ออราเคิลเผยรายได้ปีงบประมาณ 2549 พุ่งสูงกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น

ข่าวทั่วไป Wednesday July 5, 2006 14:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
ออราเคิลเปิดเผยผลประกอบการรายได้รวมกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงปีงบประมาณ 2549 ซึ่งเป็นผลจากการขยายฐานลูกค้าและรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น
สำหรับปีงบประมาณ 2549 (สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2549) ออราเคิล เอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น (JAPAC) มี รายได้รวมทั้งสิ้น 2,020 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2548 โดยรายได้จากไลเซนส์ใหม่สำหรับแอพพลิเคชั่นในภูมิภาค JAPAC เพิ่มขึ้น 69% ในขณะที่รายได้จากไลเซนส์ใหม่สำหรับฐานข้อมูลและมิดเดิลแวร์เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2548 ทั้งนี้รายได้ในภูมิภาค JAPAC คิดเป็น 14% ของรายได้ทั้งหมดทั่วโลก และคิดเป็น 19% ของรายได้จากไลเซนส์ใหม่ทั่วโลก
สำหรับไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2549 ออราเคิล เอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น มีรายได้รวมทั้งสิ้น 684 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2548 รายได้จากไลเซนส์ใหม่ในส่วนของแอพพลิเคชั่นในภูมิภาค JAPAC เพิ่มขึ้น 94% ในขณะที่รายได้จากไลเซนส์ใหม่ในส่วนของฐานข้อมูลและมิดเดิลแวร์เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2548 ซึ่งนับเป็นการเติบโตรายไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ภูมิภาค JAPAC คิดเป็น 14% ของรายได้ทั่วโลกในช่วงไตรมาสที่ 4 และ 18% ของรายได้จากไลเซนส์ใหม่ทั่วโลกในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2549 (ตัวเลขทั้งหมดเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และคำนวณตามหลักการบัญชี GAAP)
“ปีงบประมาณ 2549 นับเป็นปีที่ดีเยี่ยมเป็นประวัติการณ์สำหรับออราเคิล เอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น” มร. ดีเร็ค วิลเลียมส์ ประธานและรองประธานบริหารของออราเคิล เอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าว “ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2549 รายได้ของเราเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์และทุกตลาด และอัตราการเติบโตของเราก็สูงกว่าคู่แข่ง ซึ่งทำให้เราสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดได้อย่างรวดเร็ว
“เห็นได้ชัดว่าเราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการนำเสนอซอฟต์แวร์บนมาตรฐานเปิด ซึ่งมีลักษณะยืดหยุ่น สามารถเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ปรับปรุงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ทั้งยังช่วยกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจ และเพิ่มคุณประโยชน์ให้แก่ผู้ถือหุ้น” มร. วิลเลียมส์ กล่าวเสริม
ฐานข้อมูลออราเคิลทิ้งห่างคู่แข่งในเอเชีย-แปซิฟิก
ออราเคิลยังคงเป็นผู้นำในตลาดระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database Management System - RDBMS) ทั้งในด้านส่วนแบ่งตลาดและอัตราการเติบโตในเอเชีย-แปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น จากรายงานการวิจัยตลาดระบบจัดการฐานข้อมูลในช่วงครึ่งหลังของปี 2548 ของไอดีซี พบว่ารายได้จากไลเซนส์และบริการบำรุงรักษาของ ออราเคิลครองส่วนแบ่ง 47% ในตลาดซอฟต์แวร์ระบบจัดการฐานข้อมูลในเอเชีย-แปซิฟิกในช่วงปี 2548 ซึ่งมากกว่าเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับที่ 2 และรายงานฉบับเดียวกันนี้ของไอดีซีระบุว่า รายได้จากไลเซนส์และบริการบำรุงรักษาระบบ RDBMS ของออราเคิลเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปี ซึ่งมากกว่า
เกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอันดับรองลงมา
บรรดาองค์กรชั้นนำทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่ได้ปรับใช้หรือขยายการติดตั้งฐานข้อมูลออราเคิลในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2549 ได้แก่:
อาเซียน: Banco de Oro (ฟิลิปปินส์), Nanyang Technological University (สิงคโปร์), Parkway Group Healthcare Pte Ltd (สิงคโปร์), Robinsons Savings Bank (ฟิลิปปินส์), Toshiba Information Equipment, Inc. (ฟิลิปปินส์)
จีน: Beijing Capital International Airport, China Mobile, China National Petroleum Corporation, China Shipbuilding Industrial Corp., CITIC 21CN, Heilongjiang Netcom, Jilin Netcom, Shandong Netcom.
