กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งจะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในเดือนธันวาคม 2552 นี้ เป็นศูนย์รวมหน่วยงานราชการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีพื้นที่ใช้สอยสำหรับหน่วยงานราชการมากกว่า 30 หน่วยงาน รวมประมาณ 484,000 ตารางเมตร โดยจะมีข้าราชการและประชาชนที่มาติดต่องานหลายหมื่นคนต่อวัน
ด้วยเหตุนี้ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงให้ความสนใจเปิดโครงการในย่านแจ้งวัฒนะ เนื่องจากอุปสงค์ที่อยู่อาศัยซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย และโครงการเชิงพาณิชย์ต่างๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายประเภทและระดับราคา ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ และอาคารชุด
นอกจากศูนย์ราชการแล้ว ทำเลย่านแจ้งวัฒนะยังมีศักยภาพในการพัฒนา เนื่องจากสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกจากถนนหลักหลายสาย ทางด่วนขั้นที่สองและดอนเมืองโทลเวย์ อีกทั้งมีสะพานพระราม 4 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและสะพานอื่นๆใกล้เคียง มีสภาพแวดล้อมที่ดี ศูนย์การค้า ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ และโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ทั้งโรงเรียนไทยและโรงเรียนนานาชาติ ผู้ซื้อบ้านในย่านนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงเป็นหลัก ไม่ใช่ซื้อเพื่อการลงทุนหรือเก็งกำไร
ราคาประเมินที่ดินถนนแจ้งวัฒนะ ของสำนักประเมินราคาเมื่อปี 2551 อยู่ที่ 100,000 บาทต่อตารางวา แต่มีผู้ประกาศซื้อขายในราคาสูงกว่านั้น โดยเฉพาะที่ดินริมถนนแจ้งวัฒนะใกล้ศูนย์ราชการ มีผู้ประกาศขายในราคาตารางวาละ 150,000 บาท ส่วนที่ดินในซอยและตามหมู่บ้านจัดสรรมีราคาประเมินระหว่าง 20,000-40,000 บาทเป็นส่วนใหญ่ ขึ้นอยู่กับระยะห่างจากถนนใหญ่
จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์พบว่า โครงการที่กำลังเปิดขายอยู่ในขณะนี้ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา มีทั้งสิ้น 27 โครงการ แต่บางโครงการมีที่อยู่อาศัย 2 หรือ 3 ประเภทในโครงการเดียวกัน เช่น โครงการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่รายหนึ่งมีทั้ง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านแฝด และอีกโครงการหนึ่งของผู้ประกอบการนอกตลาดมีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์รวมกัน
จำนวนหน่วยของทุกโครงการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 6,000 หน่วย คิดเป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 34 อาคารชุดร้อยละ 33 ทาวน์เฮาส์ร้อยละ 31 และบ้านแฝดร้อยละ 2
ในจำนวนนี้เป็นโครงการที่เปิดตัวใหม่ในปี 2552 ทั้งสิ้น 6 โครงการ โดยเป็นโครงการจากผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ 4 โครงการ จำนวนหน่วยของบริษัทจดทะเบียนมีมากกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนหน่วยทั้งหมดที่เปิดตัวในปีนี้ โดยผู้ประกอบการรายใหญ่มักตั้งราคาขายที่สูงกว่าโดยอาศัยการตอบรับด้านชื่อเสียงเป็นจุดขาย
โครงการอาคารชุดมี 7 โครงการ รวมประมาณ 2,000 หน่วย โดยร้อยละ 83 เป็นอาคารชุดสร้างเสร็จพร้อมโอน และจะสร้างเสร็จทั้งหมดในปี 2554 ขณะนี้มีหน่วยเหลือขายประมาณ 380 หน่วย หรือร้อยละ 19 โครงการเหล่านี้มีทั้งโครงการที่สร้างใหม่และโครงการเก่าที่นำมาขายใหม่ ราคาขายอยู่ในช่วง 4 แสนบาทจนถึง 8 ล้านบาทต้นๆ ต่อหน่วย หรือประมาณ 27,000 บาทต่อตารางเมตรในโครงการเก่า ไปจนถึงประมาณ 67,000 บาทต่อตารางเมตรในโครงการใหม่ระดับบน
