บลจ.แอสเซท พลัส เสนอทางเลือกลงทุนใน LTF-RMF พร้อมโปรโมชั่นพิเศษเมื่อลงทุน ในงาน SET in the city 12-15 พ.ย. นี้ ณ รอยัลพารากอนฮอลล์

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 10, 2009 15:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--บลจ.แอสเซท พลัส บลจ.แอสเซท พลัส เน้นการนำเทคนิคการบริหารความเสี่ยงมาควบคุมการบริหารจัดการลงทุน ส่งผลให้กองทุน LTF-RMF มีผลการดำเนินงานใกล้เคียงเกณฑ์มาตรฐาน พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ร่วมลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ในงาน SET in the City ทุกยอดเงินลงทุน 100,000 บาท รับ Gift Voucher เพิ่ม 200 บาท ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่า ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จะยังคงผันผวน โดย SET Index น่าจะปรับตัวเคลื่อนไหวในกรอบ 650 — 730 จุด จากปัจจัยลบที่ยังคงกดดันตลาด เช่น ความตึงเครียดทางการเมืองที่มากขึ้น และการขาดความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหามาบตาพุด ประกอบกับการขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติอาจกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว ยังคงแนะนำให้ทยอยลงทุนในกองทุนหุ้นและกองทุน LTF และ RMF จากแนวโน้มเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าเงินดอลลาร์ฯที่ยังคงอยู่ในภาวะอ่อนตัว นอกจากนั้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังน่าจะส่งผลให้มีการใช้จ่ายของผู้บริโภคสูงขึ้น และส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในระยะยาว ทั้งนี้ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา กองทุน LTF และ RMF ภายใต้การจัดการของบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งเป็นไปตามหลักการบริหารกองทุนของบริษัทฯ ที่มุ่งสร้างผลตอบแทนสูงสุดของกองทุนบนความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยการนำเทคนิคการบริหารความเสี่ยงมาควบคุมการบริหารจัดการลงทุน ดร.วิน กล่าวเพิมเติมว่า บริษัทฯ มีกองทุน LTF และ RMF ให้เลือกลงทุนหลากหลายตามความต้องการของนักลงทุน สำหรับกองทุน LTF บริษัทฯ มีกองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นระยะยาว (ASP-LTF) ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เน้นลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่มีขนาดใหญ่ ที่มีกระแสเงินสดสูง และมีศักยภาพในการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้น และสามารถลงทุนได้ระยะยาวตามเงื่อนไขของกองทุน และต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ทั้งนี้ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนจากกำไรจากการขายหน่วยลงทุน (Capital Gain) และผลตอบแทนจากเงินปันผลเพื่อเป็นกระแสเงินสดระหว่างช่วงที่ลงทุน ทั้งนี้ กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2552 นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ระดับ 52.32% ต่อปี* อีกหนึ่งกองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นระยะยาวทวีกำไร (ASP-GLTF) ที่เน้นลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่มีศักยภาพในการเพิ่มขึ้นของราคาสูงเมื่อเทียบกับตลาด (High beta stocks) โดยบางช่วงจังหวะอาจลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีกระแสเงินสดสูง และนโยบายการลงทุนที่มีความยืดหยุ่นจากการที่ผู้จัดการกองทุนสามารถพิจารณาใช้อนุพันธ์ในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตในภาวะตลาดหุ้นขาลง ทั้งนี้ กองทุนไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนในรูปกำไรจากการขายหน่วยลงทุน (Capital Gain) ในระยะยาว ทั้งนี้ กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2552 นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ระดับ 46% ต่อปี* “ที่ผ่านมากองทุน ASP-LTF และ ASP-GLTF มีผลการดำเนินงานที่น่าสนใจใกล้เคียงกับ SET Index ซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.29% ต่อปี โดยกองทุน ASP-LTF ในช่วงที่ผ่านมาได้รับประโยชน์จากเม็ดเงินไหลเข้าจากการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ในตลาดฯ เช่น หุ้นน้ำมัน และธนาคาร จึงส่งผลให้ผลการดำเนินงานกองทุนที่ผ่านมาโดดเด่นกว่ากองทุน ASP-GLTF ” ดร.วินกล่าว ดร.