กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
ชุดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยสร้างมาตรฐานการปฏิบัติงานบนโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร
ไซแมนเทค คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวโซลูชันเพียงหนึ่งเดียวที่ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างมาตรฐานการทำงานบนโครงสร้างพื้นฐานด้านซอฟต์แวร์ที่มีแอพพลิเคชัน ระบบฐานข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ และหน่วยเก็บข้อมูลบนแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน โดยไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น (Symantec Data Center Foundation) ประกอบไปด้วย เวอริทัส เน็ตแบ็กอัพ (Veritas NetBackup) เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชั่น (Veritas Storage Foundation) เวอริทัส เซิร์ฟเวอร์ ฟาวเดชั่น (Veritas Server Foundation) และระบบบริหารสมรรถภาพแอพพลิเคชัน เวอริทัส ไอทรี (Veritas i3) ที่ทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นหนึ่งเดียว ช่วยให้องค์กรลดความซ้ำซ้อนและจำนวนเครื่องมือจัดการที่เคยมีอยู่มากมายลง โดยไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น จะช่วยทั้งในด้านการปกป้องและดูแลความพร้อมในการใช้งานของข้อมูลและแอพพลิเคชัน ปรับปรุงประสิทธิภาพและอัตราการใช้งานของฮาร์ดแวร์และสตอเรจ และช่วยให้การดูแลควบคุมระบบดาต้าเซ็นเตอร์ที่ซับซ้อนเป็นไปอย่างสะดวกขึ้น
"ดาต้าเซ็นเตอร์ในปัจจุบันกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นทำให้ยากแก่การควบคุม ทั้งมีต้นทุนสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการให้บริการ" นายนพชัย ตั้งไตรธรรม ที่ปรึกษาทางเทคนิค บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชั่นกล่าว "ไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น เป็นโซลูชันเพียงหนึ่งเดียวที่ให้ประโยชน์แก่ลูกค้าอย่างรอบด้าน ทั้งความสามารถในการทำงานบนแพลตฟอร์มมาตรฐานเพียงแพลตฟอร์มเดียวในการจัดการกับดาต้าเซ็นเตอร์ และมีโซลูชันที่โดดเด่นในด้านการเสริมคุณค่าของทั้งฮาร์ดแวร์และทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด"
โดยปกติดาต้าเซ็นเตอร์แต่ละแห่งจะใช้อุปกรณ์ด้านเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจจากหลายผู้ผลิต ซึ่งแต่ละรายก็มีเครื่องมือสำหรับจัดการอุปกรณ์ของตนเองติดมาให้ด้วย แต่นั่นก็ทำให้เกิดความซับซ้อนในการจัดการระบบเพิ่มขึ้น ดังนั้นไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นโซลูชันหนึ่งเดียวที่ช่วยให้บริษัทสามารถจัดการกับดาต้าเซ็นเตอร์ของตนเองได้อย่างสะดวก ทั้งในด้านการบริหารและการดูแลประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจ รวมไปถึงการให้บริการด้านไอทีที่ไม่เพียงแต่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจทั่วไป แต่ยังเสริมจุดแข็งสำหรับการแข่งขันให้แก่ธุรกิจต่างๆ ด้วย
ความจำเป็นในการหาวิธีจัดการกับดาต้าเซ็นเตอร์ให้ดีขึ้นกว่าเดิมเป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดในปัจจุบัน องค์กรต้องพึ่งพาดาต้าเซ็นเตอร์มากขึ้น ขณะที่งบประมาณและจำนวนพนักงานมีจำกัด อีกทั้งระบบดาต้าเซ็นเตอร์ยังเพิ่มความซับซ้อนขึ้นทุกวันจนเหมือนกับว่ายากที่จะจัดการได้ แต่ด้วยไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชัน ไซแมนเทคได้เตรียมเทคโนโลยีสำคัญๆ ไว้อย่างครอบคลุม ทั้งเรื่องการปกป้องและจัดการกับข้อมูล การจัดระดับชั้นระบบจัดเก็บข้อมูล การรวมระบบเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจ การโอนถ่ายข้อมูล การจัดการพื้นที่ในระบบจัดเก็บข้อมูล การดูแลระบบอัตโนมัติบนเซิร์ฟเวอร์ การดูแลความพร้อมในการใช้งานของแอพพลิเคชัน และการกู้คืนระบบและข้อมูลยามฉุกเฉิน ซึ่งทั้งหมดจะช่วยให้ฝ่ายไอทีในองค์กรสามารถควบคุมและดูแลดาต้าเซ็นเตอร์ได้ในแบบเชิงรุก ทั้งยังลดต้นทุน และเพิ่มระดับการให้บริการให้สูงขึ้น
