กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--ไทยแอร์เอเชีย
ไทยแอร์เอเชียจับมือสยามโอเชียนเวิลด์ บินลัดฟ้าพาลูกฉลามปล้องอ้อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ สร้างสมดุลแก่ท้องทะเล ที่แหลมพันวา ฉลองเปิดฐานการบินที่สอง จังหวัดภูเก็ตอย่างเต็มรูปแบบ วันที่15 พ.ย. พร้อมตัดริบบิ้นเปิด 8 เส้นทางปฐมฤกษ์ บินตรงทุกวันจากภูเก็ตสู่ กรุงเทพ เชียงใหม่ กัวลาลัมเปอร์ ฮ่องกง สิงคโปร์ โฮจิมินห์ จาการ์ตา และ เมดาน
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ไทยแอร์เอเชียถือเป็นสายการบินที่ผูกพันใกล้ชิดกับคนไทยมายาวนาน และมุ่งที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมในทุกด้าน จึงริเริ่มความร่วมมือกับ “สยามโอเชียนเวิลด์” ซึ่งสามารถเพาะพันธุ์และเลี้ยงดูลูกฉลาม อย่างดี และเมื่อถึงวัยที่เหมาะสมจึงปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ไทยแอร์เอเชียจึงอาสาเป็นสื่อกลางรักษ์โลก โดยจัดเที่ยวบินพิเศษกับเครื่องแอร์บัสลำใหม่ พาฉลามน้อยมากลับบ้านที่แหลมพันวา ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ มีแนวปะการังที่เหมาะสมกับการเริ่มต้นชีวิตของฉลามน้อยในท้องทะเล
“แม้การปล่อยลูกฉลามปล้องอ้อย 5 ตัวในวันนี้ อาจมองเป็นเรื่องเล็ก แต่เราก็หวังให้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างจิตสำนึกอันยิ่งใหญ่ที่ทุกคนจะตระหนักถึงคุณค่าของทุกชีวิตและสร้างสรรค์โลก ที่สมดุล เช่นเดียวกับไทยแอร์เอเชียที่เติบโตจากจุดเล็กๆ กับเครื่องบินเพียง 2 ลำ บินจากกรุงเทพสู่เชียงใหม่และภูเก็ต ก่อนจะพัฒนาเติบโตอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นสายการบินราคาประหยัดที่ เป็นมิตรและอยู่ในใจคนไทยในปัจจุบัน” นายทัศพลกล่าว
นอกจากกิจกรรมการปล่อยลูกปลาฉลามกลับคืนสู่ธรรมชาติแล้ว ในวันที่ 15 พ.ย. ยังถือเป็นช่วงเวลาพิเศษของนักท่องเที่ยวทุกคน เพราะเป็นการเปิดฐานการบินภูเก็ตอย่างเต็มรูปแบบของไทยแอร์เอเชีย โดยมีเที่ยวบินปฐมฤกษ์ภูเก็ต-ฮ่องกง และเส้นทางอื่นๆ รวม 8 เส้นทางบินตรงทุกวันจากภูเก็ตสู่ กรุงเทพ เชียงใหม่ กัวลาลัมเปอร์ ฮ่องกง สิงคโปร์ โฮจิมินห์ จาการ์ตา และเมดาน ทำให้ทุกคนสามารถเดินทางได้ง่ายขึ้นกับราคาประหยัดเช่นเดิม
“หลังการเปิดขายที่นั่งทุกเส้นทางจากฐานการบินภูเก็ต ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี เพราะภูเก็ตเป็นเมืองเล็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ทั้งการท่องเที่ยวและลงทุน หลังจากนี้เราวางแผนในการขยายเส้นทางใหม่ๆ ต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและจุดเชื่อมโยงการบินระดับภูมิภาคต่อไป” นายทัศพลกล่าว
เกี่ยวกับสายการบินแอร์เอเชีย
