ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 25 พ.ย.52

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 25, 2009 10:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 18,400 — 17,500 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,174 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 33.22 — 33.30 - GFZ09 Hi- Low 18,510 - 18,430 ปิดที่ 18,500 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,165.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,157.70-1,171.70 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรและเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจยังผันผวน โดยสัญญาทองคำยังคงปิดบวกได้แม้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งฉุดราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆร่วงลงด้วยก็ตาม ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 17.24 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 10,433.71 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.59 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 1,105.65 จุดเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ตลาดติดลบไม่มากนักหลังจากสหรัฐเปิดเผยราคาบ้านใน 20 เขตเมืองที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มในภาคอสังหาริมทรัพย์ น้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 76.45-76.45 ดอลลาร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและดีมานด์พลังงานในสหรัฐ นอกจากนี้ การที่ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย กองทุน SPDR Gold Trust SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 25 พ.ย.ซื้อเข้าเพิ่มขึ้น 0.91 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,121.46 ตันเข้าสู่ 1,122.37 ตัน USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อ ดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกรายงานบ่งชี้ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4960 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4965 ยูโรต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.4970 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.44% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 88.560 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 88.950 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 88.33 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 33.21/33.29 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งมีการอ่อนค่ามากขึ้นจากการเปิดตลาดในตอนเช้า โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ที่ระดับ 33.19/33.26 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งที่สอง โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวเพียง 2.8%ต่อปี เมื่อเทียบกับการประมาณการครั้งก่อนที่ระบุว่าขยายตัว 3.5% ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของสหรัฐเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากยอดขาดดุลการค้าพุ่งขึ้นรุนแรง และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคร่วงลง - ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนก.ย.พุ่งขึ้นสูงเกินคาดถึง 18.2% แตะที่ 3.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2542 และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ระดับ 3.17 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ยอดขาดดุลการค้าปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.ย.คือ ราคาน้ำมันในต่างประเทศที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งปี - บิล กรอส ประธานบริหารแปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ (พิมโค) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลก ระบุว่าสหรัฐยังคงมีความเสี่ยงในเชิงระบบ เนื่องจากภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ครั้งใหม่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0 - 0.25% ซึ่งกรอสเตือนว่า นักลงทุนควรเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับสถานการณ์แบบ "new normal" หรือภาวะที่ประสิทธิภาพในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลต่ำกว่าเป้าหมาย, อัตราการอุปโภคบริโภคต่ำ, อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำลง และภาวะที่เศรษฐกิจสหรัฐมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกน้อยลง - รายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (อีไอเอ) สังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 พ.ย.จะเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล - ธนาคารกลางรัสเซียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (refinancing rate) ลงอีก 0.5% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9% จากเดิมที่ 9.5% และลดดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (repurchase rate) สู่ระดับ 8% จากเดิม 8.5% มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้มีการเก็งกำไรเงินรูเบิล และผ่อนปรนกระแสการหมุนเวียนสินเชื่อในภาคครัวเรือนและธุรกิจ - ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจประจำเดือนพ.ย.ของเยอรมนีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน และทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 หลังจากรัฐบาลเยอรมนีใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 8.5 หมื่นล้านยูโร (1.27 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งช่วยหนุนเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย - โจนาธาน สไตน์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท วิสดอมทรี อินเวสต์เมนท์ อิงค์ คาดการณ์ว่า ค่าเงินหยวนของจีนยังอ่อนค่าอยู่ราว 30-35% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะกดดันให้ธนาคารกลางจีนต้องประกาศขึ้นค่าเงินหยวนอย่างเป็นทางการในที่สุด - สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 49.5 จุด ซึ่งแม้จะเพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค.ที่ระดับ 48.7 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 47.7 จุด แต่ดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 50 จุดบ่งชี้ว่าผู้บริโภคยังมีความวิตกกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง 23-27พฤศจิกายน 2552 วันอังคาร ? ตัวเลขประมาณการครั้งที่2ของจีดีพีประจำไตรมาส3 3.5% 3.0% 2.8% ? สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยราคาบ้านเดือนก.ย. -11.3% -9.1% -9.4% ? สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ย. 47.7 47.6 49.5 ? ประชุมย่อยของfed - - - วันพุธ ? ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ หรือJobless Claims 505K 500K ? ดัชนี การการใช้จ่ายในการบริโภค และอุปโภคส่วนบุคคล หรือPersonal Consumption Expenditure หรือ (PCE) 0.1% 0.1% ? กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขรายได้ส่วนบุคคลเดือนต.ค. 0.0% 0.2% ? กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยการบริโภคส่วนบุคคลเดือนต.ค. -0.5% 0.6% ? ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. 1.4% 0.5% ? ส่วนสำคัญของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. 1.2% 0.8% ? กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. 402K 408K ? มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย. 66.0 67.2 ? ปริมาณสำรองน้ำมัน ของEIA -0.9M 1.6M คำแนะนำการลงทุน Gold Futures DAY TRADER GFZ09 ซื้อในช่วงราคา 18400 - 18450 ขายในช่วงราคา 18530 - 18550 GFG10 ซื้อในช่วงราคา 18440 - 18490 ขายในช่วงราคา 18570 - 18590 SWING TRADER GFZ09 ทิศทางทองคำยังอยู่ในขาขึ้นหลังจากทำจุดสูงใหม่ รอซื้อที่ระดับ 18480 รอขายที่ระดับ 18600 GFG10 รอซื้อที่ระดับ 18500 รอขายที่ระดับ 18620 ปัจจัยสำคัญ High Light - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งที่สอง โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวเพียง 2.8%ต่อปี เมื่อเทียบกับการประมาณการครั้งก่อนที่ระบุว่าขยายตัว 3.5% ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของสหรัฐเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากยอดขาดดุลการค้าพุ่งขึ้นรุนแรง และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคร่วงลง - ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนก.ย.พุ่งขึ้นสูงเกินคาดถึง 18.2% แตะที่ 3.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2542 และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ระดับ 3.17 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ยอดขาดดุลการค้าปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.ย.คือ ราคาน้ำมันในต่างประเทศที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งปี GOLD Market Recap : 24/11/2009 MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,163 $ ส่วน Gold Future Z09 เปิดที่ 18,460 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 17,350 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ราคาทองคำต่างประเทศระหว่างวันเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,162 — 1,170 $ โดยในช่วงบ่ายราคาทองคำต่างประเทศปรับขึ้นมาพอสมควร โดยปิดตลาด Gold Future Z09 ปิดตลาดที่ 18,490 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำปรับขึ้น 100 บาทอยู่ที่ 18,450 นักลงทุนยังเข้าซื้อขายคึกคัก เนื่องจากราคาทองคำยังแกว่งตัวในระดับสูง NIGHT RECAP: ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1161 เหรียญ โดยในช่วงเช้าราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1161 - 1164 เหรียญ ต่อมาในช่วงบ่ายราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1163 - 1170 เหรียญก่อนปิดตลาดที่ 1167เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวไปทำจุดสูงสุด 1171 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1167.2 เหรียญ สนใจลงทุนใน Gold Futures กับ MTS Gold Futures สามารถติดต่อที่เบอร์ 02-222-5959

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