“เดอะ คลีนิกค์” บุกธุรกิจคลินิกความงาม 10,000 ล้านบาท ชูเทคโนโลยีจากยุโรป ด้วยจุดขาย “เห็นผลในครั้งแรก” ตั้งเป้ากวาด 20ลบ.ในปี 2553

ข่าวทั่วไป Wednesday November 25, 2009 09:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--เดอะคลีนิกค์ บริษัทเดอะ คลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด ประกาศบุกธุรกิจคลินิกความงามกว่า 10,000 ล้านบาท ด้วยการเปิดให้บริการด้านความงาม ภายใต้แบรนด์ “เดอะ คลีนิกค์” สาขาแรกที่สยามสแควร์ โดยใช้งบลงทุนกว่า 7 ล้านบาท พร้อมนำเข้าเทคโนโลยีที่ทันสมัยสุดจากยุโรปเข้ามาให้บริการ โดยชูจุดขาย “เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ” หวังสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว พร้อมวาง กลยุทธ์ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและตัดสินใจทดลองใช้บริการได้ง่ายขึ้น ตั้งเป้าสิ้นปี 2553 ปิดรายได้ที่ 20 ล้านบาท นายโชติวัติ ทรงสุวรรณ กรรมการบริหาร บริษัทเดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ที่ใส่ใจดูแลตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะการดูแลผิวพรรณและรูปร่าง ส่งผลให้ธุรกิจคลินิกความงามที่ตอนนี้มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท มีการเติบโตและมีผู้เล่นหน้าใหม่ทยอยข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การเข้าสู่ธุรกิจความงามในครั้งนี้ บริษัทได้ใช้งบลงทุนกว่า 7 ล้านบาท เปิดให้บริการสาขาแรกที่สยามสแควร์ ก่อนจะขยายสาขาเพิ่มในปีหน้าอีก 4 แห่ง แบ่งเป็น ในกรุงเทพฯ 3 แห่ง ต่างจังหวัด 1 แห่ง ด้วยงบลงทุนอีกประมาณ 28 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดของเดอะ คลีนิกค์ในช่วงเริ่มต้น บริษัทจะเน้นสร้างการรับรู้แบรนด์ โดยวางโพซิชันนิ่งให้เป็นคลินิความงามแบบยูนิเซกส์ที่ให้บริการได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง และครอบคลุมลูกค้าตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงกลุ่มใหญ่ โดยบริษัทจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีการนำเข้าจากยุโรปทั้งหมด ขณะที่ผู้เล่นในตลาดทั่วไปจะเป็นเทคโนโลยีที่นำเข้าจากประเทศในแถบเอเชียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการเปิดให้บริการสาขาแรก บริษัทได้ลงทุนเฉพาะเครื่องมือไปแล้ว 4 ล้านบาท เพื่อนำเข้าเครื่องมือเกือบ 10 ตัว อาทิ 1.Nova Max2 เทคโนโลยีล่าสุดแบบ All in one จากประเทศอิตาลี ที่ให้ประสิทธิผลทวีคูณเป็นสองเท่า พร้อมช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ให้ผิวกระชับในเวลาอันรวดเร็วเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ 2. RF Co2 Fractional Lasersystem - เทคโนโลยีอันทันสมัย ที่ช่วยรักษาริ้วรอย รอยหลุมสิว ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ เผยผิวขาวใสแลดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการดำหลังทำ นอกจากการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยเครื่องมือเทคโนโลยีแล้ว เดอะ คลีนิกค์ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยชูจุดขายเรื่อง “เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ” ซึ่งถือเป็นความต้องการในใจลำดับแรกของผู้บริโภคในยุคนี้ แม้ว่า แบรนด์ จะเป็นปัจจัยข้อแรกของการตัดสินใจเลือกใช้บริการก็ตาม รองลงมาคือ ราคา, เครื่องมือ และ บุคลากร แต่ในฐานะที่เดอะ คลีนิกค์เป็นแบรนด์ใหม่ที่เปิดตัวได้ไม่นาน เดอะคลีนิกค์จึงต้องสร้างความเชื่อมั่นด้วยตัวเทคโนโลยีและตัวบุคลากรหรือแพทย์ที่ให้การดูแลเป็นหลักก่อน แม้ว่าเดอะคลีนิกค์จะนำเทคโนโลยีจากยุโรปมาใช้เป็นจุดแข็งในการสื่อสารกับผู้บริโภค เพื่อสร้างการรับรู้และให้เกิดการยอมรับแบรนด์อย่างรวดเร็วแล้ว แต่ว่าในสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางรวมทั้งผลิตภัณฑ์การดูแลผิว ทางเดอะคลีนิกค์ได้เลือกใช้วัตถุดิบที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นประเทศที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตสกินแคร์ที่เหมาะสมกับผิวคนเอเชียมากสุด ซึ่งทำให้บริษัทมั่นใจว่าผู้บริโภคจะเกิดการยอมรับได้ง่าย แต่เพื่อให้เบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เป้าหมายหลัก บริษัทจึงได้เปิดตัวนายแบบจากญี่ปุ่นเป็นพรีเซนเตอร์จำนวน 2 คน คือ ฮิคาระ มิตซุยะ และ ฮิเดะทาคะ ซาไค เพื่อตอกย้ำอิมเมจความเชี่ยวชาญด้านสกินแคร์ แม้ว่าในตอนนี้กระแสเกาหลีจะได้รับความนิยมอยู่ก็ตาม แต่เพื่อให้เกิดความใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น เดอะ คลีนิกค์ก็จะเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนไทย ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการรับโปรแกรมเป็นเวลา 90 วัน โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ นอกจากนี้ นายโชติวัติ กล่าวเสริมอีกว่า เพื่อรองรับเทรนด์การแข่งขันที่มีการตัดราคามากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อให้เดอะ คลีนิกค์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกระดับ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่อาจมีกำลังซื้อไม่มาก ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นยินดีจ่ายเงินเพื่อการดูแลผิวพรรณประมาณ 1,000 บาทต่อครั้ง ดังนั้น เดอะ คลีนิกค์จึงนำกลยุทธ์ราคามาใช้ โดยการกำหนดราคาค่าบริการตั้งแต่ 199 บาท เช่น การดูแลรักษาสิวด้วยLED พร้อมรับยากลับไปใช้ที่บ้าน ขณะที่ราคาสูงสุดจะอยู่ที่ 70,000 บาท โดยจะเป็นโปรแกรมการดูแลเรื่องความหย่อยคล้อยของผิวหน้า ซึ่งถือเป็นราคาที่ครอบคลุมลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ที่สำคัญเมื่อเทียบกับคู่แข่งกลุ่มแมสจะเห็นว่าเดอะ คลีนิกค์จะมีราคาถูกกว่าประมาณ 50% ด้วย และในโอกาสเปิดฉลองเปิดร้านในช่วงแรก เดอะ คลีนิกค์ได้จัดโปรโมชั่นลด 50% สำหรับการทำทรีตเมต์ทุกโปรแกรม เป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะช่วยสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ผู้สนใจเข้ามาทดลองใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว สำหรับผลประกอบบริษัทมั่นใจว่า เดอะ คลีนิกค์สาขาแรกจะสามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 6 เดือน โดยรายได้ในช่วง 2 เดือนแรกนี้ คาดว่าจะปิดได้ที่ 2.4 ล้านบาท ส่วนในปีหน้ามั่นใจว่าจะมีรายได้เพิ่มเป็น 20 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการทำทรีตเทนต์ 70% และเครื่องสำอางกับยา 30% โดยคาดว่าจะมีลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น 60% คนทำงานและผู้ใหญ่ 40%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