กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานจังหวัดในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยหนาวเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ส่วนจังหวัดในภาคใต้ให้เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในระยะนี้(วันที่ 6-7 พฤศจิกายน 2552)
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ขณะที่ประเทศตอนบนเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิลดลง 3-6 องศาเซลเซียล ส่วนภาคใต้ก็เข้าสู่ฤดูมรสุมแล้วเช่นกัน โดยภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลาดเชิงเขา ทางน้ำไหลผ่าน และที่ลุ่มต่ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมความพร้อมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็น โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวในระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมเร่งจัดทำบัญชีผู้ประสบภัยหนาว และจัดเตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยหนาวตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติมพร้อมจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และรายงานสถานการณ์ภัยหนาวให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทราบในทุกวันพุธของสัปดาห์ เพื่อปรับแผนให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวได้อย่างทันท่วงทีและสอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ปภ.ได้ประสานจังหวัดในภาคใต้ตอนล่าง เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัย และดินโคลนถล่มจากภาวะฝนตกหนัก โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯในระดับจังหวัด อำเภอ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ปริมาณน้ำจากกรมชลประทาน และระดับการขึ้น-ลงของน้ำจากกรมอุทกศาสตร์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดและอำเภอ พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่และสังเกตพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีขุ่นข้น ให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของไปยังที่ปลอดภัย เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ ส่วนอ่าวไทยและทะเลอันดามันคลื่นลมมีกำลังแรง ขอให้ชาวประมงระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะ1-2 วันนี้ (วันที่ 6-7 พฤศจิกายน 2552) สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น อุกทกภัย และดินโคลนถล่มสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทาง
สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-2432200 PR DDPM