แอร์เอเชียเป็นสายการบินราคาประหยัดชั้นนำและใหญ่ที่สุดในเอเชียให้บริการด้วยเครือข่ายการบินที่ครอบคลุมมากที่สุดถึง 123 เส้นทางการบิน ครอบคลุมกว่า 65 จุดหมายปลายทาง ด้วยระยะเวลาเพียง 7 ปี ของการดำเนินงาน ในปัจจุบันแอร์เอเชียได้ขนส่งผู้โดยสารกว่า 65 ล้านคน ด้วยฝูงบินจาก 2 ลำ ในอดีต เพิ่มเป็น 80 ลำในปัจจุบัน สายการบินฯมีความภาคภูมิใจในการเป็นสายการบินของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง โดยมีฐานปฎิบัติการบินอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศไทย ใหบริการด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศอาเซียน จีน อินเดีย และบังคลาเทศ โดยได้รับการสนับสนุนด้านเครือข่ายการบินจากสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซึ่งเป็นสายการบินระยะไกลราคาประหยัดในกลุ่มแอร์เอเชีย ที่มีจุดหมายปลายทางครอบคลุมประเทศจีน ออสเตรเลีย และอังกฤษ ส่งผลให้สายการบินฯ เป็นสายการบินหนึ่งเดียวในเอเชียที่มีจุดหมายปลายทาง และความถี่ในการบินมากที่สุดในภูมิภาค
นอกจากนั้น ในปี 2552 สายการบินแอร์เอเชียยังได้รับรางวัลสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลกจากการมอบรางวัลประจำปีให้กับสายการบินระดับโลกที่จัดโดย Skytrax แอร์เอเชียเพิ่งได้รับรางวัล "สายการบินแห่งปี" สำหรับปี 2009 โดย ศูนย์การบินแห่งเอเชียแปซิฟิก เมื่อเร็วๆ นี้แอร์เอเชียยังได้รับรางวัลสายการบินโลวคอสต์ที่ดีที่สุดในโลกจากการสำรวจของสกายแทรกประจำปีนี้ และยังได้รับรางวัลสายการบินโลวคอสต์ที่ดีที่สุดในเอเชียเป็นครั้งที่สามจากทีทีจีซึ่งเป็นสำนักข่าวท่องเที่ยวชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินแอร์เอเชีย กรุณาเยี่ยมชมเว็ปไซต์ www.airasia.com
ข้อมูลทั่วไปของฉลามปล้องอ้อย
ฉลามปล้องอ้อย เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ฉลามกบ (Brown-Banded catshark) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chiloscyllium punctatum เป็นฉลามหน้าดินที่มีขนาดเล็ก เมื่อโตเต็มที่ ความยาวที่เคยพบสูงสุด คือ 121 เซนติเมตร (ตัวผู้) (ที่มา www.fishbase.org)ฉลามกบจะมีลำตัวและหางเรียวยาว จะงอยปากกว้างอยู่บริเวณด้านหน้าของตาทั้ง 2 ข้าง เมื่อวัยอ่อนจะมีแถบสีชัดเจน แต่เมื่อโตขึ้นแถบจะเริ่มจางลงเป็นสีน้ำตาลอ่อน
ฉลามปล้องอ้อยหรือฉลามกบจัดเป็นฉลามตัวเล็กที่ใจดี นิสัยชอบอยู่นิ่งๆ กินแต่พืชและสัตว์ขนาดเล็กเป็นอาหาร ออกลูกเป็นไข่ ซึ่งฉลามปล้องอ้อยเพศเมียจะไม่อยู่ดูแลไข่ของมัน แต่จะวางไข่อยู่บริเวณแนวปะการังที่มีสาหร่ายล้อมรอบอยู่ และสร้างเปลือกไข่ที่แข็งแรงเพื่อปกป้องตัวอ่อน ทั้งนี้ พบฉลามปล้องอ้อยได้ทั่วไปตามพื้นทรายแนวปะการังในเขตอินโด-แปซิฟิค ได้แก่ อินเดีย มาเลเซีย สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ตอนเหนือของออสเตรเลีย และไทยซึ่งพบทั้งอ่าวไทยและอันดามัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ทอปัด สุบรรณรักษ์
topazs@airasia.com
ณัฐวุฒิ จิตต์อาจหาญ
nuttawutj@airasia.com