สสปน. ผนึกกำลัง อสมท. นำร่องให้ความรู้ นำ “นิวมีเดีย” กระตุ้นธุรกิจไมซ์ สร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจไทย

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday November 25, 2009 07:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ในขณะที่ กระแส Twitter, You Tube และ Facebook กำลังมาแรง และรัฐบาลก็มุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาเศษฐกิจของประเทศไทยด้วยแนวคิด “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” ดังนั้น ทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. และ อสมท. โดยคลื่นวิทยุ FM 100.5 ได้จัดงานสัมมนาเรื่อง “สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ (New Media) สำหรับธุรกิจไมซ์และธุรกิจบริการ” เพื่อให้ความรู้และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการในธุรกิจไมซ์และธุรกิจบริการชาวไทย ภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวในวีดีโอสัมภาษณ์พิเศษ “นายกรัฐมนตรี กับ สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่” เพื่องานสัมมนาในครั้งนี้ว่า ภาครัฐเองก็ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นของการใช้สื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจ เพราะปัจจุบันนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่รับข่าวสารต่างๆ จากสื่อสมัยใหม่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะทางอินเทอร์เน็ต หรือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งรัฐบาล ก็กำลังดำเนินการพัฒนาระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศที่จะอำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชนได้มากยิ่งขึ้น แต่อาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ด้าน ฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรี พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ กล่าวในระหว่างเป็นประธานเปิดงานสัมมนาว่า “ปัจจุบันเป็นยุคที่มีการแข่งขันทางธุรกิจอย่างรุนแรง จึงจำเป็นที่ภาคธุรกิจจะต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้การส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันเป็นวาระสำคัญของชาติ และมีการลงทุนในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ภาคธุรกิจ และประชาชน ด้วยการนำสื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนา และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ รวมถึงเพื่อการเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับกลุ่มเป้าหมายธุรกิจทั่วโลก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมไมซ์โดยรวม โดยรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณสำหรับโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในสาขาต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมไมซ์ของสสปน. โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับสสปน. ผ่านโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 อีก จำนวน 185 ล้านบาท” ทั้ง สสปน. และอสมท. ตื่นตัวถึงการใช้สื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานด้วยเช่นกัน และด้วยวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันนี้เอง จึงกลายเป็นความร่วมมือในการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการชาวไทยและแสดงให้เห็นว่าสื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีต้นทุนต่ำ และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ในส่วนของการดำเนินการขององค์การ สสปน. ก็หันมาใช้สื่อสมัยใหม่มากขึ้น นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สสปน. กล่าวว่า ในปีนี้ สสปน. ใช้งบร้อยละ 40 ของงบประมาณด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ไปทางสื่อออนไลน์ เพื่อกระตุ้นแคมเปญใหม่ “ไมซ์ ไทยเข้มแข็ง” ซึ่งเน้นกระตุ้นการประชุมในประเทศ (Domestic MICE) และต่อยอดเป็นโครงการ “ไมซ์ แคตตาล็อก” เพื่อนำเสนอศักยภาพของประเทศไทยในแง่การจัดประชุมและนิทรรศการสู่สายตาต่างชาติ ผ่านการทำประชาสัมพันธ์ผ่านทาง เว็บไซต์ และโซเชียล เน็ตเวิร์กต่างๆ ด้านนายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท. กล่าวว่า อสมท. พร้อมผนึกกำลังสื่อหลากหลายรูปแบบ โดยการประยุกต์การส่งข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และใช้ศักยภาพของสื่อที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสนับสนุนนโยบายของทั้งรัฐบาลและสสปน. ในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการชาวไทย ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดสังคมอุดมปัญญาของทางอสมท. ล่าสุด ทางอสมท. กำลังจะเพิ่มช่องทางการรับข่าวสารของผู้ชมผ่านทางโทรศัพท์มือถือไอโฟน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นหนึ่งในผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มาร่วมบรรยาย เน้นให้ภาคเอกชนตื่นตัวถึงการใช้ประโยชน์จากสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ (New media) ในการสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจ และในขณะเดียวกัน ภาครัฐบาลเองก็ต้องเร่งพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านสื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น Wi-Fi WiMax และ3G เป็นต้น เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ภาค เอกชนด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น นายอภิรักษ์ได้กล่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลมั่นใจว่าจะช่วยให้ประเทศไทยพัฒนาได้อย่างยั่งยืน