ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยกำหนดค่าตอบแทนกรรมการต้องโปร่งใส สอดคล้องกับผลงาน

ข่าวทั่วไป Tuesday December 26, 2006 17:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--ตลท.
CG Center ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดทำข้อมูลค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนประจำปี เป็นแนวทางให้บริษัทนำไปใช้ประกอบการพิจารณาค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับกิจการตามหลักบรรษัทภิบาลที่ดี แนะการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ ต้องโปร่งใส สอดคล้องกับผลงานและความรู้ความสามารถ เผยปี 2544 — 2548 บจ.จ่ายค่าตอบแทนสอดคล้องกับผลประกอบการ โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 - 11 ต่อปี CG Center เผยยังเดินหน้าส่งเสริมความรู้ความสามารถของกรรมการบจ.ต่อเนื่อง โดยได้สนับสนุนงบประมาณให้กรรมการบจ.เข้าอบรมหลักสูตร DAP เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์กว่า 4 ล้านบาท ส่วนปี 2549 นี้ ให้คำปรึกษาแก่กรรมการและผู้บริหารระดับสูงของบจ.แล้วรวม 50 บริษัท พร้อมเดินหน้าผลักดันบจ.ตั้งหน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์เพื่อสื่อสารข้อมูลกับผู้ถือหุ้นอย่างมีประสิทธิภาพในปี 2550
นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการสายงานกำกับองค์กรและส่งเสริมบรรษัทภิบาล ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ศูนย์พัฒนาการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน หรือ CG Center ได้จัดทำสรุปข้อมูลค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลที่เปิดเผยในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ56-1) ประจำปี 2548 ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อเป็นแนวทางให้บริษัทจดทะเบียนใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณากำหนดค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับกิจการและอุตสาหกรรม เนื่องจากในช่วงต้นปีจะเป็นช่วงที่บริษัทจะประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งกรรมการและกำหนดค่าตอบแทน และจะนำเสนอข้อมูลให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีในช่วงเดือนเมษายน ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งที่บริษัทจดทะเบียนสามารถนำไปใช้ประกอบการพิจารณากำหนดค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับแต่ละบริษัทได้
“จากสรุปข้อมูลพบว่าบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จ่ายค่าตอบแทนสอดคล้องกับความสามารถในการทำรายได้และผลกำไรของกิจการ โดยในปี 2548 ช่วงของการจ่ายค่าตอบแทนกรรมการเริ่มตั้งแต่ไม่มีค่าตอบแทนกรรมการเลยจนถึงการกำหนดค่าตอบแทนไว้ที่ 9,433,333 บาทต่อคนต่อปี สำหรับค่าเฉลี่ยของค่าตอบแทนกรรมการบริษัทจดทะเบียนในปี 2548 อยู่ที่ระดับ 503,739 บาทต่อคนต่อปี ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยนี้เป็นค่าเฉลี่ยที่คำนวณจากการนำค่าตอบแทนทั้งหมดมาหาค่ากลาง ซึ่งในบางอุตสาหกรรมอาจมีค่าตอบแทนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยดังกล่าว ในขณะที่บางอุตสาหกรรมอาจมีค่าตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยดังกล่าว ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่แต่ละบริษัทจดทะเบียนจะต้องพิจารณาในการใช้ข้อมูลโดยควรคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น คุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ความคาดหวังต่อกรรมการ ภาระหน้าที่ที่กรรมการทำงานให้บริษัท จำนวนครั้งของการประชุม รวมถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
ซึ่งตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี การกำหนดค่าตอบแทนแก่กรรมการควรมีกระบวนการที่โปร่งใส และได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น ระดับและองค์ประกอบของค่าตอบแทนควรมีความเหมาะสมและจูงใจกรรมการที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ดี ควรหลีกเลี่ยงการจ่ายผลตอบแทนในระดับที่เกินสมควรด้วยการเปรียบเทียบกับประสบการณ์ ภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ ค่าตอบแทนของบริษัทอื่นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ส่วนการกำหนดค่าตอบแทนผู้บริหารนั้น คณะกรรมการซึ่งเป็นผู้กำหนดหลักการและนโยบายการจ่าย ควรพิจารณาให้สอดคล้องกับผลงานของบริษัทและผลงานของผู้บริหารแต่ละคนเป็นสำคัญ” นายสุทธิชัยกล่าว