อินเดีย: ABN Amro Bank N.V., กรมสรรพาสามิตและศุลกากร, Centurion Bank of Punjab Limited, Cipla Limited, กรมสรรพากร, Gujarat Alkalies and Chemicals Limited, ICICI Prudential Life Insurance Company Ltd., M/S Gujarat Ambuja Cements Limited, Relene Petrochemicals Pvt Ltd., Stock Holding Corporation of India Limited, Tata Motors Limited.
เกาหลี: Busan Bank (เกาหลี), Citibank Korea Inc., Hanjin Shipping Co. Ltd., Hyundai Capital, Kookmin Bank, สมาคมธนาคารของเกาหลี, Shinhan Bank, ธนาคารเพื่อการพัฒนาของเกาหลี
เทคโนโลยีฐานข้อมูลของออราเคิลได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 4 ผลิตภัณฑ์หลัก และได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับองค์กรทุกขนาด สามารถรองรับทุกความต้องการได้อย่างแท้จริง โดยมีตั้งแต่รุ่นที่ใช้งานฟรี ไปจนถึงระดับองค์กรขนาดใหญ่ เวอร์ชั่นต่างๆ ของ Oracle Database 10g ได้แก่ Oracle Database 10g Express Edition, Oracle Database 10g Standard Edition One, Oracle Database 10g Standard Edition และ Oracle Database 10g Enterprise Edition ทั้งนี้ Oracle Database 10g เป็นฐานข้อมูลรุ่นแรกที่รองรับเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกริดคอมพิวติ้ง (Grid Computing) ซึ่งช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปรับใช้เทคโนโลยีกริดของ ออราเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ไม่ทำให้การทำงานหยุดชะงัก ทั้งยังได้รับผลตอบแทน ภายในเวลาอันรวดเร็ว
มิดเดิลแวร์ของออราเคิลได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในเอเชีย-แปซิฟิก
ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2549 รายได้ทั่วโลกของออราเคิลจากไลเซนส์ใหม่ในส่วนของมิดเดิลแวร์เพิ่มขึ้น 57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยออราเคิลได้นำเสนอ Oracle Fusion Middleware ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์มิดเดิลแวร์ที่อ้างอิงมาตรฐาน ซึ่งรองรับการปรับใช้และบริหารจัดการสถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นบริการ (Service-Oriented Architectures - SOA) ในสภาพแวดล้อมการประมวลผลที่ประกอบด้วยซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์จากผู้ผลิตหลายราย
จากรายงานล่าสุดของการ์ทเนอร์ ชี้ว่า “SOA จะเป็นพื้นฐานสำหรับ 80 เปอร์เซ็นต์ของโครงการพัฒนาภายในปี 2551” กรมสรรพสามิตและศุลกากร (อินเดีย), กรมสรรพากร (อินเดีย), GuangDong Telecom (จีน), Hanjin Shipping Co. Ltd. (เกาหลี), Harris Scarfe (ออสเตรเลีย), Orient Overseas Container Line (ฮ่องกง) และ YCH Group (สิงคโปร์) เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งขององค์กรในเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ที่ใช้คอมโพเนนต์ของ Oracle SOA Suite ซึ่งรวมอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Oracle Fusion Middleware เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ เพิ่มความยืดหยุ่นทางด้านไอที และลดค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ลูกค้ารายใหม่ๆ ที่ติดตั้ง Fusion Middleware ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2549 ในภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ได้แก่ Bombay Dyeing & Manufacturing Co Ltd, Cathay United Bank (ไต้หวัน), บริษัท เซ็นทรัลเรสตรองส์ กรุ๊ป (ประเทศไทย), CITIC 21CN (จีน), M/S Gujarat Ambuja Cements Limited (อินเดีย), NSW Dept of Education & Training (ออสเตรเลีย), Parkway Group Healthcare Pte Ltd. (สิงคโปร์), Robinsons Savings Bank (ฟิลิปปินส์), Shanghai Research Center for Biology Information Technology (จีน), บริษัท สยามฟาร์มาซูติคอล จำกัด (ประเทศไทย), Stock Holding Corporation of India Limited , Toshiba Information Equipment, Inc. (ฟิลิปปินส์), บริษัท วัฒนไพศาลเอ็นยิเนียริ่ง จำกัด (ประเทศไทย)
แอพพลิเคชั่นของออราเคิลเพิ่มความนิยมและส่วนแบ่งตลาดทั่วเอเชีย-แปซิฟิก
ออราเคิลยังคงได้รับความนิยมและส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดซอฟต์แวร์ระดับองค์กรทุกตลาดใน เอเชีย-แปซิฟิก โดยออราเคิลครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ทั่วโลกในตลาดซอฟต์แวร์การบริหารระบบลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management - CRM) หลังจากที่เข้าซื้อกิจการของซีเบล (Siebel) ในช่วงปีงบประมาณ 2549 ส่วนในเอเชีย-แปซิฟิกนั้น บริษัทวิเคราะห์ตลาดชี้ว่า ออราเคิลครองตำแหน่งอันดับ 1 ในตลาด CRM ด้วย ส่วนแบ่งตลาด 17%
ในปัจจุบัน ลูกค้ากว่า 4,800 รายทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ใช้แอพพลิเคชั่นของออราเคิล ซึ่งรวมถึง Oracle E-Business Suite, PeopleSoft Enterprise, JD Edwards EnterpriseOne, JD Edwards World และ Siebel ยังคงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เนื่องจากลูกค้าต้องการระบบงานทางด้านธุรกิจที่อาศัยข้อมูลเป็นหลักเพื่อให้องค์กรมีความคล่องตัวและสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่น แอพพลิเคชั่นของออราเคิลได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกทางด้านธุรกิจ ระบบงานที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสม และลดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลรักษาระบบ โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจในส่วนหลักๆ ทั้งหมด เช่น การบริการลูกค้า การจัดการด้านการเงิน ทรัพยากรบุคคล และการจัดการระบบซัพพลายเชน
ออราเคิลยังคงขยายฐานธุรกิจอย่างต่อเนื่องในอุตสากรรมที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เช่น บริการด้านการเงิน การสื่อสาร สื่อสารมวลชน และสาธารณูปโภค รัฐบาล สถาบันการศึกษา และสาธารณสุข การผลิต ค้าปลีก และการจัดจำหน่าย หลังจากที่เข้าซื้อกิจการของบริษัทหลายแห่ง ออราเคิลได้ขยายกลุ่มโซลูชั่นเพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรต่างๆ ในเอเชีย-แปซิฟิก โดยนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายสำหรับโซลูชั่นแบบครบวงจรที่ประกอบด้วยฟังก์ชั่นเฉพาะสำหรับแต่ละอุตสาหกรรมโดยอ้างอิงมาตรฐานเปิด ออราเคิลมีความสามารถที่โดดเด่นในการพัฒนาและผนวกรวมคอมโพเนนต์ต่างๆ ทั้งในส่วนของแอพพลิเคชั่น, มิดเดิลแวร์ และฐานข้อมูล เพื่อสรรค์สร้างชุดซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ
ในช่วงไตรมาสที่ 4 และในปีงบประมาณ 2549 มีลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักๆ ทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่ได้ปรับใช้หรือขยายการติดตั้งแอพพลิเคชั่นของออราเคิล เพื่อผนวกรวมและสร้างระบบธุรกิจอัตโนมัติ เพิ่มขีดความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ลูกค้าในกลุ่มนี้ได้แก่:
สื่อสาร สาธารณูปโภค สื่อ และบันเทิง: Avtec Limited (อินเดีย), China Netcom (จีน), DiGi Telecommunications (มาเลเซีย), ดีแทค (ประเทศไทย), Maxis Communications (มาเลเซีย), Oil & Gas Development Company Limited (เอเชียใต้), Petronas (มาเลเซีย), Sony Ericsson (จีน), Telekom Malaysia, Star Publications (มาเลเซีย), TVSN ChinaWesfarmers Energy (ออสเตรเลีย), Orion Health (นิวซีแลนด์), Warid Telecom (ปากีสถาน)
หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา และสาธารณสุข: International Islamic University Malaysia (IIUM), ศูนย์การสำรวจระยะไกล กระทรวงสาธารณสุข (มาเลเซีย), กรมตรวจสอบบัญชี (มาเลเซีย), คณะกรรมการห้องสมุดแห่งชาติ (มาเลเซีย), Parkway Group Healthcare Pte Ltd (สิงคโปร์), Reliance Life Sciences Pvt. Ltd. (อินเดีย), บริษัท สยามฟาร์มาซูติคอล จำกัด (ประเทศไทย), University of Technology, Sydney (ออสเตรเลีย).
ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทประกัน: AM Bank Bhd. (มาเลเซีย), Bank of India, Bank of Maharashtra (อินเดีย), BCB (มาเลเซีย), Cathay United Bank (ไต้หวัน), China Development Bank, Construction Bank of China, E-Sun Bank (ไต้หวัน), Huaxia Bank (จีน), Hyundai Capital (เกาหลี), ธนาคารกสิกรไทย (ประเทศไทย), Maybank (มาเลเซีย), Pingan Insurance (จีน), Reserve Bank of India, Shinhan Bank (เกาหลี), Takaful Nasional (มาเลเซีย).
เทคโนโลยีขั้นสูง การผลิต และยานยนต์: Aditya Birla Management Corporation Ltd (อินเดีย), Aerosun Corporation (จีน), BenQ (จีน), Berger Paints India Ltd. (อินเดีย), Chang’an Group/Jiangling Motor (จีน), Dynacraft Industries (มาเลเซีย), First Auto Works Group (จีน), HangXiao Steel Construction (จีน), Hindustan Paper Corporation Limited (อินเดีย), KKB Engineering (มาเลเซีย), Lippo Karawaci (อินโดนีเซีย), LKT Industrial Sdn Bhd (มาเลเซีย), Matsushita Electric (จีน) Co., Ltd., Tbk, PT. (อินโดนีเซีย), Penfabric Sdn Bhd (มาเลเซีย), Pitti Laminations (อินเดีย), Reliance Weaving Mills Limited (เอเชียใต้), Shanghai Electric (จีน), Tbk (อินโดนีเซีย), บริษัท วัฒนไพศาลเอ็นยิเนียริ่ง จำกัด. (ประเทศไทย), Wuyang Iron & Steel (จีน)
ขนส่ง เดินทาง และคมนาคม: Auckland International Airport Limited (นิวซีแลนด์), China Eastern Airlines, Century Total Logistics Sdn Bhd (มาเลเซีย), Hanjin Shipping Co.Ltd. (เกาหลี), India Pistons Limited, JSW Steel Ltd (อินเดีย), Port of Tanjung Pelepas (มาเลเซีย)
สินค้าอุปโภคบริโภค: Central Restaurants Group Co Ltd. (ประเทศไทย), PT Hanjaya Manndala Samoerna (อินโดนีเซีย).
