กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--เวเบอร์ แชนด์วิค
จากการสำรวจดัชนีแบรนด์ประเทศ (Country Brand Index, CBI) ในปี 2552 นี้ แบรนด์ประเทศไทยติดอันดับใน 3 ประเภท ด้วยอัธยาศัยของคนไทยที่อบอุ่นและมีน้ำใจ จนได้รับการขนานนามว่า “สยามเมืองยิ้ม” จึงทำให้แบรนด์ประเทศไทยสามารถคว้าอันดับที่ 4 ด้านประเทศที่มีประชาชนมีมิตรไมตรี นอกจากนี้ยังติดอันดับที่ 3 ประเทศที่มีความคุ้มค่าสมราคา และอันดับที่ 5 ประเทศมีแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ดี จากการติดอันดับทั้ง 3 ประเภทนี้ ถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทยที่ล้วนเป็นที่ประจักษ์จากการสำรวจที่ครอบคลุมทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว 3,000 ราย จาก 9 ประเทศ
ดัชนีแบรนด์ประเทศ (CBI) คือ ผลสำรวจในการจัดอันดับประเทศในด้านต่างๆ รวมถึงการบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกทางด้านธุรกิจการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และสร้างรายได้มหาศาลทั่วโลกกว่า 944 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในปีพ.ศ. 2551 ที่ผ่านมา โดยธุรกิจการท่องเที่ยวได้สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นถึง 6.7 เปอร์เซ็นต์และสร้างแรงงานเพิ่มขึ้นถึง 7 เปอร์เซ็นต์
แบรนด์ประเทศที่ติดอันดับทั้งหมด มีประเทศญี่ปุ่นเพียงประเทศเดียวในเอเซียที่ติดอันดับที่ 7
10 อันดับแบรนด์ประเทศปี 2009
2009 CBI Top Country Brands
1. สหรัฐอเมริกา
2. แคนาดา
3. ออสเตรเลีย
4. นิวซีแลนด์
5. ฝรั่งเศส
6. อิตาลี
7. ญี่ปุ่น
8. สหราชอาณาจักร
9. เยอรมัน
10. สเปน
ทั้งนี้ ผลสำรวจดัชนีแบรนด์นี้ จัดทำโดยบริษัท ฟิวเจอร์ แบรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในการสร้างแบรนด์ ร่วมกับบริษัท เวเบอร์ แชนวิค บริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ชั้นนำ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านวิจัยการท่องเที่ยว รวมถึงการจัดอันดับ และแนวโน้มของตลาด แนวคิดในการสร้างและทำการตลาด ตลอดจนการวิเคราะห์เชิงลึกทางด้านจุดแข็งและจุดอ่อนของแบรนด์ประเทศที่ตัดอันดับทั้ง 10 ประเทศ รวมถึงแบรนด์ประเทศที่อยู่ในอันดับ 11 — 20 อีกด้วย นอกจากนั้น การสำรวจวิจัยยังครอบคลุมถึงอีก 102 แบรนด์ประเทศในอันดับถัดไปอีกด้วย โดยมีหัวข้อใหม่ในการทำวิจัย อาทิ มุมมองด้านการเมืองและเศรษฐกิจของแบรนด์ประเทศ ความขัดแย้งระหว่างความเชื่อและความเป็นจริงในแบรนด์ประเทศ และ “มิติใหม่ในการมองคุณค่า” ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้แก่ผู้เชี่ยวชาญในวงการท่องเที่ยวในปีนี้ (ดูผลสำรวจได้ที่ www.futurebrand.com/cbi)
“นับว่าเป็นปีที่ห้าที่เราสามารถจุดประกายความคิดใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์แบรนด์ประเทศ ด้วยวิธีการ และการค้นหาสิ่งต่างๆ ของแบรนด์ประเทศในด้านธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งการสำรวจนี้ไม่ใช่เพื่อนักท่องเที่ยวเพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลในหลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการลงทุน การค้า และนโยบายต่างๆ อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศต่างๆ ต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลก ความจำเป็นในการขยายโอกาส และการแสดงลักษณะพิเศษที่มีอยู่นับว่าเป็นเรื่องที่ควรพิจารณา” รีน่า พลาบเลอร์ ผู้บริหารอาวุโส บริษัทฟิวเจอร์แบรนด์กล่าว
