ศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุนเปิดให้บริการแล้ว นายกฯ มั่นใจ OSOS คือก้าวสำคัญของการอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ

ข่าวทั่วไป Monday November 23, 2009 16:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--บีโอไอ เปิดให้บริการแล้ว ศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุนที่ระดม 21 หน่วยงานจาก 10 กระทรวงมาให้บริการแก่ภาคธุรกิจ นายกฯ มั่นใจ การอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจแบบเบ็ดเสร็จจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีต่อการลงทุนในไทย พร้อมเล็งเพิ่มบริการด้านอื่นๆ อีก ในอนาคต บีโอไอเตรียมย้ายศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานมาให้บริการที่เดียวกับ OSOS นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิด ศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน (One Start One Stop Investment Center : OSOS) ว่า รัฐบาลมีเป้าหมายในการปรับปรุงการให้บริการของหน่วยงานรัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อธุรกิจ รวมถึงช่วยเร่งรัดขั้นตอนต่าง ๆ แก่นักลงทุนรายใหม่ ให้สามารถเริ่มต้นประกอบธุรกิจได้อย่างสะดวกรวดเร็ว จึงได้จัดตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้นมา และ OSOS ก็จะเป็นการเริ่มต้นที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดี การสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ “ที่มาของการตั้ง OSOS มาจากการประชุมหารือกับนักลงทุนเมื่อต้นปีนี้เอง ซึ่งนักลงทุนจำนวนมากรู้สึกพอใจกับการให้บริการของบีโอไอ นักลงทุนจึงอยากให้รัฐบาลสร้างกลไกที่สามารถอำนวยความสะดวกให้ครอบคลุมขั้นตอนการดำเนินธุรกิจอื่นๆ ด้วย และหลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน ประเทศไทยก็มีศูนย์ OSOS ขึ้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพยายามหาทางปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสามารถให้บริการแก่นักลงทุนมากยิ่งขึ้น และในอนาคตรัฐบาลก็อาจจะเพิ่มบทบาทหน้าที่และบริการของOSOS มากยิ่งขึ้น สำหรับในช่วงเริ่มต้นให้บริการของศูนย์แห่งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ให้บริการด้วยภาษา ต่างประเทศ 3 ภาษา คืออังกฤษ ญี่ปุ่น และจีน และจะมีการเพิ่มบริการด้วยภาษาต่างประเทศอื่นๆ ในอนาคตต่อไป ด้านนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า OSOS เป็นศูนย์แห่งแรกในประเทศไทย ที่มีการให้บริการเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจมากที่สุด โดยได้รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องจำนวน 21 แห่งจาก 10 กระทรวง มาอำนวยความสะดวกในสถานที่แห่งเดียว ช่วยให้นักธุรกิจลดขั้นตอน ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่าย บริการของ OSOS จะครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษาและข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการจดทะเบียนและการรับเรื่องการขอใบอนุญาตหลายประเภท เช่น การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม การขอรับการส่งเสริมการลงทุน การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว การขอใบอนุญาตประกอบและขยายโรงงาน ตลอดจนใบอนุญาตด้านอาหารและยา เป็นต้น ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ศูนย์ฯแห่งนี้ เปิดให้บริการแก่ นักลงทุนทุกกลุ่ม ทั้งที่ได้รับและไม่ได้รับส่งเสริมการลงทุน ครอบคลุมทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ทั้งที่เป็นนักลงทุนหน้าใหม่และนักลงทุนเดิม นอกจากความร่วมมือจากทั้ง 21 หน่วยงานที่เริ่มเปิดให้บริการแล้ว ในวันที่ 4 มกราคม 2553 เป็นต้นไป ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานจะย้ายมาให้บริการที่อาคารจัตุรัสจามจุรีแห่งนี้เช่นกัน จากเดิมที่ตั้งอยู่ที่อาคารรสา ถนนพหลโยธิน เพื่อที่จะสามารถให้บริการแก่นักลงทุนได้อย่างครบวงจรเพิ่มขึ้นด้วย สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่มาร่วมให้บริการ ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมธุรกิจพลังงาน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมที่ดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง การประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กรมการขนส่งทางบก(ขส.) และสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว

แท็ก บีโอไอ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