กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--ก.ไอซีที
ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ วาระที่ 2 ได้ปฏิบัติงานครบวาระการดำรงตำแหน่งแล้วเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์กำลังดำเนินการสรรหา และรวบรวมรายชื่อบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะทำงานทั้ง 6 คณะ คือ คณะทำงานด้านการเงิน คณะทำงานด้านการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คณะทำงานด้านนิติศาสตร์ คณะทำงานด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์ และคณะทำงานด้านสังคมศาสตร์ เพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการธุรกรรมฯ ชุดใหม่ “ขณะนี้กระทรวงฯ ได้รายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิแล้วจำนวน 24 คน จากคณะทำงาน 6 ด้านๆ ละ 4 คน โดยแบ่งเป็นภาครัฐ 2 คน และภาคเอกชน 2 คน จากนั้นคณะกรรมการสรรหาฯ จะนำรายชื่อดังกล่าวเสนอ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาคัดเลือกให้เหลือ 12 คนจากทั้ง 6 ด้าน โดยแต่ละด้านต้องมาจากภาครัฐ และภาคเอกชนด้านละ 1 คน แล้วจึงแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ วาระที่ 3 เพื่อสานต่อการดำเนินงานของคณะกรรมการธุรกรรมฯ วาระที่ 2 ต่อไป” ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ วาระที่ 2 นั้น ได้มีการเสนอให้ออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ และมีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบันหลายฉบับ คือ พระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ.2549 พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2551 พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2551 ประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.25 52 และประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง แนวทางการจัดทำแนวนโยบาย และแนวปฏิบัติของผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2552 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
นอกจากการออกกฎหมายต่างๆ แล้วคณะกรรมการธุรกรรมฯ ชุดวาระที่ 2 ยังได้จัดทำแผนการดำเนินงานของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2552 - 2554 เพื่อใช้เป็นกรอบทิศทางการดำเนินงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ยังได้พิจารณาออกใบอนุญาตให้กับผู้ให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งที่เป็นสถาบันการเงิน และมิใช่สถาบันการเงิน ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 มาตรา 4 จำนวน 67 ราย รวมใบอนุญาต 102 ฉบับ
ผลงานสำคัญอีกประการ คือ การร่วมมือกับกระทรวงไอซีทีจัดตั้งระบบ National Root CA เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อระหว่างผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ต่างรายกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนั้นยังได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบต่างๆ อาทิ การจัดงาน Thailand e-Commerce Forum 2007 และ 2008 เป็นต้น รวมทั้งได้ทำการสำรวจข้อมูลเชิงสถิติที่สำคัญ เพื่อนำมาใช้สนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการธุรกรรมฯ ชุดวาระที่ 2 นี้ ยังมีภารกิจที่อยู่ระหว่างการดำเนินการและผลักดันที่จะต้องส่งต่อให้คณะกรรมการธุรกรรมฯ ชุดใหม่ได้สานต่อการดำเนินงานอีกหลายประการ อาทิ การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ การพัฒนามาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัย การผลักดันกฎหมายควบคุมการประกอบธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นต้น