วิน กล่าวว่า สำหรับกองทุน RMF ซึ่งมีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อเก็บออมไว้ใช้ภายหลังจากการเกษียณอายุ กองทุน RMF ภายใต้การจัดการของบริษัทฯ จึงมีนโยบายการลงทุนหลากหลาย ทั้งกองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม และกองทุนหุ้น เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้ รวมถึงสับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนจากระดับความเสี่ยงสูง มาในระดับความเสี่ยงต่ำในภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย โดยไม่ผิดเงื่อนไขการลงทุน โดยกองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-FRF) เป็นกองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้เอกชนที่มีคุณภาพ จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ต่ำ และต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก “ที่ผ่านมากองทุนแบ่งส่วนการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนคุณภาพ ที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวให้กับกองทุนเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2552 นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ระดับ 2.63% ต่อปี* ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจ” ดร.วิน กล่าว สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางขอแนะนำให้ลงทุนใน กองทุนเปิดแอสเซทพลัสหุ้นผสมตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-MRF) ซึ่งเป็นกองทุนผสมมีความยืดหยุ่นในการครองสัดส่วนในหุ้นและตราสารหนี้ได้ระหว่าง 0-100% เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยพอร์ตการลงทุนปัจจุบันเน้นลงทุนในหุ้นเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนในระยะยาว โดยกองทุนสามารถกระจายการลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มได้หากตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ทั้งนี้ กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2552 นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ระดับ 46.32% ต่อปี* สำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้น และต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่าจากการลงทุนในตราสารหนี้ ขอแนะนำลงทุนใน กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-ERF) ซึ่งเป็นกองทุนหุ้น เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ที่มีกระแสเงินสดสูง มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีศักยภาพในการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2552 นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ระดับ 52.06% ต่อปี* นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวเพิ่มเติม ระหว่างวันที่ 12-15 พฤศจิกายน นี้ บริษัทฯ จะร่วมออกบูธในงาน SET in the City ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งในปีนี้ บลจ.แอสเซท พลัส ได้ร่วมออกบูธกับบมจ.เอเซีย พลัส โดยจะอยู่บูธที่ A25, 27 บริเวณ Hall 1 ร่วมกับบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ โดยบริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มเติมสำหรับผู้ร่วมลงทุนในกองทุน LTF-RMF ในงานทุกยอดเงินลงทุน 100,000 บาท รับ Gift Voucher เพิ่ม 200 บาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายการส่งเสริมการขายประจำปีให้กับลูกค้า เพื่อกระตุ้นการลงทุนในกองทุน LTF และ RMF เฉพาะกองทุนหุ้น และกองทุนผสม โดยยอดเงินลงทุนตั้งแต่ 50,000 บาท รับ Gift Voucher มูลค่า 200 บาท ลงทุน 70,000 บาท รับ Gift Voucher มูลค่า 400 บาท ลงทุน 100,000 บาท รับหม้อหุงข้าว Panasonic มูลค่า 530 บาท ลงทุน 200,000 บาท รับ โทรศัพท์ไร้สาย ดิจิตอล Panasonic มูลค่า 999 บาท ลงทุน 300,000 บาท รับ หม้อตุ๋นไฟฟ้า Panasonic มูลค่า 1,690 บาท ลงทุน 400,000 บาท รับ หม้อหุงข้าวดิจิตอล Panasonic มูลค่า 1,990 บาท ลงทุน 500,000 บาท รับ กล้องดิจิตอล Sony มูลค่า 3,990 บาท และรางวัลใหญ่สำหรับผู้ลงทุน 800,000 บาท รับ LCD TV Sharp มูลค่า 7,990 บาท โดยผู้ลงทุนตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป สามารถเลือกรับเป็น Gift Voucher แทนเงินสดได้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ Asset Plus Call Center 02-672-1111 ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111 สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: mookpim_ch@assetfund.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