"ดีเอชแอลให้บริการลูกค้าในกว่า 220 ประเทศทั่วโลก และโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพ ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสนับสนุนการดำเนินงานต่างๆ โดยจากการเติบโตของบริษัทที่ผ่านมา ทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์ของเราเริ่มมีขนาดใหญ่และซับซ้อนขึ้น ขณะเดียวกันความพร้อมของข้อมูลก็มีความจำเป็นเพิ่มขึ้นต่อธุรกิจ" นายแกรี่ คลาร์ก หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยี และหัวหน้าส่วนบริการโครงสร้างพื้นฐาน ดีเอชแอล กล่าว "การก้าวเข้าสู่มาตรฐานบนระบบจัดการดาต้าเซ็นเตอร์ของไซแมนเทคช่วยให้เราลดต้นทุนและความซับซ้อน เสริมความแข็งแกร่งบนโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที และช่วยเพิ่มความพร้อมทั้งในด้านข้อมูลและแอพพลิเคชันอันเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงานของเรา"
จุดเด่นหลักๆ ของไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น ประกอบด้วย:
ความสามารถโดดเด่นในการทำงานข้ามแพลตฟอร์ม
ไซแมนเทคดาต้าเซ็นเตอร์ฟาวเดชั่นถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับระบบได้ทั้งบนยูนิกซ์ ลินุกซ์ และวินโดวส์แพลตฟอร์ม ซึ่งประกอบไปด้วยโซลาริส โซลาริสออพเตรอน เอชพี-ยูเอ็กซ์ เอไอเอ็กซ์ เรดแฮ็ตลินุกซ์ โนเวลล์ซูซีลินุกซ์ และวินโดวส์ รวมไปถึงบรรดาเทคโนโลยีด้านเซิร์ฟเวอร์เวอร์ชวลไลเซชั่นต่างๆ ด้วย นอกจากนี้ยังรองรับฮาร์ดแวร์ด้านสตอเรจทั้งจากอีเอ็มซี เอชดีเอส เอชพี ไอบีเอ็ม ซัน เน็ตเวิร์กแอพไพลเอนซ์ และผู้ผลิตรายอื่นๆ ที่สำคัญไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น ยังถูกออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับออราเคิล ดีบีทู ไซเบส เอสเอพี ออราเคิลแอพพลิเคชัน (รวมถึงซีเบิลและพีเพิลซอฟต์) บีอีเอเว็บโลจิก ไอบีเอ็มเว็บสเฟียร์ และแอพพลิเคชันอื่นๆ อีกนับร้อย
ผลิตภัณฑ์และโปรแกรมที่ช่วยสร้างมาตรฐานบนดาต้าเซ็นเตอร์
ไซแมนเทคมีชุดผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ลูกค้าสร้างมาตรฐานบนระบบดาต้าเซ็นเตอร์ของตนเอง ช่วยเพิ่มระดับการให้บริการ และลดต้นทุนด้านปฏิบัติการลง ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ประกอบไปด้วย เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชั่น 5.0 ระบบจัดการสตอเรจและเทคโนโลยีด้านเวอร์ชวลไลเซชั่นอันทันสมัย และเวอริทัส เซิร์ฟเวอร์ ฟาวเดชั่น ชุดผลิตภัณฑ์ที่ช่วยจัดการในเรื่องการตั้งค่า การจัดเตรียม และการทำคลัสเตอริ่ง ที่สำคัญไซแมนเทคยังมีโปรแกรมที่ช่วยให้การติดตั้งไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น บนระบบดาต้าเซ็นเตอร์ของลูกค้า เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วที่สุดด้วย
ระบบบริหารแบบรวมศูนย์กลาง
ไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น ช่วยให้บริษัทไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องมือจำนวนมากจากหลากหลายผู้ผลิตอีกต่อไป เพราะทั้งหมดจะถูกรวมไว้ในโซลูชันเดียวกันเพื่อความสะดวกในการจัดการดูแลระบบ โดยผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในชุดไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น ซึ่งสามารถดูแลระบบได้อย่างดีแม้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นตลอดเวลา โดยสามารถจัดการตั้งแต่ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ กระบวนการติดตั้ง การจัดการไลเซ็นส์ ระบบรายงาน การจัดการกับเวิร์กโฟลว์ อินเทอร์เฟสสำหรับผู้ใช้ ซีเอ็มดีบีอินทิเกรชั่น และไดเรกทอรีอินทิเกรชั่น อีกทั้งไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีจัดการไลเซ็นส์รูปแบบใหม่ล่าสุด ที่ช่วยในการดูแลไลเซ็นส์ของไซแมนเทคทั้งหมดในระบบให้สะดวกยิ่งขึ้น
ช่วยบริหารระบบบริการด้านไอที
ไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในกระบวนการจัดการบริการด้านไอที ตั้งแต่การจัดการด้านระดับความจุของระบบ การปรับแต่งตั้งค่าต่างๆ ด้านความปลอดภัย การดูแลความพร้อมของข้อมูลและซอฟต์แวร์ และการบริหารบริการไอทีให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา นอกจากนี้ไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น ยังช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการและรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้ทันเหตุการณ์ ตัวอย่างเช่น เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชั่น 5.0 ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถดูแลระบบจัดเก็บข้อมูล และวิเคราะห์ผลกระทบจากปัญหาเกี่ยวกับสตอเรจบนเซิร์ฟเวอร์หรือแอพพลิเคชัน แล้วจึงดำเนินการแก้ไขระบบที่ได้รับผลกระทบได้ทันท่วงที เป็นต้น
ไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์หลักๆ ดังต่อไปนี้:
เวอริทัส เน็ตแบ็กอัพ (Veritas NetBackup)
เวอริทัส เน็ตแบ็กอัพ ผู้นำตลาดด้านการปกป้องข้อมูลระดับองค์กรบนดาต้าเซ็นเตอร์ที่ให้ความสะดวกในด้านการจัดการและดูแลข้อมูลสูงสุด โดยเน็ตแบ็กอัพ 6.0 ประกอบไปด้วย เน็ตแบ็กอัพ โอเปอเรชั่นส์ แมเนเจอร์ (NetBackup Operations Manager) ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถทำสำรองข้อมูลนับพันรายการได้โดยผ่านระบบควบคุมศูนย์กลางที่ทำงานบนบราวเซอร์ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเวอริทัส คอมมานด์เซ็นทรัล เซอร์วิส (Veritas CommandCentral Service) ซึ่งถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเน็ตแบ็กอัพ ที่ช่วยเสริมในด้านการสร้างรายงานเพื่อให้ผู้บริหารฝ่ายไอทีสามารถรับรู้ข้อมูลเชิงลึกบนระบบได้ตามต้องการ และเมื่อไม่นานมานี้ไซแมนเทคได้เปิดตัวเน็ตแบ็กอัพ เพียวดิสก์ (NetBackup PureDisk) ที่ช่วยปกป้องข้อมูลของสำนักงานโดยไม่จำเป็นต้องใช้เทปไดรฟ์ เทปมีเดีย หรือแม้แต่พนักงานด้านไอที ณ ไซต์ปลายทาง
เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชั่น (Veritas Storage Foundation)
ชุดผลิตภัณฑ์เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชั่น ประกอบด้วย เวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชั่น 5.0 ระบบจัดการสตอเรจชั้นนำรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับเวอริทัส วอลูมแมเนเจอร์ (Veritas Volume Manager) เวอริทัส ไฟล์ซิสเต็ม (Veritas File System) และเวอริทัส คอมมานด์เซ็นทรัลสตอเรจ (Veritas CommandCentral Storage) โดยเวอริทัส สตอเรจ ฟาวเดชั่น จะช่วยเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านสตอเรจใหม่ ที่ช่วยขยายระดับการควบคุมดูแลให้ครอบคลุมเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจที่ทำงานบนหลากหลายแพลตฟอร์ม มีระบบจัดการโฮสต์และสตอเรจเน็ตเวิร์กรูปแบบใหม่ เพิ่มความคล่องตัวในการจัดการข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจ และเสริมความพร้อมให้แก่แอพพลิเคชันสำคัญต่างๆ บนระบบ
