GFT Forum 2009 “เกาะกระแสสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยกับกูรู ... 5 ปีจะเป็นอย่างไร” กูรูผนึกกำลังชี้ทิศทางอุตสาหกรรมฯ ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งปรับตัว

ข่าวทั่วไป Tuesday November 17, 2009 16:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--รี้ด เทรดเด็กซ์ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย นับเป็นอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากทั้งในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และในอีก 3 — 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมนี้ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายหลายเหตุการณ์ จนถึงในขณะนี้ที่ตลาดเริ่มฟื้นตัว และมีแนวโน้มสดใสจากคำสั่งซื้อจำนวนมากที่เริ่มกลับเข้ามา แต่โอกาสที่เกิดขึ้นอาจกลับกลายเป็นวิกฤตของอุตสาหกรรมฯ ได้ หากผู้ประกอบการไม่เตรียมพร้อมรับมืออย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสถานการณ์ ด้วยเหตุนี้บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด ผู้จัดงานจีเอฟที 2010 (GFT 2010) งานแสดงเทคโนโลยีและเครื่องจักรเพื่อการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มงานเดียวของไทย จึงได้จัดงานเสวนาพิเศษ GFT Forum 2009 ภายใต้หัวข้อ “เกาะกระแสสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยกับกูรู ... 5 ปีจะเป็นอย่างไร” เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วทั้งวงการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย ตบเท้าเข้าร่วมเป็นวิทยากร แสดงวิสัยทัศน์และมุมมองที่น่าสนใจในสาขาที่ตนถนัด พร้อมแนะแนวทางการปรับตัวเพื่อดำเนินธุรกิจให้เดินหน้าและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีผู้ประกอบการและผู้สนใจเข้าร่วมฟัง จำนวนกว่า 250 ท่าน พร้อมกันนี้ผู้เข้าฟังยังได้พบปะกับส่วนหนึ่งของผู้แสดงสินค้าในงานจีเอฟที 2010 ที่นำสินค้ามาแนะนำอีกด้วย คุณวิรัตน์ ตันเดชานุรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า ผู้ผลิตต้องหันมาผลิตสินค้าให้โดนใจผู้บริโภค ทั้งด้านคุณภาพ มาตรฐาน และรูปแบบ พร้อมปรับวิธีคิดสร้างแนวทางในการปรับตัว และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าด้วยการเสริมนวัตกรรม พร้อมตั้งรับกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Conscious) วงการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยยังมีโอกาสอีกมากเพราะเราเป็นศูนย์กลางด้านวัตถุดิบของภูมิภาคนี้ ซึ่งเคหะสิ่งทอก็เป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ เพราะไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพและความพร้อมอยู่แล้ว คุณสุกิจ คงปิยาจารย์ อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย ให้มุมมองว่า ในปัจจุบันลูกค้าเริ่มคัดกรองและมองหาผู้ผลิตที่มีความรู้และระบบจัดการที่ดี โดยเฉพาะด้าน Pre-production ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งพัฒนาและปรับตัวให้สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้ พร้อมกันนี้ผู้ผลิตยังต้องมีความคิดสร้างสรรค์ด้านการใช้วัตถุดิบใหม่ ๆ เพื่อสร้างความแตกต่าง คุณสมศักดิ์ ศรีสุภรวาณิชย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมทอผ้าไทย กล่าวว่าอนาคตของวงการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มขึ้นอยู่กับความร่วมมือ ของคนทั้งวงการและการแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน ในปัจจุบันผู้ประกอบการกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ในอีก 