กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
ราคาสมาคม เปิดที่ 17,050 — 17,150
ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,090
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 33.40— 33.48
GFZ09 Hi- Low 17,220 - 17,090 ปิดที่ 17,200
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,089.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,084.30-1,095.20 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองในด้านบวกต่อเศรษฐกิจ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุด และข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
พุ่งขึ้น 203.82 จุด หรือ 2.08% ปิดที่ 10,005.96 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 20.13 จุด หรือ 1.92% แตะที่ 1,066.63 จุดขานรับตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์ที่ร่วงลงและผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท ซิสโก ซิสเต็มส์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานประจำเดือนต.ค.ในวันศุกร์นี้
น้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 78 เซนต์ ปิดที่ 79.62 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 80.07-79.62 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อสองวันก่อน นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อการคาดการณ์ที่ว่าตัวเลขจ้างงานในสหรัฐจะลดลงอย่างต่อเนื่องและอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี
กองทุน SPDR Gold Trust
SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 5 พ.ย. ขายออก 0.06 ตันโดยถือครองลดลงจากระดับ 1,108.40 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,108.34 ตัน
USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรา นิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความ เสี่ยง หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและเพิ่มวงเงินซื้อสินทรัพย์ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังฟื้นตัวขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4874 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4876 ยูโรต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.4863 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.08% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.750 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 90.680 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 90.68 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 33.38/33.46 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งมีการไม่มีการเคลื่อนไหวมานักจากการเปิดตลาดในตอนเช้า โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ที่ระดับ 33.36/33.43 บาทต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
? กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขชาวสหรัฐที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ต.ค. ร่วงลง 20,000 ราย แตะระดับ 512,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนและลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 523,000 รายตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าการปรับลดตำแหน่งงานในสหรัฐเริ่มบรรเทาลงแล้วเนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยจีดีพีขยายตัว 3.5%ต่อปีในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการขยายตัวไตรมาสแรกหลังจากหดตัวมากว่า 1 ปี และขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 3.2%ต่อปี
? สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศให้เครดิตพินิจแก่เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ ซึ่งอาจทำให้เบิร์คเชียร์ถูกปรับลดอันดับเครดิต หลังจากเข้าซื้อกิจการบริษัท เบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทสร้างทางรถไฟขนาดใหญ่ เป็นเงินมูลค่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดย S&P ระบุว่าการเข้าซื้อกิจการเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ จะส่งผลให้สภาพคล่องและเงินทุนในธุรกิจประกันของเบิร์คเชียร์หดตัวลง
? ซีอีโอบริษัท Emerging Global Advisors LLC ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนรายใหญ่ในนิวยอร์ก คาดการณ์ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,350 ดอลลาร์/ออนซ์ ในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากการซื้อเก็งกำไรของกลุ่มกองทุนบำเน็จบำนาญ กลุ่มเฮดจ์ฟันด์ และนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ และคาดว่านักลงทุนกลุ่มนี้จะเพิ่มการลงทุนด้านสินค้าโภคภัณฑ์ในพอร์ทอีก 5-10%
? นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนต.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ จะร่วงลงอีก 175,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นสถิติที่ร่วงลงรุนแรงสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930 และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนต.ค.จะพุ่งขึ้นแตะ 9.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี
? ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1% ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่มีการคาดหมายกันว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะหลุดพ้นจากภาวะถดถอยในช่วงปลายปีนี้ แต่การฟื้นตัวก็ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เนื่องจากปัจจัยด้านการจ้างงานที่ยังคงย่ำแย่
? ธนาคารกลางอังกฤษประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุด 0.5% เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน และตัดสินใจขยายโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing: QE) อีก 2.5 หมื่นล้านปอนด์ รวมเป็น 2 แสนล้านปอนด์ โดยมีเป้าหมายที่จะเสริมสภาพคล่องในระบบธนาคาร และดึงเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะถดถอย
? ซีอีโอบริษัท Emerging Global Advisors LLC ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนรายใหญ่ในนิวยอร์ก คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากการซื้อเก็งกำไร