กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--ตลท.
กลุ่มซีไอเอ็มบี (CIMB Group Holdings Berhad) ธนาคารชั้นนำของภูมิภาคที่ให้บริการธุรกิจการเงินครบวงจรและเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Bursa Malaysia เปิดเผยว่าบริษัทจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพิ่มเติม เป็นการจดทะเบียนแบบควบ 2 ตลาด (Dual listing) ทั้งนี้ กลุ่มซีไอเอ็มบีเป็นบริษัทต่างชาติแห่งแรกที่มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นับตั้งแต่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีมติอนุมัติหลักเกณฑ์ใหม่สำหรับการเข้าจดทะเบียนของบริษัทต่างชาติ เมื่อเดือนตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไป
ดาโต๊ะ ศรี นาเซียร์ ราซัค ประธานบริหารกลุ่มซีไอเอ็มบีกล่าวว่า “การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครั้งนี้ เป็นการย้ำคำมั่นสัญญาของเราในประเทศไทย และเป็นการสนับสนุนให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปในประเทศไทยได้รู้จักกลุ่มซีไอเอ็มบีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ลงทุนไทยสามารถเข้าลงทุนในธนาคารระดับภูมิภาคได้ง่ายขึ้น”
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความยินดีที่ได้ต้อนรับกลุ่มซีไอเอ็มบี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินชั้นนำในภูมิภาค ในฐานะบริษัทจดทะเบียนต่างประเทศรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการเข้าจดทะเบียนของกลุ่มซีไอเอ็มบีจะทำให้ผู้ลงทุนไทยมีโอกาสในการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทต่างประเทศ และช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นที่รู้จักของผู้ลงทุนต่างประเทศมากขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมให้การสนับสนุนกลุ่มซีไอเอ็มบีเพื่อให้การเข้าจดทะเบียนบรรลุผลตามความประสงค์ของบริษัท”
หากกลุ่มซีไอเอ็มบีเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทจะมีมูลค่าเป็นอันดับ 1 ใน 3 ของบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตามข้อมูล ณ วันที่ 13 พ.ย. 2552 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของกลุ่มซีไอเอ็มบีในตลาดหลักทรัพย์ Bursa Malaysia เท่ากับ 455,900 ล้านบาทล้านบาท หรือคิดเป็น 13,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในหมวดธนาคารพาณิชย์
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่ม
ซีไอเอ็มบีได้เข้าดำเนินธุรกิจในประเทศไทยด้วยการถือหุ้นร้อยละ 93.15 ในธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปัจจุบัน
หลังการเข้าจดทะเบียนของกลุ่มซีไอเอ็มบี บมจ.ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยจะยังคงเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างไรก็ตาม จะได้มีการพิจารณาร่วมกับผู้ถือหุ้นในเรื่องดังกล่าวต่อไป นายสุภัคกล่าว
ในการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ กลุ่มซีไอเอ็มบีมีแผนที่จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 35 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ลงทุนรายบุคคลและผู้ลงทุนสถาบันในประเทศไทย และอาจรวมถึงลูกค้า พนักงาน และ/หรือผู้ถือหุ้นรายย่อยของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มซีไอเอ็มบีคาดว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเสร็จสมบูรณ์ในครึ่งปีแรกของปี 2553 โดยต้องผ่านความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นของกลุ่มซีไอเอ็มบีและหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศไทยและมาเลเซียต่อไป
ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มซีไอเอ็มบี
CIMB Group เป็นกลุ่มผู้ให้บริการทางด้านการเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศมาเลเซีย และเป็นหนึ่งในกลุ่มธนาคารผู้นำด้านธุรกิจการธนาคารแบบครบวงจร (Universal Bank) ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้บริการทั้ง Consumer Banking, Investment Banking, Islamic Banking, Asset Management รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันภัยและประกันชีวิตต่าง ๆ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ และมีสำนักงานหลักในภูมิภาคอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศไทย
CIMB Group ดำเนินธุรกิจผ่าน 3 หน่วยงานหลัก ที่มีแบรนด์ ดังนี้ CIMB Bank, CIMB Investment Bank และ CIMB Islamic นอกจากนี้ CIMB Group ยังเป็นผู้ถือหุ้นหลักของธนาคาร CIMB Niaga ในอินโดนีเซีย และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ในประเทศไทย
CIMB Group จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย ในนามของ CIMB Group Holdings Berhad (เดิมคือ Bumiputra — Commerce Holding Bhd.) โดย ณ วันที่ 13 พ.ย. 2552 CIMB Group มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 46,300 ล้านริงกิต และมีพนักงานทั้งหมดกว่า 36,000 คน ใน 9 ประเทศ
เกณฑ์การรับหลักทรัพย์ของบริษัทต่างประเทศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เกณฑ์การเข้าจดทะเบียนของบริษัทต่างชาติได้รับการอนุมัติโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในเดือนตุลาคม 2552 โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2552 ในช่วงแรก
จะอนุญาตเฉพาะการเข้าจดทะเบียนควบ 2 ตลาด (Dual Listing) สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกสหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (World Federation of Exchanges: WFE) และมีหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกองค์กรคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (International Organization of Securities Commissions: IOSCO) โดยต้องมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท หรือเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่จัดอยู่ในลำดับไม่เกิน 1 ใน 4 บริษัทที่มีขนาดใหญ่ (Top quartile) ของตลาดหลักทรัพย์หลัก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกณฑ์ดังกล่าวได้ที่ www.sec.or.th และ www.set.or.th
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน): สำนักสื่อสารองค์กร สุนิษฐา ยอดชีวัน โทร. 0-2638-8256 โทรสาร 0-2633-9053
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 / กนกวรรณ เข็มมาลัย โทร.0-2229 — 2048 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797