กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 11 จังหวัดภาคใต้ เตรียมรับมือภาวะฝนตกหนักในระยะ 3-4 วันนี้ (วันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2552) ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง รวมทั้งกำชับมิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยแจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯเพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที พร้อมสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ส่งผลให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักในช่วง 3-4 วันนี้ (วันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2552) อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มวาตภัย และคลื่นซัดฝั่งในพื้นที่ 11 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ ตรัง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสาน 11 จังหวัดดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และบริเวณชายฝั่งทะเล เตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและคลื่นซัดฝั่งที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย แจ้งเตือนประชาชน และรายงานสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา และเขต 18 ภูเก็ต เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยกำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที หากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้จังหวัดดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัด
นายอนุชา กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 11 จังหวัดให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดหากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่และสังเกตพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีขุ่นข้น ให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของไปยังที่ปลอดภัย เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมชายฝั่งทะลภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง โดยเสริมคันกั้นน้ำริมฝั่งและตรวจสอบบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างให้มีความมั่นคงแข็งแรง ส่วนชาวเรือให้ระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2552 สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-2432200 PR DDPM