โดยการพัฒนาต่อยอดจากต้นทุนทางวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวที่เรามีอยู่อย่างสร้างสรรค์ เหมือนกับที่ประเทศอื่นๆ ได้นำเอาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มาต่อยอดจนประสบความสำเร็จ เช่น ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย เป็นต้น และเชื่อว่าการใช้สื่อสมัยใหม่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนบริการภายใต้แนวคิดนี้จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในระดับโลกได้ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมไมซ์เป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ เนื่องจากในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้เดินทางมายังประเทศไทย 500,000 — 600,000 คน และมักใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป ซึ่งสร้างรายได้ให้ประเทศเฉลี่ยปีละประมาณ 40,000—50,000 ล้านบาท นายอภิรักษ์ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงข้อดีของการใช้สื่อสมัยใหม่ในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจไมซ์และธุรกิจบริการว่าสื่อที่มีลักษณะเป็นชุมชนออนไลน์ที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ชมเว็บไซต์สามารถแสดงความคิดเห็นได้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทยเป็นอย่างมาก ถ้าความคิดเห็นเหล่านั้นกล่าวถึงบริการของ ผู้ประกอบการไทยในเชิงบวก เพราะข้อมูลนี้มาจากผู้บริโภคโดยตรงจึงมีความน่าเชื่อถือในแง่ของการประชาสัมพันธ์ธุรกิจไมซ์และธุรกิจบริการของไทย งานสัมมนาครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรชั้นนำมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ และแลกเปลี่ยนทัศนะในการประยุกต์ใช้สื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อร่วมยกระดับธุรกิจไมซ์และธุรกิจบริการของไทยให้พร้อมกับการแข่งขันในเวทีโลก อาทิ นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน นกแอร์ นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน จากอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ นางสาวกรรภิรมย์ อึ้งภากรณ์ จาก ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน บริษัทที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ชั้นนำระดับโลก และ นายณัฎฐพล ศุภวงศ์ อาจารย์สื่อสมัยใหม่และนักออกแบบสื่อสมัยใหม่ ทั้งนี้ งานสัมมนายังแสดงให้เห็นว่าทั้งภาครัฐและเอกชนต่างตระหนักและตื่นตัวถึงนโยบายการส่งเสริม ศักยภาพของธุรกิจไมซ์และธุรกิจ โดยการนำสื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก เกี่ยวกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เป็นหน่วยงานภาครัฐที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 โดยเป็นหน่วยงานรัฐตัวแทนประเทศไทยที่ทำหน้าที่พัฒนาเศรษฐกิจไทยโดยการเข้าแข่งขันกับต่างชาติ ในการดึงงานประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้า หรือ อุตสาหกรรมไมซ์ระดับโลก เข้ามาจัดในประเทศไทย ตลอดจนส่งเสริม และสนับสนุนภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางของไมซ์ และการพัฒนามาตรฐานด้านบุคลากร ตลอดจนกฎระเบียบที่ส่งเสริมขีดความสามารถของอุตสาหกรรมให้รองรับการแข่งขันในเวทีนานาชาติ อุตสาหกรรมไมซ์มีอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 10-25 ต่อปี แต่ละปีมีผู้เดินทางกลุ่มไมซ์มายังประเทศไทยประมาณ 500,000 คน โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อหัว 70,000-100,000 บาท สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 40,000—50,000 ล้านบาท จึงเป็นธุรกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของอุตสาหกรรมไมซ์ในระดับโลก เกี่ยวกับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ บมจ. อสมท เป็นบริษัทสื่อสารมวลชนรายใหญ่ของประเทศไทย และเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นสื่อภาครัฐที่สร้างสรรสื่อที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและดำเนินการเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย โดย บมจ. อสมท บริหารกิจการสถานีโทรทัศน์ โมเดิร์นไนน์ทีวี ช่อง 9 กิจการวิทยุกระจายเสียง 63 สถานีทั่วประเทศ สำนักข่าวไทย และบริการสื่อผ่านเว็ปไซด์ www.mcot.net การดูคลิปรายการย้อนหลัง HiPTV และบริการอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ข่าวด่วนผ่านมือถือ MCOT Xpress ในระบบ SMS ช่องโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม MCOT 1 ช่อง MCOT 2 รวมทั้งช่องโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อชาวอาเซียน ASEAN TV บมจ. อสมท ยังเป็นผู้ให้สัมปทาน บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์-เทนเม้นต์ จำกัด ในฐานะผู้ได้รับสิทธิบริหาร สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 และกลุ่มบริษัท ทรู วิชั่นส์ ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกผ่านสายเคเบิลและผ่านดาวเทียมรายใหญ่ของประเทศไทย ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารการตลาด สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) คุณปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้จัดการอาวุโส โทร 0-2694-6092 คุณอริสรา ธนูแผลง ผู้จัดการ โทร 0-2694-6095 บริษัท ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย คุณพรรวี สุรมูล หรือ คุณพิชญ์พธู ไวยโชติ โทร. 02-627-3501ต่อ 110 และ 217

แท็ก facebook   twitter   อสมท.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