“ปัจจุบันการทำการตลาดโดยใช้ป้ายโฆษณาเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวในประเทศนั้นล้าหลังไปแล้ว การที่รัฐบาลมีแนวความคิดในการสร้างและขยายการรับรู้แบรนด์ประเทศ ยังแสดงให้เห็นถึงบ่อเกิดวัฒนธรรม การส่งออก อสังหาริมทรัพย์ และภาษีรายได้อีกด้วย วลีที่มักจะพบอยู่บ่อยครั้ง คือ ‘’อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นใหญ่เกินกว่าที่จะทรุดลงได้” หากเป็นเช่นั้น ถ้าไม่มีใครให้ความสนใจ ประเมินค่าต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่มีสิ่งจูงใจ การแข่งขันก็จะเกิดขึ้น” เรอเน่ เอ. แมค (Rene A. Mack) ประธานกลุ่มสายงานท่องเที่ยว บริษัท เวเบอร์ แชนด์วิค กล่าว “รายได้ในประเทศสหรัฐอเมริกาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนการบริหารงานใหม่”
ในปีนี้ การสำรวจดัชนีแบรนด์ประเทศ ได้นำเสนอประเด็นที่หลากหลาย ซึ่งสอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญด้านนักท่องเที่ยวและนักเดินทาง อาทิ ทำอย่างไรให้ประเทศเล็กๆ สามารถประสบความสำเร็จเทียบเท่าประเทศที่ใหญ่กว่า ช่องทางที่แตกต่างสามารถก่อให้เกิดคุณค่ามากขึ้น และการสร้างแบรนด์ประเทศที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดในปีนี้ หัวข้อสำคัญอื่นๆมุ่งประเด็นเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการสร้างแบรนด์ประเทศและสัญลักษณ์ของประเทศ บริษัทนานาชาติและกีฬาสามารถผลักดันพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์ประเทศได้อย่างไร
การสำรวจดัชนีแบรนด์ประเทศ โดยเรียงลำดับจาก 1 ถึง 5 แยกตามประเภท ได้ดังนี้
ดัชนีแบรนด์ประเทศปีพ.ศ. 2552
แบรนด์ประเทศที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจ
(Best Country Brand Ideal for Business)
สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เยอรมัน แคนาดา
United States, Singapore, Japan, Germany, Canada
แบรนด์ประเทศด้านเพิ่มระยะเวลาการทำธุรกิจ
Best Country Brand to Extend a Business Trip
ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อิตาลี สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์
Australia, Japan, Italy, United States, New Zealand
แบรนด์ประเทศมีศิลปะและวัฒนธรรม
(Best Country Brand for Art & Culture)
อิตาลี ฝรั่งเศส อินเดีย ญี่ปุ่น กรีก
Italy, France, India, Japan, Greece
แบรนด์ประเทศที่มีความเป็นเอกลักษณ์ที่แท้จริง
(Best Country Brand for Authenticity)
ญี่ปุ่น อินเดีย เปรู กัมพูชา ภูฏาน
Japan, India, Peru, Cambodia, Bhutan
แบรนด์ประเทศที่มีชายหาดที่สวยงาม
(Best Country Brand for Beach)
ตาฮิติ อารูบา บาบาดอส ฟิจิ บาฮามาส
Tahiti, Barbados, Aruba, Fiji, Bahamas
แบรนด์ประเทศที่เหมาะสำหรับครอบครัว
(Best Country Brand for Families)
แคนาดา ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ โปรตุเกสCanada, Australia, United States, New Zealand, Portugal
แบรนด์ประเทศที่มีประวัติศาสตร์
(Best Country Brand for History)
อียิปต์ อินเดีย เปรู อิสราเอล อิตาลี
Egypt, India, Peru, Israel, Italy
แบรนด์ประเทศที่มีรีสอร์ทและที่พัก เป็นทางเลือกที่ดี
(Best Country Brand for Resort & Lodging Options)
แคนาดา ตาฮิติ บาฮามาส สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก
Canada, Tahiti, Bahamas, United States, Mexico
แบรนด์ประเทศมีธรรมชาติที่งดงาม
(Best Country Brand for Natural Beauty)
ตาฮิติ คอสตา ริก้า แคนาดา นิวซีแลนด์ ฟิจิ
Tahiti, Costa Rica, Canada, New Zealand, Fiji
แบรนด์ประเทศมีแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ดี
(Best Country Brand for Nightlife)
ญี่ปุ่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา บราซิล ไทย
Japan, United Kingdom, United States, Brazil, Thailand
แบรนด์ประเทศมีอาหารการกินที่ดี
(Best Country Brand for Fine Dining)
ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น อาร์เจนตินา สิงคโปร์
France, Italy, Japan, Argentina, Singapore
แบรนด์ประเทศมีกิจกรรมกลางแจ้งและกีฬาที่ดี
(Best Country Brand for Outdoor Activities & Sports)
ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ คอสตา ริก้า แคนาดา อารูบา
Australia, New Zealand, Costa Rica, Canada, Aruba
แบรนด์ประเทศเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดี
(Best Country Brand for Rest & Relaxation)
ตาฮิติ บาบาดอส อารูบา ฟิจิ บาฮามาส
Tahiti, Barbados, Aruba, Fiji, Bahamas
แบรนด์ประเทศมีความปลอดภัย
(Best Country Brand for Safety)
แคนาดา เยอรมัน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เบอร์มิวด้า
Canada, Germany, Japan, New Zealand, Bermuda
แบรนด์ประเทศมีแหล่งซื้อของที่ดี
(Best Country Brand for Shopping)
สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ
Singapore, United States, Japan, UAE, United Kingdom
แบรนด์ประเทศที่มีค่าสมราคา
(Best Country Brand for Value for Money)
อินเดีย เม็กซิโก ไทย เวียดนาม บัลกาเรีย
India, Mexico, Thailand, Vietnam, Bulgaria
แบรนด์ประเทศที่เป็นที่ที่ชื่นชอบสำหรับการอยู่อาศัย
(Best Country Brand You Would Most Like to Live In)
แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา
Canada, Australia, New Zealand, Switzerland, United States
แบรนด์ประเทศที่มีความสะดวกต่อการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
(Best Country Brand for Ease of Travel)
เยอรมัน ไอร์แลนด์ แคนาดา สิงคโปร์ เบอร์มิวด้า
Germany, Ireland, Canada, Singapore, Bermuda
แบรนด์ประเทศที่มีมาตรฐานการครองชีพที่ดี
(Best Country Brand for Standard of Living)
เยอรมัน แคนาดา ญี่ปุ่น ฟินด์แลนด์ สิงคโปร์
Germany, Canada, Japan, Finland, Singapore
แบรนด์ประเทศที่มีเสรีภาพทางการเมือง
(Best Country Brand for Political Freedom)
แคนาดา เยอรมัน ออสเตรเลีย อังกฤษ นิวซีแลนด์
Canada, Germany, Australia, United Kingdom, New Zealand
แบรนด์ประเทศที่มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า
(Best Country Brand for Advanced Technology)
ญี่ปุ่น เยอรมัน สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ อังกฤษ
Japan, Germany, United States, Singapore, United Kingdom
แบรนด์ประเทศมีสินค้าที่มีคุณภาพ
(Best Country Brand for Quality Products)
ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เยอรมัน ฟินแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์
Japan, United States, Germany, Finland, Switzerland
แบรนด์ประเทศมีการดูแลสิ่งแวดล้อมที่ดี
(Best Country Brand for Environmentalism)
ฟินแลนด์ เยอรมัน แคนาดา นิวซีแลนด์ ไอซ์แลนด์
Finland, Germany, Canada, New Zealand, Iceland
แบรนด์ประเทศมีประชาชนที่เป็นมิตรไมตรี
(Best Country Brand for Friendly Locals)
ฟิจิ ไอร์แลนด์ อารูบา ไทย เบอมิวด้า
Fiji, Ireland, Aruba, Thailand, Bermuda
แบรนด์ประเทศที่ง่ายมากต่อการทำธุรกิจ
(Best Country Brand Easiest to Do Business In)
สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ เยอรมัน
Singapore, United States, Canada, United Kingdom, Germany
แบรนด์ประเทศที่เหมาะสำหรับการประชุม
(Best Country Brand for Conferences)
ญี่ปุ่น เยอรมัน สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ
Japan, Germany, Singapore, United States, United Kingdom
แบรนด์ประเทศที่เป็นประเทศใหม่สำหรับธุรกิจ
(Best New Country for Business)
ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ อินเดีย สิงคโปร์
