กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 32 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือแจ้งเตือนประชาชนเตรียมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็นในช่วงวันที่ 17-20พฤศจิกายน 2552 ส่วน 11 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่งในระยะ 5-6 วันนี้ (วันที่ 17-22 พฤศจิกายน 2552)
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ช่วงวันที่ 17-20 พฤศจิกายน 2552 ความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้พื้นที่ 32 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ หนองบัวลำภู เลย หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ มีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียล อากาศหนาวเย็น และลมแรง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย และหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนล่าง ทำให้พื้นที่ภาคใต้ 11 จังหวัดของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ ตรัง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูลมีฝนตกและตกหนักในบางพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง สำหรับจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานให้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณเทือกเขาและพื้นที่สูง เตรียมการป้องกันอันตรายจากภัยธรรมชาติที่มักเกิดขึ้นในช่วงอากาศหนาว พร้อมทั้งกำชับมิสเตอร์เตือนภัยแจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯในพื้นที่ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและดูแลผลผลิตทางการเกษตรเป็นพิเศษ รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟทุกประเภททั้งการประกอบอาหาร จุดธูปเทียน เป็นต้น เนื่องจากฤดูหนาวสภาพอากาศแห้งและลมพัดแรง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าสูงกว่าปกติ การขับขี่รถในช่วงที่มีหมอกลงจัด ควรเปิดไฟต่ำหรือ ไฟตัดหมอกจะช่วยให้มองเห็นสภาพเส้นทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ขับรถเร็วเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ปภ.ได้ประสานให้จังหวัดภาคใต้ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มริมน้ำ และชายฝั่งทะเลเตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและคลื่นซัดชายฝั่งที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัย
ในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การช่วยเหลือและอพยพผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย หากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดและอำเภอ นอกจากนี้ยังพบว่า คลื่นลมในอ่าวไทยบริเวณห่างฝั่ง และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวังอันตรายจากคลื่นซัดฝั่ง และชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784
ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-2432200 PR DDPM