM