กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--JOYBOY Advertising
บริษัท โตโยต้า โบโชคุ เอเซีย จำกัด สำนักงานภูมิภาคในประเทศไทย ดูแลกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน ยานยนต์รายใหญ่ ในเครือโตโยต้า โบโชคุ และอยู่ในกลุ่มโตโยต้ากรุ๊ป ได้ต้อนรับรัฐบาลไทย พร้อมตอก ย้ำการแก้ปัญหาด้านแรงงานในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยโดยไม่เลือกใช้นโยบายเลิกจ้างลูกจ้าง ถือเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สถานประกอบกิจการในประเทศไทย ในขณะที่หลายบริษัทจำเป็นต้องปรับลดจำนวนพนักงานตามกำลังการผลิตเพื่อให้สอดคล้องแก่รายได้บริษัท เพื่อให้กิจการดำรงอยู่ได้
จากการที่นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะรัฐบาลไทยได้เข้าเยี่ยมชมเทคโนโลยีการผลิตของบริษัท โตโยต้า โบโชคุ คอร์ปอเรชั่น (จำกัด) ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของโลก พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกิดประโยชน์และได้มอบหนังสือขอบคุณแก่ ท่านประธานใหญ่ ดร. ชูเฮ โตโยดะ เพื่อชื่นชมกับการแก้ปัญหาด้านแรงงาน ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยไม่เลือกใช้นโยบายการเลิกจ้างลูกจ้าง ซึ่งผู้บริหารของกลุ่มบริษัท โตโยต้า โบโชคุ ประเทศไทย ได้ปฎิบัติสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงแรงงานดังกล่าว โดยไม่เลิกจ้างลูกจ้างประจำ ซึ่งนับเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สถานประกอบกิจการในประเทศไทย โดยมี มร.โยชิฮิโระ ยามาดะ ประธานบริษัท และนายบรรจบ องค์ธนะสิน กรรมการบริหาร ของบริษัทโตโยต้า โบโชคุ เอเซีย จำกัด โดยเป็นตัวแทนของกลุ่มบริษัท โตโยต้า โบโชคุ กรุ๊ป ในประเทศไทย ให้การต้อนรับ ที่เมืองนาโกย่าประเทศญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆ นี้
นายบรรจบ องค์ธนะสิน กรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้า โบโชคุ เอเซีย จำกัด เปิดเผยว่า ในปัจจุบันยอมรับว่า โตโยต้า โบโชคุ ในไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนกันกับกิจการอื่นจนส่งผลทำให้ประมานการณ์ยอดขายของบริษัททั้งกลุ่มในไทยปี 2009 นี้ลดลงจากปีก่อน สำหรับแผนงานของกลุ่มบบริษัทฯ จะเน้นการลงทุนอย่างต่อเนื่องในไทยอีกประมาณกว่า 349 ล้านบาท ในธุรกิจชิ้นส่วน ยานยนต์เพื่อรองรับให้ไทยเป็นศูนย์ภูมิภาคเอเชียรวมโอเชียนน่า ตามที่บริษัทแม่ได้วางเป้าหมายและตอบรับกับที่ประเทศไทยสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ และอาจมีเป้าหมายต่อไปจากนี้อีก คือให้ไทยเป็นศูนย์ฝึกอบรม (Training Centre) และศูนย์ค้นคว้าวิจัย (R&D) ของกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ในกลุ่มของ โตโยต้าโบโชคุ ในภูมิภาคเอเชียรวมโอเชียนน่า ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อการจ้างงาน และการถ่ายทอดความรู้เชิงเทคนิคแก่คนไทย ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ คงเป็นไปได้ยากที่จะคาดเดาตลาดโลก และวางแผนใดๆ ได้อย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องของการเป็นศูนย์ภูมิภาคเอเชียนั้น การที่ไทยได้รับเลือกเป็นศูนย์ค้นคว้าวิจัย และอนาคตอาจเป็นศูนย์อบรมต่อไปอีกนั้น ย่อมหมายถึงความช่วยเหลือและแรงสนับสนุนที่ดี ระหว่างภาครัฐต่างๆ กับเอกชน โตโยต้าโบโชคุ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับโตโยต้ากรุ๊ป ปัจจุบันมีโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐอยู่ในพื้นที่จังหวัด ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา และมีสำนักงานภูมิภาคเอเชีย อยู่ที่เขตประเวศ จังหวัดกรุงเทพ เพื่อช่วยในการบริหาร กำกับ และดูแลกิจการ ในเครือ ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย
ทั้งนี้บริษัท โตโยต้า โบโชคุ คอร์ปอเรชั่น (จำกัด) ได้มีการลงทุนจดทะเบียนในบริษัทต่างๆ ในประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 1,676 ล้านบาท และมียอดขายต่อปีรวมกันเฉพาะบริษัทในกลุ่ม ที่ประเทศไทย ประมานสามหมื่นล้านต่อปีซึ่งคิดเป็นสัดส่วนได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับรายได้จากประเทศอื่นๆ สำหรับเป้าหมายทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท โตโยต้า โบโชคุ ในปีนี้ คาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ 23,765 ล้านบาท หรือลดลง 21% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยทั้งสิ้น 29,997 ล้านบาท