เวอริทัส เซิร์ฟเวอร์ ฟาวเดชั่น (Veritas Server Foundation)
เวอริทัส เซิร์ฟเวอร์ ฟาวเดชั่น เป็นชุดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาพร้อมกับระบบปรับแต่งค่า และระบบจัดเตรียมเซิร์ฟเวอร์และคลัสเตอริ่งในโซลูชันหนึ่งเดียว ทำให้ฝ่ายไอทีสามารถควบคุมดูแลเซิร์ฟเวอร์และแอพพลิเคชันบนดาต้าเซ็นเตอร์ ตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และสั่งงานผ่านระบบอัตโนมัติที่ช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเซิร์ฟเวอร์ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความพร้อมในการใช้งานของแอพพลิเคชันบนระบบด้วย
เวอริทัสไอทรี แอพพลิเคชั่นเพอร์ฟอร์แมนซ์แมเนจเมนต์ (Veritas i3 Application Performance Management)
โซลูชันเวอริทัสไอทรีช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการกับแอพพลิเคชันบนระบบให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกด้าน ตั้งแต่ฝั่งไคลเอนต์ไปจนถึงสตอเรจของระบบ
บริการต่างๆ บนไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น
ไซแมนเทค โกลบอลเซอร์วิส ประกอบไปด้วยบริการต่างๆ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา ไปจนถึงการซัพพอร์ตถึงไซต์งานของลูกค้า ที่ช่วยให้การใช้งานไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างมาตรฐานบนดาต้าเซ็นเตอร์ และปรับปรุงระบบจัดการต่างๆ ให้ดีขึ้น ซึ่งบริการเสริมเหล่านี้ประกอบไปด้วยบริการโอนย้ายดาต้าเซ็นเตอร์ และการจัดระดับสตอเรจ เพื่อลดต้นทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานไอที การรีเอ็นจิเนียริ่งดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ การให้บริการด้านแอพพลิเคชันทางธุรกิจที่เพิ่มความพร้อมของข้อมูลและแอพพลิเคชันในองค์กร และการประเมินความเสี่ยงบนดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งข้อมูลของบริการต่างๆ เหล่านี้สามารถค้นหาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.symantec.com/consulting
กำหนดการวางจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์เวอร์ชันล่าสุดในไซแมนเทค ดาต้าเซ็นเตอร์ ฟาวเดชั่น มีกำหนดการวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 ของปี พ.ศ. 2549 ผ่านทางทีมขายตรงของไซแมนเทค ตัวแทนจำหน่ายระดับองค์กร (Enterprise VAR) วิศวกรควบรวมระบบ และพาร์ทเนอร์โออีเอ็มบางราย
เกี่ยวกับ ไซแมนเทค
ไซแมนเทค เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่องค์กรทั้งในระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซ และองค์กรส่วนบุคคล ในเรื่องการใช้งานข้อมูลร่วมกัน รวมถึงความพร้อมในการเรียกใช้และความปลอดภัยของข้อมูล โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ คิวเปอร์ติโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีศูนย์ปฏิบัติการอยู่กว่า 40 ประเทศ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.symantec.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
คุณจารุณี สินชัยโรจน์กุล , คุณวันรพี จรัสวัฒนาวรรณ
ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด
โทรศัพท์ : 0-2655-6633, 01-488-8442 , 09-502-6765
โทรสาร: 0-2655-3560 Email: jarunee@apprmedia.com,wanrapee@apprmedia.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net