กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
สุธี กรุ๊ป หนึ่งในสมาชิก โลจิสติกส์ มาร์ท (Logistics Mart) ศูนย์รวมอุปกรณ์เทคโนโลยีโลจิสติกส์ทุกประเภท นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโรงงานอุตสาหรรม ที่เรียกว่า Fuji Robot Palletizer จากประเทศญี่ปุ่น มาจัดแสดงในงาน Thailand Logistic Fair ทางด้าน TIFFA ได้เตรียมนำเทคโนโลยี RFID มาแสดงซึ่งจะช่วยให้ระบบการจัดการขนส่งสินค้า ทำได้ถูกต้อง รวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้กำลังคนในการบันทึกข้อมูลอีกต่อไป
นายประเสริฐ ธรรมมนูญกุล รองประธาน สุธี กรุ๊ป กล่าวถึง Fuji Robot Palletizer ว่า เป็นหุ่นยนต์หรือแขนกล ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการผลิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งหุ่นยนต์นี้มีคุณสมบัติเด่น คือ จะช่วยจัดเรียงสินค้าลงบนพาเลตต์ (Pallet) ไม่ว่าจะเป็นกล่อง กระสอบ ถุง ลัง และอื่นๆ โดยออกแบบหัวจับให้เหมาะสมกับสินค้าในแต่ละสายการผลิต และมีความยืดหยุ่นมากกว่าแบบเก่า ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดเรียง ปรับเปลี่ยนเลเยอร์ ปรับเปลี่ยนขนาดของบรรจุภัณฑ์ หรือขนาดของพาเลตต์ ได้ยาก ซึ่งในวงการของสินค้าอุปโภคบริโภคนั้น มีการปรับเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลาเพื่อให้ตอบรับความต้องการของตลาด ดังนั้น การนำ Fuji Robot Palletizer ซึ่งรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่เหมาะสมกับวงการสินค้าอุปโภคบริโภคในปัจจุบัน
“Fuji Robot Palletizer เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจมากเพราะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ โรงงานอุตสาหกรรม โดยลดจำนวนแรงงานที่มาจัดเรียงสินค้าลงบนพาเลตต์ รองรับกับการผลิตสินค้าที่มีกำลังการผลิตสูงๆ ลดความเสี่ยงจากการที่สินค้าถูกตีกลับ เนื่องจากสิ่งปลอมปน เช่น เศษผม รอยเท้า และยังช่วยให้องค์กรเพิ่มผลการผลิตและขยายตลาดได้มากยิ่งขึ้น เพราะสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายประเสริฐ กล่าว
ทางด้านนายอนุสรณ์ หล่อวิจิตร กรรมการผู้จัดการ สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) ได้กล่าวถึงเทคโนโลยี RFID หรือ Radio Frequency Identification ว่า เป็นเทคโนโลยีที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทกับระบบการจัดการห่วงโซ่อุปทาน เพราะ RFID จะช่วยสื่อสารและส่งผ่านข้อมูลสินค้าเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เป็นไปโดยอัตโนมัติและรวดเร็ว จากการที่เครื่องอ่านสามารถอ่านข้อมูลสินค้าได้ครั้งละหลายๆ ชิ้นที่วางซ้อนๆ กันอยู่ในระยะห่างเป็นฟุตหรือเป็นเมตรโดยไม่จำเป็นต้องให้เครื่องอ่านมองเป็น RFID tag โดยตรง เพราะส่งผ่านข้อมูลกันด้วยระบบคลื่นวิทยุ และเนื่องจาก RFID tag มี ไมโครชิปขนาดเล็กที่สามารถใส่รหัสสินค้าได้เป็นรายชิ้นไม่ซ้ำกัน ทำให้สามารถแยกแยะได้ว่าสินค้าชิ้นไหนผลิตและหมดอายุเมื่อไร ชิ้นใดเป็นสินค้าปลอม และสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาในระบบห่วงโซ่อุปทานได้ด้วย
“ในงาน Thailand Logistic Fair ผู้ร่วมงานจะได้พบกับเทคโนโลยี RFID ซึ่งจัดทำเป็นแพคเกจเหมาะสำหรับธุรกิจ SME ที่ต้องทำตามระบบที่ Wal-Mart เป็นผู้กำหนดให้ผู้ผลิตสินค้าต้องติด RFID tag เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการขนส่งและโลจิสติกส์จึงต้องเตรียมการเพื่อรองรับระบบปฏิบัติการที่สอดคล้องกับองค์กรอื่นๆ ในห่วงโซ่อุปทานที่ตนเองให้บริการอยู่” นายอนุสรณ์ กล่าว
นอกจาก 2 เทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว ในงาน Thailand Logistic Fair ปีนี้ ยังจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและน่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 13-15 กรกฎาคมนี้
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
อุษณีย์ ถาวรกาญจน์
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์
บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด
โทร.0 2354 3588 โทรสาร 0 2354 3589
Email : usanee@incom.co.th