กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--บีโอไอ
บีโอไอแจงนักลงทุนญี่ปุ่น ระบุนโยบายรัฐบาลใหม่ยังเดินหน้าส่งเสริมการลงทุนของต่างชาติ เน้นโครงการที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ควบคู่การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ เตรียมเดินสายโรดโชว์ชี้แจงสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนญี่ปุ่นปลายเดือนหน้า
นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึง การประชุมหารือร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)และหอการค้าญี่ปุ่น (Japanese Chamber of Commerce:JCCB) ในวันนี้ (12 ต.ค.) ว่า จุดประสงค์ในการเชิญหอการค้าญี่ปุ่นมาร่วมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความชัดเจนในนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ให้นักลงทุนญี่ปุ่นได้ทราบ หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวมาบริหารประเทศ โดยได้แจ้งให้หอการค้าญี่ปุ่นทราบว่ารัฐบาลปัจจุบันยังคงให้ความสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นแหล่งสร้างรายได้จากการส่งออกที่สำคัญ และมีความสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังได้แจ้งให้ทราบถึงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ เช่น การเพิ่มผลิตภาพทางการผลิต (Productivity) ยกระดับเทคโนโลยี และลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อรองรับการค้า การลงทุนจากต่างประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงทำความเข้าใจและสร้างความเชื่อมั่นในนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงว่านโยบายดังกล่าว ยังคงให้ความสำคัญกับระบบการค้าและการลงทุนในระบบเสรี เพียงแต่มุ่งเน้นการบริหารทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเหมาะสม ไม่ทำในสิ่งที่เกินกว่าศักยภาพของประเทศ โดยให้การเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างสมดุลและยั่งยืนมากกว่ามุ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วแต่ขาดเสถียรภาพ
ด้าน นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับนักลงทุนญี่ปุ่นว่า นโยบายส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล โดยรัฐบาลปัจจุบันยังคงให้การสนับสนุนการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งในวันนี้นักลงทุนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะนักลงทุนที่ลงทุนอยู่แล้วยังเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยและพร้อมจะขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทนิเด็ค อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ยื่นขอส่งเสริมการลงทุน ซึ่งเป็นการขยายกิจการจากเดิม เป็นมูลค่าการลงทุนรวม 16,800 ล้านบาท
เลขาธิการบีโอไอกล่าวด้วยว่า นอกจากการหารือร่วมกับหอการค้าญี่ปุ่นแล้ว ในวันที่ 20ตุลาคมนี้ จะประชุมหารือเพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจกับหอการค้าต่างประเทศ ซึ่งสมาชิกประกอบด้วยนักธุรกิจและนักลงทุนของเกือบทุกประเทศที่มาลงทุนในไทยอีกด้วย จากนั้น บีโอไอจะเดินทางไปชี้แจงทำความเข้าใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในประเทศญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน และสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นเดือนธันวาคม
ขณะที่ นายเท็ตสึจิ บันโน่ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น กล่าวว่า นักลงทุนญี่ปุ่นยังคงมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในไทย เนื่องจากเป็นกลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในไทยมานาน จึงมีความเข้าใจสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ภาครัฐควรเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในบางสาขาอุตสาหกรรม โดยเฉพาะวิศวกรและช่างเทคนิค รวมถึงการพัฒนาบุคคลากรเพื่อรองรับเทคโนโลยีชั้นสูงด้วย