Japan, United States, United Kingdom, India, Singapore
แบรนด์ประเทศที่มีความประสงค์จะมากลับเยือนอีก
(Best Country Brand You Desire to Visit / Visit Again)
ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มัลดีฟ ตาฮิติ สหรัฐอเมริกา
Australia, New Zealand, Maldives, Tahiti, United States
ดัชนีแบรนด์ประเทศประจำปีพ.ศ. 2551 รายงานถึงแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจการท่องเที่ยว
ประกอบด้วย:
? ค่านิยม ความเชื่อที่มีผลต่อพฤติกรรม — ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในเรื่องการท่องเที่ยว ที่จะต้องคำนึงถึงสถานภาพทางการเงินของตนเองเป็นหลัก แนวความคิดในเรื่องความคุ้มค่าคุ้มราคาจึงเป็นประเด็นหลักในหมู่นักท่องเที่ยวกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่านักท่องเที่ยวจะมีกำลังเงินเพียงพอที่จะสามารถซื้อบริการการท่องเที่ยวในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราหรือแสนจะธรรมดา แต่ผู้บริโภคก็ยังคาดหวังเรื่องการต่อรองทางราคา นอกจากนี้ ผู้บริโภคจะวิเคราะห์เรื่องการเงินอย่างถี่ถ้วนในการเลือกเส้นทางการท่องเที่ยวและสิ่งอื่นๆ ที่มีราคาถูกกว่า โดยจะทำการจองทริปการเดินทางตามสไตล์ที่ตนเองคุ้นเคย
? ทัศนคติเกี่ยวกับการวางแผนการเดินทาง — เงื่อนไขการต่อรองในการเดินทางในวินาทีสุดท้ายและเครื่องมือทางอินเตอร์เน็ตที่เอื้ออำนวยต่อการต่อรองทางการจองทริปแบบกะทันหันนั้นมีมากขึ้น การเติบโตระหว่างทริปที่ไม่ได้เตรียมการมาล่วงหน้าและทริปอื่นๆ มีแนวโน้มต้องจัดการอย่างระมัดระวัง ข้อเท็จจริงจากการศึกษายังพบว่า แม้ในระหว่างเกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจ แต่ความจำเป็นในการท่องเที่ยวก็ยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปร่วมงานสำคัญ เช่นงานมงคลสมรส หรือการขับรถไปเชียร์ทีมในดวงใจในการแข่งขันกีฬา Super Bowl นอกจากนั้นการเปิด road trip เป็นการเปิดมุมมองทางการท่องเที่ยว และขยายการอนุญาตให้กับผู้โดยสารเพื่อวางแผนในการจองโรงแรม ด้วยประการนี้นักท่องเที่ยวจึงสามารถได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกในนาทีสุดท้าย
? ความเร้นลับความน่าเชื่อถือ — สิ่งสำคัญของความน่าเชื่อถือ คือ การเป็นที่รู้จัก อย่างไรก็ดี ทัศนคติที่ต่างกันและการให้คำจำกัดความที่ต่างกันในเชิงของความคิด คือ ความขัดแย้งว่าทำไมบางจุดหมายปลายทางจึงมีความเจริญก้าวหน้าและประสบการณ์การท่องเที่ยว คือ การปรับปรุงแนวคิดใหม่ แนวโน้มที่กำลังจะปรากฎในการสนทนาในวงกว้าง ได้แก่
o จุดหมายปลายทางจำลอง — จุดหมายที่รับรู้ได้ถึงความคลาสสิกของสถานที่ในอดีต เช่น ปารีส โรม และลอนดอน เป็นจุดหมายปลายทางเดิมๆที่ธุรกิจการท่องเที่ยวจะให้ความสนใจลดลง โดยการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสิ่งก่อสร้างพื้นฐานรวมทั้งอาคารให้มีความน่าสนใจสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและนักลงทุนได้ ตัวอย่างของจุดหมายปลายทางจำลอง เช่น เกาะที่ถูกสร้างขึ้นที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะอิสลามที่ประเทศกาตาร์
o การท่องเที่ยวสมมติ : นักท่องเที่ยวมักจะมองหาประสบการณ์ที่แท้จริงจากสถานที่ท่องเที่ยวจริงมากกว่า แต่ไม่อยากจะวางแผนการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง จึงเลือกที่จะจ่ายเงินให้กับโรงแรมและทัวร์สำหรับการท่องเที่ยวในที่จำลองขึ้นมา เช่น การท่องเที่ยววัดมายานที่เกาะแอตแลนติส พาราไดซ์ ในประเทศบาฮามาส และการพายเรือกอนโดลาที่เดอะเวเนเชี่ยน ในลาสเวกัส เพื่อสัมผัสประสบการณ์ในรูปแบบที่แท้จริงได้เช่นกัน ในขณะที่บางประเทศ พยายามที่จะใช้เต็นท์ลักษณะที่หรูหราให้เหมือนกับบรรยากาศมอลอรี่ ซาฟารี ลอดจ์ (Molori Safari Lodge) ในแอฟริกาใต้ ด้วยการสร้างบรรยากาศการนำเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเปรียบเสมือนอยู่ในสถานที่จริง
