กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
คำแนะนำการลงทุน Gold Futures
DAY TRADER
GFZ09 ซื้อในช่วงราคา 17570 - 17580 ขายในช่วงราคา 17650 - 17670
GFG10 ซื้อในช่วงราคา 17610 - 17630 ขายในช่วงราคา 17690- 17720
SWING TRADER
GFZ09 ทองคำมีการร่วงลงตามการแข็งค่า แต่ยังอยู่ในแนวขาขึ้น ยังคงให้รอเข้าซื้อเพิ่ม
รอเข้าซื้อที่ระดับ 17350 — 17370 และขายที่ระดับ 17480 - 17500
GFG10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 17370 - 17390 และขายที่ระดับ 17500 - 17520
ปัจจัยสำคัญ
High Light
นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหลังจากผู้ว่าการธนาคารหลายแห่ง รวมถึงธนาคารกลางยุโรปเตือนว่าเศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในภาวะเปราะบาง
นักวิเคราะห์จากธนาคารคาลิยงในฮ่องกง คาดว่า จีนจะเริ่มปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในต้นปีหน้า หลังจากเนื่องจากจีนเผชิญแรงกดดันเรื่องนโยบายค่าเงินจากนานาประเทศ
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนก.ย.ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 16 ประเทศ ขยับขึ้นเพียง 0.3% จากเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,120 $ ส่วน Gold Future Z09 เปิดที่ 17,660 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 17,700 ปรับขึ้น 100 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ราคาทองคำต่างประเทศระหว่างวันเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,114 — 1,123 $ โดยมีการปรับขึ้นในช่วงบ่าย ซึ่งช่วงบ่ายตลาดราคาทองคำต่างประเทศปรับSide Way โดยปิดตลาด Gold Future Z09 ปิดตลาดที่ 17,600 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำปรับลง 100 บาทอยู่ที่ 17,600 นักลงทุนยังเข้าซื้อขายคึกคัก เนื่องจากราคาทองคำต่างประเทศปรับขึ้นแรง
NIGHT RECAP: ราคาทองคำในตลาดประเทศไทยเปิดตลาดที่ระดับ 1120 เหรียญ ในช่วงเช้าเคลื่อนตัวอยู่ระดับ 1120 — 1122 เหรียญ ต่อมาในช่วงบ่ายราคาทองคำร่วงลงมาที่อยู่ระดับ 1115 เหรียญ ก่อนมาปิดที่ 1116 เหรียญ ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำยังคงร่วงลงต่อไปอยู่ที่ระดับ 1102 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดที่ 1104 เหรียญ
ข้อมูลทองคำวันนี้
ราคาสมาคม เปิดที่ 17,350 — 17,450
ราคา Gold Spot เปิดที่1,104
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 33.31 — 33.37
GFZ09 Hi- Low 17,730 - 17,580 ปิดที่ 17,600
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,106.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1117.5-1104.6 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงวันแรกในรอบ 8 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากสัญญาน้ำมันดิบที่ร่วงอย่างหนักหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ร่วงลง 93.79 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 10,197.47 จุด ดัชนี S&P 500 รูดลง 11.27 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 1,087.24 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานเพราะกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางอาจฉุดรั้งดีมานด์พลังงานหดตัวลงด้วย หลังจากกระทรวงพลังงานรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาด อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานประจำสัปดาห์ที่ลดลง ซึ่งช่วยพยุงดาวโจนส์ให้สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้
น้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.94 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.55-77.55 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นเกินคาด เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอส่งผลให้ผู้ขับขี่ยานยนต์และภาคธุรกิจในสหรัฐลดการใช้จ่ายด้านพลังงาน
กองทุน SPDR Gold Trust
SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 13 พ.ย. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครองที่ระดับ 1,114.44 ตัน
USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางหลายแห่งเตือนว่าภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงเปราะบาง ซึ่งทำให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.95% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4839 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4981 ยูโรต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.4855 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.400 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 89.820 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 90.32 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 33.27/33.35 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งมีการไม่มีการเคลื่อนไหวมานักจากการเปิดตลาดในตอนเช้า โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ที่ระดับ 33.29/33.36 บาทต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหลังจากผู้ว่าการธนาคารหลายแห่ง รวมถึงธนาคารกลางยุโรปเตือนว่าเศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในภาวะเปราะบาง นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากแถลงการณ์ของรัฐมนตรีคลังจาก 21 ชาติสมาชิกกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) เห็นชอบให้ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบอิงตลาด (Market-oriented Rates) เพื่อให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานในประเทศของตนเอง ซึ่งจะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นในอีกทางหนึ่ง
นักวิเคราะห์จากธนาคารคาลิยงในฮ่องกง คาดว่า จีนจะเริ่มปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในต้นปีหน้า หลังจากเนื่องจากจีนเผชิญแรงกดดันเรื่องนโยบายค่าเงินจากนานาประเทศ หลังเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายในยุโรปและญี่ปุ่นเรียกร้องให้จีนดำเนินการปรับค่าเงินหยวนในระหว่างการประชุมจี-20 ที่เมืองเซนต์ แอนดรูว์ ในสก็อตแลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และล่าสุดนายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ออกมาเรียกร้องให้จีนเพิ่มความยืดหยุ่นต่อค่าเงินหยวนมากขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนก.ย.ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 16 ประเทศ ขยับขึ้นเพียง 0.3% จากเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% นับเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวค่อนข้างช้า
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 พ.ย.พุ่งขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 337.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 600,000 บาร์เรล
สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2552 เป็น 84.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 84.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนี้น้อยกว่าดีมานด์น้ำมันปีที่แล้วอยู่ 1.7% หรือ 1.5 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ไออีเอยังได้ปรับทบทวนคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปีหน้าเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 86.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในรายงานเดือนต.ค.อยู่ 500,000 บาร์เรลต่อวัน
บริษัท RealtyTrac Inc.ในแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า ยอดการยึดบ้านหลุดจำนองในเดือนต.ค.มีจำนวนทั้งสิ้น 332,292 หลัง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อนหน้านี้ โดยบ้าน 1 หลังในทุกๆ 385 หลังจะได้รับเอกสารการยึดบ้าน แต่ตัวเลขดังกล่าวลดลง 3% จากเดือนก.ย. และลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา อาทิตย์ที่
9 — 13 พฤศจิกายน 2552
ข้อมูลที่น่าจับตา
ตัวเลขเดิม
ตัวเลข คาดการณ์
ตัวเลขจริง
วันพฤหัสบดี
? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ หรือJobless Claims
? Crude Oil Inventories
? Federal Budget Balance
? Industrial ProductionEU
512K-
-4.0M
-46.6B
0.9%
512K-
0.4M
-152.5B
0.6%
502K
1.8M
-176.4B
0.3%
วันศุกร์
? การประชุม จีน- สหรัฐ เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ
? German Prelim GDP
? Trade Balanceดุลการค้าระหว่างประเทศ
? Import Pricesดัชนีราคาสินค้านำเข้า
? Prelim UoM Consumer Sentimentความเชื่อมั่นผู้บริโภค
? Prelim UoM Inflation Expectationsเงินเฟ้อที่คาดหวัง
-
0.3%
-30.7B
0.1%
70.6
2.9%
-
0.8%
-32.0B
1.1%
71.2
-