กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--เอาท์ดอร์ พีอาร์
บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าไวนิลภายใต้แบรนด์ “WINDSOR” เปิดเวที “บ้านและสวนแฟร์ ครั้งที่ 10” ชูคอนเซ็ปต์ “Living Solution” เน้นตอบสนองคนรุ่นใหม่ที่มองหาวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วย VINYL สูตรพิเศษเฉพาะจาก WINDSOR พร้อมจุดประกายไอเดีย DIY ให้ผู้บริโภคนำไอเดียไปสร้างพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน
นายปรเมศวร์ นิสากรเสน กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าไวนิล แบรนด์ “WINDSOR” ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ SCG เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งพัฒนาวัสดุตกแต่งบ้านจาก VINYL อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นคำตอบของการอยู่อาศัยในปัจจุบันและอนาคตของลูกค้าด้วยคอนเซ็ปต์ Living Solution ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการผลิตวัสดุทางเลือกใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนไปถึงการนำไปใช้จริง และล่าสุดบริษัทฯ ได้นำสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐาน เข้าร่วมแสดงภายในงาน “บ้านและสวนแฟร์ ครั้งที่ 10” ซึ่งจัดขึ้น ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี ในระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม จนถึง 1 พฤศจิกายนนี้
“บูธของบริษัทฯ จะแสดงร่วมกับบริษัทในเครือของ SCG ที่มีคอนเซ็ปต์ 'Home Solution: Eco Conscious Design for Better Living' โดยรวบรวมสินค้าและบริการคุณภาพของบริษัทในเครือของ SCG ทั้งหมด มีทั้งระบบหลังคา ฝ้าและผนัง ห้องน้ำ วัสดุกรุพื้นผิว และพื้นที่ภูมิทัศน์ภายนอก พร้อมด้วยบริการแบบ One Stop Service ที่มีทีมงานมืออาชีพมาให้คำปรึกษา ทั้งการออกแบบ และการบริการหลังการขาย ซึ่งการรวมกลุ่มกันของบริษัทต่างๆในครั้งนี้จะทำให้บูธของ SCG ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา และจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ต้องการข้อมูลต่างๆ โดยสามารถเดินทางมาจุดเดียวได้เลย”
สำหรับในส่วนของการจัดแสดงสินค้าของ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด นั้น จะชูคอนเซ็ปต์ “Living Solution” ที่เน้นการตอบสนองของคนรุ่นใหม่ที่มองหาวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งวัสดุไวนิลเป็นวัสดุที่ Eco Friendly โดยเป็นวัสดุทดแทนวัสดุธรรมชาติ ลดการตัดไม้ทำลายป่า และ ในกระบวนการผลิตขึ้นรูปนั้นใช้พลังงานต่ำกว่าวัสดุอื่นๆ สำหรับบูธ WINDSOR นั้น จะแบ่งโซนในการจัดแสดงออกเป็น 3 โซน คือ โซนของหน้าต่างและประตูไวนิล WINDSOR ที่โชว์ Solution ในเรื่องของการเป็นฉนวนกันเสียง กันความร้อน อีกทั้งยังโชว์ในเรื่องของ Ventilation ซึ่งช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานทางอ้อมได้อีกด้วย
โซนที่ 2 จัดแสดงสินค้า Outdoor Living ที่นำเสนอ Solution ในการใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ในปัจจุบันโดยมีการเชื่อมโยงบ้านกับสวนเพื่อสร้างมุมพักผ่อนของคนในสังคมเมือง และโซน D.I.Y ซึ่งจะเป็นโซนที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้ามาร่วมงาน ในการนำอุปกรณ์หรือของตกแต่งที่ทำจากไวนิลไปทำเองที่บ้านได้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านในพื้นที่จำกัด
อย่างไรก็ตาม นายปรเมศวร์ ยังได้กล่าวถึงภาวะการแข่งขันในตลาดโดยภาพรวมว่า ปัจจุบันตลาดรวมประตู และหน้าต่างนั้นมีมูลค่ามากถึง 20,000-30,000 ล้านบาท โดยคิดเป็นมูลค่าตลาดไวนิลประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท และบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 75-80 เปอร์เซ็นต์ สำหรับตลาดรวมในปีนี้ยังคงทรงตัว หลังจากที่ชะลอตัวลงตามภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยยอดขายของบริษัทคาดว่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่มียอดขายอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าบ้านสร้างเอง 60% และกลุ่มงานโครงการ 40% ส่วนในปีหน้าคาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโตตามภาคธุรกิจอสังหาฯ ที่คาดว่าจะโต 6-10% ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายโตขึ้น 10% หรือมียอดขายประมาณ 1,100-1,200 ล้านบาท