5 ปีข้างหน้าจำเป็นต้องเน้นด้านความรู้ ระบบโลจิสติก และการออกแบบ คุณจิตติคุณ เจียมพิทยานุวัฒน์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ใยสังเคราะห์ ให้คำแนะนำว่า ภาครัฐควรให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ด้านปัญหา Anti Dumping นอกจากนี้ ตลาดสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วตลอดเวลา ดังนั้นผู้ผลิตควรใส่ใจและระวังตัวให้มากขึ้น โดยปัจจัยที่ต้องจับตาได้แก่ ข้อตกลงเสรีทางการค้า (FTA) โดยเฉพาะกับญี่ปุ่น มาตราการกีดกันทางการค้า กระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Carbon Label) และสภาวะเงินเฟ้อ คุณสุชาย พรศิริกุล นายกสมาคมพ่อค้าผ้าไทย แสดงความคิดเห็นว่า ในปัจจุบันสำเพ็งเป็นตลาดกลางผ้าที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เพราะมีสินค้าที่หลากหลายและระบบการขนส่งที่ดี โดยมียอดการค้าผ่านชายแดนไม่ต่ำกว่าปีละหมื่นล้านบาท ผู้ผลิตต้องสร้างจุดต่าง ให้โดดเด่นกว่าประเทศคู่แข่ง และควรไปสร้างฐานธุรกิจในประเทศที่เป็นคู่ค้าโดยเฉพาะประเทศที่ชายแดนติดกับไทย คุณบัณฑูร วงศ์สีลโชติ นายกสมาคมไหมไทย ให้มุมมองและแสดงความเป็นห่วงว่า หลังจากการบังคับใช้ข้อตกลงเสรีทางการค้าในปีหน้า รัฐบาลควรหันมาใส่ใจกับผู้ผลิตไหมไทย และเกษตรกรของไทยที่จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพื่อไม่ให้ไหมไทยเหลือแต่ชื่อ และกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์ คุณคมสรรค์ วิจิตรวิกรม อุปนายกสมาคมชาวโบ๊เบ๊ ให้ข้อมูลและความคิดเห็นว่า ในปัจจุบันตลาดอาเซียนกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว เห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในย่านโบ๊เบ๊ ประตูน้ำ ใบหยก และจตุจักร สำหรับการรักษาฐานลูกค้า ผู้ผลิตต้องดึงดูดลูกค้าให้เป็นพันธมิตรและมีส่วนร่วมในการออกแบบไปพร้อมกับการให้ความสำคัญด้านการออกแบบ กระแสแฟชั่น ความคิดสร้างสรรค์ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า คุณยงยุทธ ตั้งจิตปิยะนนท์ ที่ปรึกษาสมาคมการค้าวัสดุอุปกรณ์การพิมพ์ไทย แนะนำว่า ผู้ผลิตต้องเร่งปรับตัว โดยนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ โดยเฉพาะ Digital Printing สำหรับปัจจัยที่ผู้ผลิตควรใส่ใจ ได้แก่ ราคาน้ำมัน การขยายตลาด กระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และอัตรแลกเปลี่ยน ในระยะนี้ผู้ประกอบการควรสร้างฝ่ายวิจัยและพัฒนา มองหาพลังงานทางเลือกและเพิ่มความสามารถทางด้านภาษาให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมในอีก 3 — 5 ปีข้างหน้า นางนิชาภา ยศวีร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด กล่าวว่า งาน GFT Forum 2009 ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานจีเอฟที 2010 (GFT 2010) งานแสดงเทคโนโลยี เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ และวัสดุด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มนานาชาติ ครั้งที่ 16 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นพร้อมกับงาน Garment Manufacturers Sourcing Expo 2010 (หรืองาน GMS 2010) งานแสดงอุปกรณ์ด้านฟิตติ้ง และอุปกรณ์เสริมประเภทต่าง ๆ ศูนย์กลางด้านการจัดหาวัตถุดิบของภูมิภาค และงานสัมมนา “Garment and Textile Executive Forum” งานสัมมนาใหญ่เพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มอย่างเต็มรูปแบบ โดยกำหนดจัดในวันที่ 1 — 4 กรกฎาคม 2553 ณ ศูนย์แสดงสินค้าฯ ไบเทค บางนา เพื่อตอบโจทก์ความต้องการของคนในวงการได้อย่างครบวงจรมากที่สุดตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