กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
กทม. มั่นใจรับมือหวัด 2009 ระลอกสองได้ หลังหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมตั้งแต่ ต.ค. ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเดินหน้ามาตรการ 5 ด้านต่อเนื่อง และนำร่องซ้อมแผนป้องกันหวัด 2009 ในโรงเรียนและชุมชน สร้างความมั่นใจแก่ประชาชนอย่าหวั่นวิตกแม้พบการระบาดในต่างประเทศ หากช่วยกันเฝ้าระวังสามารถป้องกันได้
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประกาศความพร้อมการดำเนินงานป้องกันและหยุดยั้งไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยมี พญ.มนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย นางสาวอมรรัตน์ กฤตยานวัช ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ นางสาวเพ็ญศรี แย้มแสง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดหลักสี่ และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธี ซึ่งกรุงเทพมหานครรวมพลังหน่วยงานในสังกัด ประกอบด้วย สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ สำนักงานเขต ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงเรียน และ Mr. 2009 เตรียมพร้อมรับมือการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกสอง ในช่วงฤดูหนาว พร้อมเยี่ยมชมการปฏิบัติการตามแผนป้องกันและหยุดยั้งไข้หวัดใหญ่ 2009 ณ โรงเรียนวัดหลักสี่ เขตหลักสี่
เตรียมการ 5 ด้าน รับมือระบาดรอบสอง
กรุงเทพมหานครเตรียมมาตรการรับมือการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 รอบสอง ใน 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านที่ 1 ระบบการเฝ้าระวัง (Surveillance system) มุ่งเน้นการเฝ้าระวัง ตรวจจับการระบาดในประชาชนกลุ่มเสี่ยง เฝ้าระวังเชิงรุกทั้งในคนและสัตว์ปีกควบคู่กัน สร้างเครือข่ายเฝ้าระวังโรคโดยมีผู้ประสานงาน และแจ้งข่าว (Mr.2009) ในระดับเขต และศูนย์บริการสาธารณสุข รวมทั้งพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ ในชุมชน สถานประกอบการ สถานศึกษา แหล่งชุมนุมชน จำนวนทั้งหมด 11,000 คน สำหรับภายในโรงเรียนทุกแห่ง กทม. ได้ตั้งอาสาสมัคร “อัศวินน้อย2009” เพื่อแจ้งข่าวและเฝ้าระวังโรคในกลุ่มเพื่อนนักเรียน ด้านที่ 2 ระบบการควบคุมป้องกันโรค เร่งสอบสวนโรคในผู้ป่วยเสียชีวิต และการระบาดเป็นกลุ่ม พร้อมทั้งเร่งรัดมาตรการป้องกันควบคุมโรคในโรงเรียน ชุมชน สถานประกอบการ ด้านที่ 3 ระบบการสื่อสารประชาสัมพันธ์ รณรงค์เชิงรุกเพื่อสร้างความตระหนักและเข้าใจแก่ประชาชนและกลุ่มเสี่ยงต่อโรครุนแรง เพื่อส่งเสริมการดูแลตนเอง (self care) อีกทั้งประสานเครือข่ายสื่อสารมวลชนทุกระดับร่วมรณรงค์ จัดทำโครงการ “ปังปอนด์ ยุวทูตวัยใส กับปฏิบัติการปิ๊ดปี้ปิ๊ด รวมพลังสู้หวัด” โดยจะเริ่มรณรงค์เบื้องต้นใน 50 โรงเรียนทุกสังกัดในเขตกรุงเทพมหานคร พร้อมแต่งตั้งปังปอนด์ให้เป็น “ยุวทูตวัยใส” เพื่อเป็นตัวแทนในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรู้เท่าทันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้แก่เด็กและประชาชนอย่างถูกต้อง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในวันศุกร์ที่ 6 พ.ย. 52 ด้านที่ 4 ระบบการจัดเตรียมวัสดุ เวชภัณฑ์ วัคซีน โดยจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับใช้ป้องกันการติดเชื้อ (personal protective equipment : PPE) จัดเตรียมหน้ากากอนามัย ยาต้านไวรัส แอลกอฮอล์เจล และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และด้านที่ 5 ระบบกำกับติดตามประเมินผล มีระบบกำกับติดตามประเมินผลในหน่วยปฏิบัติงานระดับพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานคร ด้วยการดำเนินการเร่งรัดแผนควบคุมป้องกันโรคในโรงเรียน และชุมชน โดยนำผลและแนวทางที่ได้จากการซ้อมแผนจัดทำเป็นคู่มือแจกจ่ายสำหรับหน่วยงานและโรงเรียนนำไปดำเนินการต่อไป
นำร่องซ้อมแผนป้องกันไข้หวัดในโรงเรียน 4 แห่ง ชุมชน 2 แห่ง