โครงการบ้านเดี่ยวมี 8 โครงการ รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,050 หน่วย มีหน่วยเหลือขายอยู่ที่ประมาณ 1,050 หน่วย หรือร้อยละ 51 ราคาขายอยู่ในช่วง 3 ล้านบาทขึ้นไปถึง 15 ล้านบาทต่อหน่วย โครงการที่ได้รับความนิยมจะเป็นโครงการที่ขายบ้านราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทลงมา
โครงการทาวน์เฮาส์มี 13 โครงการ รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,850 หน่วย โดยมีหน่วยเหลือขายประมาณ 650 หรือร้อยละ 35 และมีราคาขายอยู่ที่ 1.5 — 7.9 ล้านบาทต่อหน่วย โครงการที่ได้รับความนิยมจะเป็นโครงการที่มีราคาต่ำกว่า 3.5 ล้านบาท
บ้านแฝดมีเพียง 2 โครงการ รวมประมาณ 110 หน่วย และมีหน่วยคงเหลือประมาณ 100 หน่วย หรือร้อยละ 90 ผู้ประกอบการนิยมเพิ่มบ้านแฝดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับที่อยู่อาศัย รูปแบบของบ้านแฝดที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันจะคล้ายบ้านเดี่ยวขนาดเล็ก โดยมีส่วนของระแนงไม้หรือผนังห้องครัวเชื่อมติดกับบ้านข้างๆเท่านั้น ไม่ได้เป็นผนังบ้านติดกันอย่างบ้านแฝดสมัยก่อน จึงทำให้บ้านแฝดเป็นทางเลือกของผู้ที่ต้องการบ้านที่มีบริเวณแต่ไม่มีงบประมาณพอจะซื้อบ้านเดี่ยว
ถนนสามัคคีซึ่งเชื่อมต่อกับถนนประชาชื่นและอยู่ทางทิศใต้ของถนนแจ้งวัฒนะ เป็นพื้นที่หนึ่งที่มีโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก เนื่องจากมีโครงการยุคก่อนทั้งบ้านราคาปานกลางและสูงอยู่ก่อนแล้ว อีกทั้งยังอยู่ใกล้สปอร์ตคลับ ร้านค้า และร้านอาหารในละแวกประชาชื่น และโรงเรียนนานาชาติ จึงมีผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ 3 บริษัท พากันเปิดโครงการต่างๆในซอยสามัคคี โดยโครงการบ้านเดี่ยวจะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 5.45 ล้านบาท และโครงการทาวน์เฮาส์ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 3.4 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นระดับราคาที่สูงกว่าพื้นที่อื่นๆในย่านแจ้งวัฒนะ นอกจากถนนสามัคคีแล้วยังมีถนนเลี่ยงเมืองจากติวานนท์ข้ามถนนแจ้งวัฒนะและทะลุไปออกซอยสามัคคีได้ ซึ่งมีโครงการจำนวนหนึ่งเช่นกัน
โครงการสาธารณูปโภคในย่านแจ้งวัฒนะกำลังพัฒนามากขึ้น แม้ในปัจจุบันถนนที่มีสภาวะรถติดขัดตลอดทั้งวันมากที่สุดจุดหนึ่งในเขตปริมณฑล เพราะการก่อสร้างเพื่อขยายเลนถนนยังไม่แล้วเสร็จ และเริ่มมีคนเข้าออกทำงานและมาติดต่อหน่วยงานราชการต่างๆ มากมาย แต่โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี 2557-2558 และโครงการรถเมล์ BRT ของกรุงเทพมหานครที่จะเชื่อมต่อจากหมอชิตมาศูนย์ราชการและอาจต่อขยายไปถึงเมืองทองธานี น่าจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรในอนาคต และทำให้ย่านแจ้งวัฒนะเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อเนื่องได้ในอนาคต
โดยภาพรวม ยังมีอุปสงค์ด้านที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง ในย่านแจ้งวัฒนะต่อเนื่องไปถึงย่านงามวงศ์วานตามแนวถนนประชาชื่น ซึ่งส่งผลมาจากการเปิดตัวของศูนย์ราชการ การเปิดห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และบริษัทร้านค้าต่างๆ ถึงแม้จะไม่มีการเปิดตัวโครงการหรือการขายที่หวือหวามากนัก แต่โครงการที่อยู่อาศัยย่านแจ้งวัฒนะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจของผู้ที่กำลังหาซื้อบ้าน
อนึ่ง ในย่านแจ้งวัฒนะยังมีธุรกิจรับสร้างบ้านเปิดสำนักงานขายและบริการจำนวนมาก เพราะมีเจ้าของบ้านในโครงการจัดสรรเก่าต้องการปลูกสร้างต่อเติมบ้านใหม่ทดแทนบ้านเดิมที่สภาพอาจเริ่มชำรุด หรือเจ้าของที่ดินซึ่งเคยซื้อที่ดินไว้ในราคาถูก โดยในกรณีของการสร้างบ้านโดยใช้บริษัทรับสร้างบ้านนั้น ในปัจจุบันนิยมปลูกสร้างเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นเพื่อการใช้ประโยชน์เต็มพื้นที่