o เพชรอันล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ — ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แท้จริงของนักเดินทางที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว คือ การผจญภัยในสถานที่ใหม่ๆที่ยังไม่เคยไป ยกตัวอย่างเช่น ประเทศโครเอเชียและไทยที่เคยติดอันดับต้นๆของโปรแกรมท่องเที่ยวที่น้อยคนนักจะรู้จัก จากการสำรวจพบว่า ประเทศการ์น่า และคาบสมุทรบอลข่านจะเป็นสถานที่ผจญภัยสำหรับนักสำรวจในอนาคต
o แหล่งความเจริญทางอารยธรรม — แม้ว่าประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอยู่มากมาย แต่กลับต้องถูกลบเลือนอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สงบทางการเมือง ไม่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน อย่างไรก็ดี จากการสำรวจคาดว่า จำนวนผู้มาเยือนแหล่งอารยธรรมจะมีเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยกว่า เช่น ที่ เฟอร์ไทล์ เครสเซนต์ (Fertile Crescent) ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวในอิรัก, หุบเขาอินดัส (the Indus Valley) ในปากีสถาน และราชอาณาจักรโบราณมาลีและซองไฮในสาธารณรัฐมาลีและไนเจอร์ในยุคปัจจุบัน
แบรนด์ประเทศใหม่ที่กำลังมาแรง
ดัชนีผลสำรวจยังระบุอีกด้วยว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีน และเวียดนาม ตามลำดับ คือ ดาวดวงใหม่อันดับต้นๆ ที่กำลังจะเป็นประเทศจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งประเทศที่มาแรงทางการท่องเที่ยวในปีนี้ คือ โครเอเชีย แอฟริกาใต้ และอินเดีย
ระเบียบวิธีการสำรวจ
ฟิวเจอร์แบรนด์พัฒนาระบบการศึกษา 3 ขั้น สำหรับการทดสอบและจัดอันดับแบรนด์ประเทศ การวิจัยเชิงปริมาณกลุ่มบริษัทดัชนี แบรนด์ประเทศ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และแหล่งข้อมูลที่สองที่สำคัญสำหรับสถิติมีความเชื่อมโยงกับคุณค่าของแบรนด์ การขยายตัวและการเติบโตของแบรนด์ ผลที่ได้คือระบบประเมินผลที่เป็นเอกลักษณ์ในการจัดอันดับเบื้องต้นของแบรนด์ประเทศ ในปี 2009 การสำรวจความเข้าใจแนวคิดของ 3,000 ธุรกิจระหว่างประเทศโดยประมาณ และนักท่องเที่ยวเพื่อความบันเทิงจากเก้าประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ จีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น บราซิล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เยอรมณี และรัสเซีย ผู้เข้าร่วมได้ที่รับการคัดเลือก ได้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางประจำ (ผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่าหนึ่งครั้งภายในหนึ่งปี) อายุระหว่าง 21-65 ปี โดยมีจำนวนของชายและหญิงเท่าๆกัน ผลตอบรับของผู้เข้าร่วมจาก 102 แบรนด์ประเทศ บอกถึงจำนวน ในการเลือกเส้นทางการท่องเที่ยว สมาคมประเทศจัดเรียง 29 คุณสมบัติภาพลักษณ์ และการรับรู้ในภาพรวม ความชำนาญ การเดินทางในที่ต่างๆที่เคยไปมา ความต้องการเดินทาง และความสมัครใจที่จะแนะนำเส้นทางการท่องเที่ยวให้กับผู้อื่น ผลการสำรวจรวมบรวมและให้น้ำหนักกับการบริโภคการท่องเที่ยวเพื่อลดอคติของผู้ตอบที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นซึ่งอาจตอบเกินความเป็นจริงในกลุ่มตัวอย่าง รายชื่อผู้เชี่ยวชาญของเราในปี 2009 ประกอบด้วย 47 ผู้เชี่ยวชาญทางการท่องเที่ยวและการโรงแรมผู้ซึ่งไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลจำเพาะของเส้นทางนั้น
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
รุ่งนภา ชาญวิเศษ
เวเบอร์ แชนวิค (ประเทศไทย)
โทรศัพท์ 02-343-6000 ต่อ 061
อีเมล์ rungnapa@webershandwick.com