สำหรับค่าตอบแทนผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนในทุกอุตสาหกรรมนั้น จากข้อมูลพบว่า ในปี 2548 ค่าตอบแทนผู้บริหารต่อคนต่อปีที่มีระดับต่ำสุด คือ 200,000 บาท จนถึงค่าตอบแทนสูงสุดที่ 27,758,333 บาทต่อคนต่อปี โดยหากคิดเป็นค่าเฉลี่ยของบริษัททั้งหมดแล้วจะอยู่ที่ระดับ 3,232,468 บาทต่อคนต่อปี โดยเมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาพบว่ากรรมการจะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูงกว่าผู้บริหารเล็กน้อย คือ ค่าตอบแทนต่อปีเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 11 ในขณะที่ค่าตอบแทนของผู้บริหารเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี
ทั้งนี้ หากพิจารณาแยกตามหมวดธุรกิจ หมวดที่มีค่าเฉลี่ยของค่าตอบแทนกรรมการต่อคนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) หมวดธนาคาร 2) พลังงานและสาธารณูปโภค และ3) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ในขณะที่ค่าเฉลี่ยค่าตอบแทนของผู้บริหารสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) หมวดธนาคาร 2) พาณิชย์ และ3) เหมืองแร่ ส่วนหมวดที่ค่าตอบแทนกรรมการต่อคนต่อปีมีช่วงห่างค่อนข้างกว้างตั้งแต่ปี 2546 คือ หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ ส่วนหนึ่งเนื่องจากบริษัทในหมวดนี้มีจำนวนมากขึ้น
นายสุทธิชัยกล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ส่งเสริมการมีบรรษัทภิบาลที่ดีอย่างต่อเนื่อง และเห็นว่าความรู้ ความสามารถ และการมีจริยธรรม ของกรรมการเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพของบริษัทจดทะเบียน จึงได้สนับสนุนและส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนมีการกำกับดูแลกิจการที่ดีในหลายรูปแบบ โดยในปี 2549 CG Center ได้ให้คำปรึกษาแก่บริษัทจดทะเบียนโดยตรงกับกรรมการและผู้บริหารระดับสูงรวม 50 บริษัท โดยรวมจำนวนบริษัทจดทะเบียนที่เข้าพบแล้วตั้งแต่จัดตั้งศูนย์ฯ เมื่อปี 2545 รวม 451 บริษัท นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนให้กรรมการบริษัทจดทะเบียนเข้าอบรมหลักสูตร DAP (Directors Accreditation Program) รวม 524 คน โดยใช้งบประมาณในส่วนนี้ประมาณ 4 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการอื่น ๆ ทั้งการจัดสัมมนาและบรรยายให้ความรู้แก่กรรมการบริษัทจดทะเบียนรวม 52 ครั้ง รวมถึงการจัดทำแนวทางและข้อมูลประกอบเพื่อให้บริษัทจดทะเบียนปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ได้แก่ แนวปฏิบัติเพิ่มเติมเรื่องการให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในการเสนอวาระการประชุมเป็นการล่วงหน้า แนวทางในการจัดทำจรรยาบรรณธุรกิจ ประเด็นปัญหาในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี และข้อมูลค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนปี 2548
“สำหรับแผนงานที่ CG Center จะดำเนินการในปี 2550 คือ เน้นการพัฒนาให้ผู้ถือหุ้นและบริษัทจดทะเบียนให้ความสำคัญกับสิทธิของผู้ถือหุ้น รวมทั้ง สนับสนุนให้กรรมการบริษัทจดทะเบียนมีความรู้ความเข้าใจในบทบาทของตนมากขึ้น และผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนมีหน่วยงานที่ดูแลงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ ( IR Function ) โดยเฉพาะ เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนสามารถสื่อสารข้อมูลกับผู้ถือหุ้นและบุคคลภายนอกได้อย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น อันจะส่งผลให้ผู้ถือหุ้นมีข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทและนำไปใช้ประโยชน์ในการลงทุนในบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายสุทธิชัยกล่าวเสริม
สำหรับการจัดทำข้อมูลค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในปี 2548 ในครั้งนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากข้อมูลที่เปิดเผยในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) ซึ่งแสดงค่าตอบแทนของบริษัทจดทะเบียน ณ สิ้นปีรอบบัญชีปีล่าสุด จำนวน 472 บริษัทใน 29 หมวดธุรกิจ (ไม่รวมบริษัทที่ถูกเพิกถอน บริษัทที่มีข้อมูลไม่สมบูรณ์ และบริษัทที่กำลังฟื้นฟูกิจการ) ทั้งนี้ ค่าตอบแทนกรรมการและค่าตอบแทนผู้บริหารโดยเฉลี่ยต่อคนคำนวณจากค่าตอบแทนในยอดรวมหารด้วยจำนวนกรรมการหรือผู้บริหารของแต่ละบริษัท และนำมาวิเคราะห์ค่าสถิติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยค่าตอบแทนผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนจะหมายถึง ค่าตอบแทนเฉลี่ยต่อคนของผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ ผู้บริหาร 4 รายแรกต่อจากผู้จัดการลงมา และผู้บริหารรายที่ 4 ทุกรายตามนิยามของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