Retail: บริษัท เซ็นทรัลเรสตรองส์ กรุ๊ป (ประเทศไทย), C&U Group (จีน), PT. Matahari Putra Prima Tbk (อินโดนีเซีย), Warehouse Stationery Limited (นิวซีแลนด์)
นอกจากนี้ ออราเคิลยังสามารถขยายฐานธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยกว่า 250 บริษัทในเอเชีย-แปซิฟิกได้เลือกใช้ แอพพลิเคชั่นของออราเคิล แทนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ของ SAP ในช่วงปีงบประมาณ 2549 บริษัทเหล่านี้ครอบคลุมถึงองค์กรทุกขนาดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เช่น Anex Electrical Company Limited (ฮ่องกง), Busan Port Authority (เกาหลี), China Development Bank, ดีแทค (ประเทศไทย), Gardenia Bakeries Philippines, Inc., GT Petrochem (อินโดนีเซีย), Hangxiao Steel Construction (จีน), Malaysia Airlines, Maruti Udyog Limited (อินเดีย) และ McGuigan Simeon Wines (ออสเตรเลีย)
ออราเคิลขยายธุรกิจในเอเชีย-แปซิฟิกอย่างต่อเนื่องในช่วงปีงบประมาณ 2549
ออราเคิลยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงการสำคัญๆ ทางด้านธุรกิจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ลูกค้าและช่วยขยายธุรกิจในเอเชีย-แปซิฟิกให้เติบโตในระยะยาว การลงทุนที่ว่านี้ได้แก่:
การขยายธุรกิจเข้าสู่เมืองที่ไม่ใช่ศูนย์กลาง 33 เมืองในจีนและอินเดีย เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ทางด้านธุรกิจ กระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภายในท้องถิ่น
การขยายความร่วมมือกับคู่ค้า โดยมีคู่ค้ารายใหม่ที่ร่วมทำธุรกิจกับออราเคิลเพิ่มเติมอีก 490 รายในช่วงปีงบประมาณ 2549 ส่งผลให้ออราเคิลมีคู่ค้ารวมทั้งสิ้น 2,120 รายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น
การเพิ่มบริการลูกค้าในเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีการจัดตั้งศูนย์บริการสนับสนุนทั่วโลกของออราเคิลที่เมืองต้าเหลียน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน โดยศูนย์แห่งนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์บริการสนับสนุนทั่วโลก 18 แห่งของออราเคิล จะให้บริการหลายภาษาสำหรับความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคแก่ลูกค้าในจีน เกาหลี และญี่ปุ่น
การตอบแทนสังคมด้วยการบริจาคซอฟต์แวร์มูลค่ากว่า 630 ล้านดอลลาร์ในเอเชีย-แปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น ในช่วงปีงบประมาณ 2549 โดยเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Oracle Education Initiatives ซึ่งช่วยให้ นักเรียน/นักศึกษา 490,000 คนสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของออราเคิล
แวดวงอุตสาหกรรมให้การยอมรับออราเคิลอย่างกว้างขวาง โดยได้รับรางวัลและการประกาศเกียรติคุณ 49 รายการ ในเอเชีย-แปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น ในช่วงปีงบประมาณ 2549 ซึ่งนับเป็นเครื่องยืนยันถึงผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมและความเป็นผู้นำตลาดของออราเคิล รวมถึงการมีบทบาทสำคัญต่อสังคมและอุตสาหกรรม
เกี่ยวกับออราเคิล
ออราเคิล (ชื่อย่อในตลาดหุ้นแนสแด็ก: ORCL) เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายซอฟต์แวร์ระดับองค์กรรายใหญ่ที่สุดของโลก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับออราเคิล สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.oracle.com
ออราเคิล เจดีเอ็ดเวิร์ดส พีเพิลซอฟท์ และซีเบล เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น และ/หรือบริษัทในเครือบริษัทอื่นๆ เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่:
สิริพร ศุภรัชตการ สุชาย เฉลิมธนศักดิ์
ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด
โทรศัพท์: (0) 2632-9400 ต่อ 8344 (0) 2971 3711
siriporn.suparuchatakarn@oracle.com suchai@pc-a.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