กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--แบรนด์คอม คอนซัลแทนส์
บริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 3 ปี 2552 สรุปได้ดังนี้
กำไรสุทธิไตรมาส 3 และ กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2552
ในไตรมาส 3 ปี 2552 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 75.6 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 81 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.008 บาทต่อหุ้น ลดลงร้อยละ 81 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับงวดระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2552 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิทั้งสิ้น 422.9 ล้านบาทหรือลดลงเป็นจำนวน 842.7 ล้านบาทหรือลดลงร้อยละ 67 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551 การลดลงของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2552 และงวด 9 เดือนแรกปี 2552 เนื่องมาจากการลดลงของยอดขายที่ดินอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.045 บาทต่อหุ้น ลดลงร้อยละ 67 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นายเดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ว่า
“บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,723 ล้านบาทสำหรับงวด 9 เดือนแรกปี 2552 ลดลงร้อยละ 59 จากปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิจำนวน 423 ล้านบาท เมื่อพิจารณาในทุกด้านแล้ว ผลการประกอบการในงวด 9 เดือนแรกของปี 2552 ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่สมเหตุสมผลกับภาวะเศรษฐกิจทั้งในต่างประเทศและในประเทศที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับธุรกิจของบริษัทฯ แต่ในขณะเดียวกันรายได้ที่ต่อเนื่องสม่ำเสมอของบริษัทฯ ก็ได้เพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทฯ มีผลกำไรอย่างต่อเนื่องด้วยงบดุลที่แข็งแกร่งสำหรับโอกาสการลงทุนในอนาคต
ดังที่บริษัท ฯ ได้สรุปไว้ในรายงานสิ้นสุดปี 2551 และในรายงานครึ่งปีของปี 2552 ว่าจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการบริโภคสินค้า อย่างไรก็ตามการลดกำลังการผลิตเพื่อลดปริมาณสินค้าคงคลังที่สะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ที่ลดลงนั้นเริ่มมีความเสถียรภาพมากขึ้นและเริ่มที่จะกลับมาสู่ภาวะปกติ ระดับการผลิตในประเทศไทยก็ได้เริ่มกลับเข้ามาอยู่ในภาวะที่ปกติมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของตัวชี้วัดในการสั่งซื้อและตัวชี้วัดของสินค้าอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น
การลงทุนในธุรกิจหลักของบริษัทฯ ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุน นับตั้งแต่ในที่อดีตประเทศไทยได้เพิ่มและพัฒนาบรรยากาศในการลงทุนและการบังคับใช้ของกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่นักลงทุนต้องการ การแก้ปัญหาจากภาครัฐเพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์และการลงทุนหลังจากที่นักลงทุนได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และกฎหมายแล้ว
จากการย้ายฐานการผลิตและการขยายการผลิตไปยังที่ตั้งที่มีศักยภาพทั้งในด้านของแหล่งต้นทุนของสกุลเงินและการเข้าถึงตลาดนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย โอกาสในการรวมกลุ่มกันของอุตสาหกรรมยานยนต์ ปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมอื่นในระยะยาวจะดำเนินต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เหมราช “ดีทรอยด์ตะวันออก” ที่อีสเทอร์นซีบอร์ด และการรวมกลุ่มกันของกลุ่มปิโตรเคมีที่มาบตาพุด ระยอง
ในขณะที่บริษัทฯ เผชิญกับสภาวะการลดลงของรายได้จาการขายที่ดินอุตสาหกรรมคิดเป็นร้อยละ 77 สำหรับงวด 9 เดือนแรก ปี 2552 นั้น บริษัทฯ มีการเติบโตของรายได้จากระบบสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ของรายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ด้วยฐานรายได้ที่ต่อเนื่องสม่ำเสมอและงบการเงินที่แข็งแกร่งช่วยบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในขณะที่ตลาดกำลังกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
โครงการพลังงานไฟฟ้าอิสระ เก็คโค่-วัน ที่บริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนนั้นยังคงดำเนินการต่อไปและเป็นไปตามกำหนดการ
แผนธุรกิจและการเงินของบริษัทฯ ได้สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันในขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ตระหนักดีถึงสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจและปัจจัยความเสี่ยงของตลาด และบริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจกับบริษัทฯ “
รายได้รวมและผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรก ปี 2552
สำหรับงวด 9 เดือนแรกปี 2552 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 1,723.0 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาจำนวน 4,181.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 59 โดยมีรายได้จากการประกอบธุรกิจหลักจำนวน 1,738.0 ล้านบาทหรือลดลงร้อยละ 56 เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา รายได้การขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมของงวด 9 เดือนแรกปี 2552 ซึ่งรวมกำไรจากนิคมอุตสาหกรรมร่วมทุนจำนวน 563.6 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 77 โดยมีรายได้จากการขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่รอการรับรู้อีกเป็นจำนวน 762 ล้านบาทจากวิธีการรับรู้รายได้ตามการแล้วเสร็จของการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเฟสใหม่อีก 3 เฟสที่จะรอการรับรู้ในช่วง 3-18 เดือนข้างหน้า
รายได้จากระบบสาธารณูปโภครวมถึงค่าบริการระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม กำไรและเงินปันผลจากบริษัทร่วม ด้านพลังงานและสาธารณูปโภค และค่าบริการระบบสาธารณูปโภคและบริการอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 809.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 รายได้จากการเช่าที่รวมถึงการเช่าโรงงานสำเร็จรูป การให้เช่าฐานวางท่อ และการให้เช่าออฟฟิศสำนักงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 391.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 โดยที่ไม่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่รวมถึงการขายโรงงานสำเร็จรูป การขายโครงการที่พักอาศัย ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 755.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 54 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) จำนวน 446.0 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 66 ด้วยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) และอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA Margin) ที่ 46% และ 26% ตามลำดับ
เหตุการณ์สำคัญสำหรับงวด 9 เดือนแรก ปี 2552
- บริษัทฯ มียอดขายที่ดินอุตสาหกรรมทั้งสิ้น จำนวน 74 ไร่ จากจำนวนสัญญาทั้งสิ้น 13 สัญญาโดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้าใหม่จำนวน 10 รายและจากการขยายกิจการของลูกค้ารายเดิมจำนวน 3 ราย รวมจำนวนลูกค้าจนถึงปัจจุบันทั้งสิ้น 404 ราย จาก 597 สัญญา เป็นลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จำนวน 135 ราย
- บริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับบริษัทโกลว์ ในโรงไฟฟ้าห้วยเหาะ (บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 12.75 มูลค่า 7.74 ล้านเหรียญ ดอลลาห์สหรัฐ) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 152 เมกะวัตต์ในสาธารณรัฐประชาชนลาวเพื่อขายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT)
งบดุลรวมสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2552
ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 บริษัทฯ ได้แสดงสินทรัพย์รวม จำนวน 13,445 ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน 5,144 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 8,301 ล้านบาท สำหรับสัดส่วนของหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ อยู่ในระดับที่ต่ำที่ 0.54 ต่อ 1 โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเป็นจำนวน 667 ล้านบาทและเงินฝากสำหรับโครงการพลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวน 2,060 ล้านบาท
รายละเอียดเพิ่มเติมของบริษัทเหมราช ฯ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.hemaraj.com หรือ www.theparkresidence.co.thหรือติดต่อทางอีเมล์ที่ invest@hemaraj.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท แบรนด์คอม คอนซัลแทนส์ จำกัด
คุณ ไพลิน บูรณะมิตรานนท์ หรือ คุณศุภราภรณ์ พงษ์นุ่มกูล
โทร. 0-2642-9620 (12 สาย) โทรสาร 0-2642-9688