กรุงเทพมหานครจัดซ้อมแผนป้องกันและหยุดยั้งไข้หวัดใหญ่ 2009 นำร่องในโรงเรียน 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดหลักสี่ เขตหลักสี่ โรงเรียนบ้านคลองกลันตัน เขตประเวศ โรงเรียนอนุบาลสาริน เขตดุสิต และโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ เขตบางรัก และชุมชน 2 แห่ง ในพื้นที่เขตหนองจอก และคลองเตย
โดยวันนี้โรงเรียนวัดหลักสี่ ได้แสดงศักยภาพความพร้อมรับสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกสอง อย่างเข้มแข็ง มีจุดคัดกรอง จุดตรวจ บริเวณหน้าประตูโรงเรียน หากพบนักเรียนมีอาการต้องสงสัย อาทิ ไอ จาม เจ็บคอ และมีไข้สูงเกิน 37.5 องศา จะส่งไปยังจุดพักนักเรียนที่ปรากฏอาการของไข้หวัด จากนั้นจะแจ้งผู้ปกครองให้มารับนักเรียนกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านจนหายดี และทางโรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมกระตุ้นให้นักเรียนใส่ใจดูแลตนเอง สอนให้นักเรียนล้างมืออย่างถูกวิธี 7 ขั้นตอน และสอนการทำหน้ากากอนามัยด้วยผ้า ประกวดการออกแบบหน้ากากอนามัย ซึ่งเด็กนักเรียนจะมีหน้ากากอนามัยประจำตัวอย่างน้อยคนละ 1 ชิ้น พร้อมทั้งให้นักเรียนทุกคนสมัครเป็น Mr.2009 ช่วยเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคและเชิญชวนผู้ปกครองร่วมเป็น Mr.2009 ด้วย
ในโอกาสนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบอุปกรณ์ป้องกันและหยุดยั้งโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แก่โรงเรียนในสังกัด กทม. โรงเรียนเอกชน 1 แห่ง ส่วนราชการ 1 แห่ง สถานประกอบการ 1 แห่ง และผู้แทนกลุ่มลานกีฬา 5 แห่ง
พบผู้ป่วยเสียชีวิตรายล่าสุดที่ตลิ่งชัน
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในกรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 5 พ.ย. 52 มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,770 ราย เสียชีวิต 23 ราย เป็นเพศชาย 12 ราย เพศหญิง 11 ราย อายุระหว่าง 7 — 84 ปี โดยผู้เสียรายล่าสุดเป็นหญิงไทย อายุ 26 ปี น้ำหนัก 189 กิโลกรัม พักอาศัยในพื้นที่เขตตลิ่งชัน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจากสถิติผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นนักเรียน นักศึกษา จำนวน 2,604 ราย คิดเป็นร้อยละ 54.59 กลุ่มอายุที่พบสูงสุด ได้แก่ อายุ 11—20 ปี คิดเป็นร้อยละ 35.97 รองลงมาอายุ 6—10 ปี คิดเป็นร้อยละ 19.27 และแรกเกิดถึง 5 ปี คิดเป็นร้อยละ 15.66
กทม. ย้ำพร้อมเต็มที่ป้องกันการแพร่ระบาดตั้งแต่ ต.ค. ที่ผ่านมา
พญ.มาลินี กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 รอบสอง ไม่ว่าจะเป็นด้านการรักษาพยาบาล การลงพื้นที่ให้ความรู้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้ระวัง ป้องกันตนเองและครอบครัว สนับสนุนสถานประกอบการ ชุมชน โรงเรียน ในการสำรวจและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงต่อโรครุนแรง กระตุ้นให้ทุกโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพมหานครเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์หากมีการระบาดเกิดขึ้น โดยกรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และสื่อสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานและประชาชน เนื่องจากขณะนี้พบการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกสอง ในประเทศแถบทวีปอเมริกา และคาดการณ์ว่าการระบาดอาจเข้ามาในประเทศแถบภูมภาคเอเชีย ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ดังนั้นเพื่อให้ชาวกรุงเทพฯ ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย กทม. ได้สั่งการให้สำนักงานเขต สำนักการแพทย์ สำนักการศึกษา สำนักอนามัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมรับการระบาดที่อาจเกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค. เป็นต้นมา พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก และเฝ้าระวังการแพร่เชื้อไข้หวัดจากสัตว์สู่คน จากคนสู่สัตว์ หรือจากสุกรสู่นก จากนกสู่สุกร เพราะอาจเกิดการกลายพันธุ์ ส่งผลให้อาการของโรคมีความรุนแรงมากขึ้นได้