กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
กลุ่มน้ำตาลมิตรผลตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ส่ง “มิตรผลโกลด์” นำร่องน้ำตาลรายแรกรับ “ฉลากคาร์บอน” ใส่ใจคุณภาพการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
กลุ่มมิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาลภายใต้แบรนด์ “มิตรผล” ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลอีกครั้ง ด้วยการได้รับการขึ้นทะเบียน “ฉลากคาร์บอน” บนผลิตภัณฑ์น้ำตาลแร่ธรรมชาติ “มิตรผลโกลด์” โดยเป็นแบรนด์น้ำตาลรายแรกเพียงรายเดียวที่ได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกและสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย สะท้อนประสิทธิภาพการผลิตที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ช่วยลดภาวะโลกร้อน ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยเทียบเท่ามาตรฐานสากล มั่นใจเดินหน้าพัฒนากระบวนการผลิตควบคู่ไปกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้านำน้ำตาลมิตรผลประเภทอื่นๆ เข้าคิวขอฉลากคาร์บอนในต้นปีหน้านายคนอง ศักดิ์เพ็ชร์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจน้ำตาล กลุ่มมิตรผล เปิดเผยว่า จากปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและภัยพิบัติทางธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ ทำให้ประเทศต่างๆ หันมาสนใจและร่วมมือกันหากลวิธีในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม กลุ่มมิตรผลในฐานะผู้ผลิตน้ำตาล ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ จึงได้ให้ความสำคัญต่อนโยบายการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดน้ำตาลภายใต้แบรนด์ของมิตรผลได้รับการขึ้นทะเบียน“ฉลากคาร์บอน” ในผลิตภัณฑ์ “น้ำตาลมิตรผลโกลด์” ถือเป็นน้ำตาลรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับฉลากดังกล่าว
“ฉลากคาร์บอน” (Carbon Label) เป็นสัญญลักษณ์ที่จะติดบนสินค้าเพื่อให้ประชาชนผู้บริโภคทราบว่า สินค้านั้นมาจากกระบวนการผลิตที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยกำหนดการประเมินเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ การประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment: LCA) ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง การผลิต การบรรจุภัณฑ์ การใช้งานจนถึงการกำจัดของเสียที่เกิดขึ้น รวมถึงการประเมินจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต (Production Stage) เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อสินค้าที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนให้แก่ผู้บริโภค
“กลุ่มมิตรผลดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดร่วมอยู่ ร่วมเจริญมายาวนานกว่า 50 ปี โดยคำนึงถึงมาตรฐานการผลิตควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยมุ่งใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าชีวมวลที่ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมในกระบวนการผลิต สำหรับการผลิตน้ำตาลมิตรผลโกลด์ เราสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อนในกระบวนการผลิตได้มากกว่าร้อยละ 10 ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการพิจารณาฉลากคาร์บอน ที่จะต้องตรวจสอบปริมาณการปล่อย
ก๊าซเรือนกระจกนี้ย้อนหลังไปตั้งแต่ปีพ.ศ.2545 จนถึงปัจจุบัน จึงทำให้เราได้รับการพิจารณาฉลากคาร์บอนในประเภท Product Stage” นายคนอง กล่าว
นอกจากนี้ กลุ่มมิตรผลยังได้กำหนดแผนการพัฒนากระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง โดยการปรับปรุงเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับมาตรฐาน ISO 26000 ซึ่งอาจประกาศใช้ในปีหน้า พร้อมทั้งเดินหน้านำน้ำตาลมิตรผลประเภทอื่นๆ ยื่นขอรับฉลากคาร์บอนในช่วงต้นปี 2553 เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงความตั้งใจในการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสู่ตลาดผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่องการได้รับฉลากคาร์บอนบนผลิตภัณฑ์น้ำตาลมิตรผลโกลด์ในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มมิตรผลที่จะนำพาองค์กรสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ซึ่งนอกจากปรับปรุงกระบวนการผลิตน้ำตาลให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว กลุ่มมิตรผลยังมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลสู่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าชีวมวล เอทานอล รวมถึงผลิตภัณฑ์ไม้เลียนแบบธรรมชาติ (ปาร์ติเกิลบอร์ด)
ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากการปล่อยของเสียต่างๆ แล้ว ยังเป็นการช่วยพัฒนาชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืนด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
จามรี คุปตะเวทิน / สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 0-2252-9871