กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
กลุ่มบริษัท สามารถ ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการสื่อสารครบวงจร แถลงผลประกอบการ ประจำปี 2548 พร้อมย้ำความมั่นใจกวาดรายได้ปี 2549 กว่า 23,300 ล้านบาท เดินหน้านำธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสารของไทยรุกตลาดภูมิภาค
นายวัฒน์ชัย (ธวัชชัย) วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวทางธุรกิจของบริษัทประจำปี 2549 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2549 ไว้ประมาณ 23,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นประมาณ 24 เปอร์เซ็นต์จากปี 2548 โดยเน้นการเติบโตของทุกสายธุรกิจ พร้อมวางบทบาทเป็น “บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของไทย” ในต่างประเทศ
“ปี 2548 ถือว่าเป็นปีทองของกลุ่มบริษัทสามารถ หากดูจากตัวเลขรายได้รวม จะเห็นว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ราว 29 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นรายได้รวมทั้งสิ้น 18,858 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจถึง 584 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 25 เปอร์เซ็นต์
“ในปี 2548 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างทางธุรกิจภายใน โดยนำบริษัท สามารถ คอมเทค จำกัด เข้าไปรวมในสายธุรกิจเดียวกับสามารถ เทลคอม ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในกลุ่ม แต่ยังจะทำให้สามารถ เทลคอม มียอดรายได้รวมเพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ในปี 2548 บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยังได้ทำการจ่ายปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 สตางค์ ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ” นายวัฒน์ชัย กล่าว
“ความเคลื่อนไหวที่สำคัญอีกประการหนึ่งของบริษัทสามารถ ในปี 2548 ก็คือ การอนุมัติการขายหุ้นสามัญของบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แคมโบเดีย สามารถ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (CASACOM) ให้แก่ บริษัท ทีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล เอสดีเอ็น บีเอชดี หรือ TMI บริษัทในเครือเทเลคอม มาเลเซีย ผู้นำทางด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมอันดับหนึ่งของประเทศมาเลเซีย คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งการเซ็นสัญญาซื้อขายหุ้นครั้งนี้ นอกจากจะเพิ่มความคล่องตัวให้กับการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ของสามารถแล้ว ยังจะส่งเสริมการขยายธุรกิจของไอ-โมบายในต่างประเทศอีกด้วย
สำหรับบริษัท สามารถ เทลคอม จำกัด (มหาชน) ที่ดูแลด้านธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมมีผลประกอบการเติบโตที่น่าประทับใจในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ทำรายได้รวมอยู่ที่ 2,137 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ซึ่งมีรายได้รวม 1,443 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 48 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มจาก 171 ล้านบาท ในปี 2547 ขึ้นมาอยู่ที่ 248 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 45 เปอร์เซ็นต์ และในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทำการจ่ายปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น หุ้นละ 15 สตางค์
รายได้ที่เพิ่มขึ้นของสามารถ เทลคอม มาจากการให้บริการโครงการหลักๆ ซึ่งบริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินไปก่อนหน้านี้และรับรู้รายได้ในปี 2548 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย โครงการติดตั้งซอฟต์สวิทซ์ในสนามบินสุวรรณภูมิ, โครงการ School Net หรือ การติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษาของโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล จำนวน 10,000 — 14,000 โรงเรียน, โครงการศึกษาทางไกลของมหาวิทยาลัยรามคำแหง, โครงการติดตั้งระบบ Call Center สำหรับกระทรวงยุติธรรม, งานให้บริการศูนย์ข้อมูลแก่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
สำหรับบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวมที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 10,101 ล้านบาทใน ปี 2547 มาอยู่ที่ 12,976 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโต 28.4 เปอร์เซ็นต์ โดยมีกำไรสุทธิ 376 ล้านบาท คิดเป็นกำไรจากการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มขึ้นถึง 20.1 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ในปี 48 บริษัทฯ ยังมีมติทำการจ่ายปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น ในราคาหุ้นละ 25 สตางค์
สามารถ ไอ-โมบาย ยังคงเดินหน้าประสบความสำเร็จ โดยในปี 2548 บริษัทฯ สามารถจำหน่ายโทรศัพท์มือถือได้ทั้งสิ้น 1.5 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากยอดขายในปี 2547 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ โดยโทรศัพท์มือถือเฮ้าส์แบรนด์ I-mobile ของบริษัทฯ มียอดขายในปี 48 มากกว่า 9 แสนเครื่อง คิดเป็น 61 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนโทรศัพท์มือถือที่จำหน่ายได้ทั้งหมด นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ด้วยความร่วมมือของเทเลคอม มาเลเซีย ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจและการลงทุนใน 12 ประเทศทั่วโลก โดยมี 9 ประเทศที่เทเลคอม มาเลเซียได้เข้าไปดำเนินธุรกิจให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่าน TMI
เรามีความพร้อมที่จะบุกตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งบรูไน อินเดีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน และเวียดนาม โดยบริษัทฯ จะนำสินค้าโทรศัพท์มือถือ ทั้งที่เป็นท็อปแบรนด์ และ แบรนด์ ไอ-โมบาย เข้าไปขายในตลาดใหม่เหล่านี้ พร้อมเพิ่มมูลค่าด้วยแอพพลิเคชั่นบนมือถือ” นายวัฒน์ชัยกล่าว
บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจครอบคลุมทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลครบวงจรมากว่า 50 ปี พร้อมบริษัทในเครือทั้งสิ้นกว่า 20 บริษัท ประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทั้งสิ้น 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท สามารถ เทลคอม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้จัดอันดับให้อยู่ใน Top Quartile จากผลสำรวจบรรษัทภิบาลบริษัทจดทะเบียน ประจำปี 2548 และถูกจัดอันดับอยู่ใน SET 100 สำหรับบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
วทิรา ลุยากร Pr.Corp
บริษัท สามารถคอ์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
โทร.0-2502-8236
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--