กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--โกลว์ พลังงาน
บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการสำหรับ 9 เดือนแรกปี 2552 โดยมีรายได้รวม 25,836 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่ าเสื่อม (“EBITDA”) จำนวน 5,743 ล้านบาท และกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (“NNP”) จำนวน 2,669 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 3 ปี 2552 บริษัทมีกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ จำนวน 899ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักจากยอดขายของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ที่การจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำได้กลับมาสู่ภาวะปกติตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และอัตรากำไรจากการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น อันสืบเนื่องมาจากราคาเชื้อเพลิงที่ทรงตัวสอดคล้องกับราคาค่าไฟฟ้า
ผลประกอบการของไตรมาส 3 ปรับตัวลดลง 274 ล้านบาทจากไตรมาสที่ผ่านมาประกอบไปด้วย 2 เหตุผลหลักคือ ประการแรก ผลประกอบการในไตรมาส 3 ไม่มีการบันทึกรายได้เงินชดเชยจากการหยุดดำเนินการนอกแผนงานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ของโรงไฟฟ้าถ่านหินหน่วยที่ 1 กำลังการผลิต 150 เมกกะวัตต์ ในขณะที่มีการบันทึกรายได้ดังกล่าวในไตรมาสที่ 2 ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินชดเชยเพิ่มเติมอีกกว่า 100 ล้านบาท และเหตุผลอีกประการหนึ่งคือความพร้อมจ่ายไฟฟ้า (Availability) ที่ลดลงในไตรมาสที่ 3 เนื่องมาจากการหยุดซ่อมบำรุงย่อยนอกแผนงาน และการหยุดซ่อมบำรุงหลักตามแผนงานเป็นระยะเวลา 1 เดือนของโรงไฟฟ้าถ่านหินหน่วยที่ 2 กำลังการผลิต 150 เมกกะวัตต์ ที่เลื่อนมาจากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งผลกระทบของการหยุดซ่อมบำรุงทั้งสองส่งผลต่อกำไรของไตรมาส 3 ประมาณ 100 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าความพร้อมจ่ายไฟฟ้าจะกลับมาสู่ภาวะปกติในไตรมาส 4 นี้ และบริษัทไม่มีแผนการซ่อมบำรุงหลักไปจนกระทั่งปลายปี 2554
นายเอซ่า เฮสคาเน่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์กล่าวว่า “การดำเนินงานและผลประกอบการของกลุ่มบริษัทโกลว์ได้กลับมาอยู่ในระดับปกติ รวมถึงยอดขายกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมก็กลับมาอยู่ในระดับที่ได้คาดการณ์ไว้เช่นกัน กำไรจากการดำเนินงานของเราปรับตัวดีขึ้น ส่งผลมาจากค่า Ft ที่ยังคงที่อยู่ในระดับที่สูงในขณะที่ราคาเชื้อเพลิงมีเสถียรภาพมากขึ้น”
นายเอซ่า ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เรายังคงติดตามผลกระทบของการหยุดระงับโครงการต่าง ๆ ของลูกค้าในมาบตาพุดอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันโกลว์ได้รับใบอนุญาตที่จำเป็นสำหรับการขยายโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 115 เมกกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงขนาด 382 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้า IPP ที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงขนาด 660 เมกกะวัตต์ โดยการขยายโครงการใหม่ของกลุ่มบริษัทโกลว์จะใช้เทคโนโลยีที่มีการปล่อยมลสารต่ำ และจะมีการลงทุนเพื่อลดการปล่อยมลสารของโรงไฟฟ้าปัจจุบันของเรา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะก่อให้เกิดการปรับปรุงคุณภาพอากาศในมาบตาพุดโดยรวม เราเชื่อมั่นว่าโครงการของบริษัทจะเป็นโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนดังจะเห็นได้จากอัตราการปล่อยมลสารทั้งของโครงการที่มีอยู่เดิมและโครงการใหม่จะมีค่าน้อยกว่าระดับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน”
ดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้นิติบุคคลในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยอัตราภาษีเฉลี่ย (Effective tax rate) ของกลุ่มบริษัทค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากสิทธิพิเศษทางภาษีของโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทบางหน่วยได้หมดอายุลง อย่างไรก็ตามอัตราภาษีเฉลี่ยของกลุ่มบริษัทโดยรวมจะต่ำลงภายหลังการเริ่มต้นของระยะเวลาการยกเว้นภาษีของโครงการขยายโรงไฟฟ้าใหม่ที่จะทยอยเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2553 นี้
นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงินกลุ่มบริษัทโกลว์กล่าวต่อไปว่า “การเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยจ่ายไม่ได้มาจากต้นทุนการจัดหาเงินทุนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่เนื่องมาจากการเพิ่มสูงขึ้นของยอดรวมเงินกู้ยืมโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลยุทธ์ในการจัดหาเงินทุนเข้ามาก่อนตั้งแต่ช่วงต้นปี การดำเนินการดังกล่าวมุ่งหวังเพื่อลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องที่สืบเนื่องมาจากปัญหาของตลาดการเงินโลก โดยขณะนี้บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการขยายงานจนถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 นี้ ซึ่งเรามีความเชื่อมั่นมากว่าจะสามารถจัดหาเงินทุนในส่วนที่เหลือสำหรับโครงการใหม่ได้ เนื่องจากพื้นฐานธุรกิจของกลุ่มบริษัทที่มั่นคง ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และสภาวะตลาดที่เอื้ออำนวยมากขึ้น”
เกี่ยวกับโกลว์ พลังงาน
บริษัท โกลว์ พลังงาน เป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่มโกลว์ ซึ่งประกอบธุรกิจด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 1,860 เมกะวัตต์ (ส่วนของโกลว์เท่ากับ 1,775 เมกะวัตต์) และมีกำลังผลิตไอน้ำทั้งสิ้น 967 ตันต่อชั่วโมง
กลุ่มบริษัทโกลว์ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) รวมทั้งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมให้กับบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมใกล้เคียง
GDF SUEZ Energy Europe & International เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท และเป็นสายงานธุรกิจหนึ่งของกลุ่ม GDF SUEZ ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมและบริการด้านพลังงานระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GDF SUEZ ได้ที่ เวบไซต์ของบริษัท www.gdfsuez.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทโกลว์ ที่เวบไซต์ www.glow.co.th
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
นาย ณัฐพรรษ ตันบุญเอก
บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน)
โทร. 02-670-1500-1
Email : natthapatt@glow.co.th