กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--เจดับบลิวที (ประเทศไทย)
“เคแอนด์ยู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง “ยูเอฟพี” ผู้ส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งรายใหญ่ของไทยและ “เคียวคุโย” ยักษ์ใหญ่ธุรกิจอาหารจากญี่ปุ่น พร้อมเปิดดำเนินการผลิตอาหารญี่ปุ่นฉบับต้นตำรับ ประเภทซูชิ รุกขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ชูจุดเด่นความแข็งแกร่งในด้านวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีสู่ตลาดสากล ด้วยความชำนาญด้านอาหารญี่ปุ่น และการควบคุมระบบให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ตั้งเป้าหมายเติบโตภายใน 3 ปีแรกปีละ 20 % พร้อมยอดขาย 3,000 ล้านบาท หลังจาก 5 ปี
นายธงชัย ธาวนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเนี่ยนโฟรเซนโปรดักส์ จำกัด หรือยูเอฟพี (UFP) เปิดเผยว่า “บริษัท เคแอนด์ยู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทที่เกิดขึ้นจากการร่วมทุนระหว่างบริษัท ยูเอฟพี กับ บริษัท เคียวคุโย จำกัด พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ยูเอฟพีฯ เพื่อผลิตอาหารญี่ปุ่นฉบับต้นตำรับป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ ได้เริ่มเปิดดำเนินการผลิตแล้ว เป็นผลิตภัณฑ์อาหารประเภทซูชิ ท๊อปปิ้ง และซูชิแช่แข็ง โดยมีเป้าหมายการผลิตให้ได้ในปีแรกนี้ ประมาณ 50 ล้านชิ้นต่อเดือน หรือ 350 ตันต่อเดือน หรือ 4,000 ตันต่อปี วางเป้าหมายยอดขาย 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายส่งออก 1,350 ล้านบาท และขายภายในประเทศ 150 ล้านบาท หลังจากนั้นภายใน 3 ปี ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตขึ้นปีละ 20% และตั้งเป้าหมายยอดขายให้ได้ ประมาณ 8,000 ตัน มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท หลังจาก 5 ปีไปแล้ว
บริษัท เคแอนด์ยูฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ด้วยทุนจดทะเบียนบริษัทเบื้องต้น 120 ล้านบาท และได้ดำเนินการสร้างโรงงานผลิตอาหารญี่ปุ่น มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท พื้นที่การผลิตรวม 11,400 ตารางเมตร ตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกับที่ตั้งของบริษัท ยูเนี่ยนโฟรเซนโปรดักส์ จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร โดยรูปแบบการลงทุนแบ่งสัดส่วนการร่วมทุน 50 : 50 และวางแนวทางการบริหารร่วมกันระหว่างคนไทยและญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันผลิตอาหารญี่ปุ่นด้วยเมนูอาหาร ที่หลากหลาย มีคุณภาพสูง และคงรสชาติต้นตำรับแบบญี่ปุ่นขนานแท้ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ แบ่งสัดส่วนสำหรับตลาดส่งออก 90% รูปแบบการจัดจำหน่ายจะมีทั้งผ่านบริษัท เคียวคุโย ประเทศญี่ปุ่น และบริษัท ยูเนี่ยนโฟรเซนโปรดักส์ จำกัด โดยมุ่งส่งเข้าไปเจาะตลาดประเทศญี่ปุ่นมากที่สุด ในสัดส่วน 70% ด้วยการจำหน่ายผ่านช่องทางของเชนภัตตาคารต่างๆ ร้านซูชิประเภทเทคโฮม และร้านสะดวกซื้อ ส่วนอีก 20% นั้น เป็นตลาดอเมริกา ซึ่งเจาะเข้าช่องทางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ต เชนภัตตาคาร เป็นต้น นอกนั้นเป็นประเทศแคนาดา และยุโรป ส่วนในประเทศไทย มีสัดส่วนประมาณ 10% จำหน่ายผ่านช่องทางของบริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่มีลักษณะเป็นคีออส (Kiosk) ในโมเดิร์นเทรด 140 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนขยายให้ครบ 200 แห่งภายในสิ้นปีนี้
นายธงชัย กล่าวต่อไปว่า “จุดเด่นและศักยภาพของผลิตภัณฑ์ของ เคแอนด์ยูฯ นั้นคือ การที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพชั้นดีจากทั่วโลกที่จัดหาโดยยูเอฟพีในฐานะผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการจัดหาวัตถุดิบอาหารทะเลที่มีคุณภาพสูงมาผนึกเข้ากันกับเคียวคุโย ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจอาหารที่ครบวงจรและมีการพัฒนานวัตกรรมการผลิตอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคทั่วโลกจะได้รับประทานอาหารญี่ปุ่นออริจินัลที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง”
มร. คิโยคาซุ ฟูคูอิ ประธานบริหาร บริษัท เคียวคุโย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นเทรนด์ใหม่ของการบริโภคอาหารญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก เนื่องจากเป็นอาหารสุขภาพ สำหรับในตลาดญี่ปุ่นนั้น จะผลิตเป็นสินค้าประเภท value added ที่เพิ่มมูลค่าและสามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของ เคแอนด์ยูฯ นั้น จะเน้นการผลิตอาหารที่มีคุณภาพดีที่ถูกสุขลักษณะในการผลิต ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในระดับแนวหน้า ซึ่งถือเป็นกรรมวิธีเฉพาะ เพื่อให้ได้อาหารญี่ปุ่นรูปแบบต่างๆ ที่มีคุณภาพสูง เช่น ซูชิแช่แข็ง ซูชิท๊อปปิ้งประเภทต่างๆ ที่ผลิตจาก ปลาหมึกกระดอง ปลาหมึกกล้วย กุ้ง และปลาแซลมอน เป็นต้น
รายละเอียดเพิ่มเติม: กรุณาติดต่อ
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์, เจดับบลิวที (ประเทศไทย)
คุณประสิทธิ์ กฤษฎาอริยชน (บ๊อบ) และคุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ (จันทร์)
โทร. 0-2204-8216 ,0-2204-8221
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net