กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--กบข.
กบข. ชี้เตรียมเพิ่มน้ำหนักลงทุนในต่างประเทศ หลังปรับโครงสร้างลดการลงทุนผ่านกองทุนรวมลงทุนต่างประเทศทั้งตราสารหนี้-ตราสารทุนกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดบริหารพอร์ตได้คล่องตัวและสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของกองทุนมากขึ้น
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่าปัจจุบัน กบข. ได้มีนโยบายเตรียมจัดสรรเงินลงทุนกว่า 650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 25,000 ล้านบาทเพื่อลงทุนในกองทุนรวมในต่างประเทศ ผ่านทั้งหลักทรัพย์ประเภทตราสารหนี้โลกและตราสารทุนโลก โดยจะให้น้ำหนักในตลาดของประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากประเมินว่าแนวโน้มจากผลตอบแทนจากการลงทุนจะให้ผลตอบแทนที่สูง ภายหลังจากการได้รับอนุมัติวงเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้สามารถนำเงินไปลงทุนต่างประเทศได้โดยตรงเมื่อกลางปี 2548 ซึ่งทำให้ กบข. ลดความจำเป็นที่จะต้องลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในประเทศ โดยจะทำให้การบริหารเงินลงทุนต่างประเทศมีความคล่องตัว เพิ่มประสิทธิผล และประหยัดต้นทุนในการดำเนินงาน ทั้งนี้ ในช่วงก่อนหน้านี้พอร์ตลงทุนต่างประเทศของ กบข. มีจำนวนเงินประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการจัดสรรให้ผู้จัดการกองทุนในประเทศบริหารเงินผ่านกองทุนรวมลงทุนต่างประเทศ ( Foreign Investment Fund หรือ FIF)
สำหรับสัดส่วนการลงทุนต่างประเทศของ กบข. ในช่วงนี้จะกระจายน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุนในสัดส่วน 50 ต่อ 50 ซึ่งในอนาคต กบข. จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งถือเป็นไปตามนโยบาย กบข.ในการจัดสินทรัพย์การลงทุนมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ กบข .คาดว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนจะอยู่ที่ 5-6 % ต่อปี ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ นอกจากนี้ กบข. ยังอยู่ระหว่างการอนุมัติเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในต่างประเทศ โดยจะเพิ่มเพดานการลงทุนจาก 10% เป็น 15% ของเงินกองทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงสำหรับการลงทุนในต่างประเทศอีกครั้ง
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ยุวพร นนท์ภาษโสภณ
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ( กบข.)
Government Pension Fund
Tel. 02-636-1000 Ext.263 , 01-612-2322
Fax. 02-636-1649