กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้น โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการสำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 28 พ.ย. ถึงวันที่ 14 ธ.ค. 52 อันเนื่องมาจากการประกาศชุมนุมของกลุ่ม นปช. ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 28 พ.ย. ถึงวันที่ 2 ธ.ค. 52 กอ.รมน.กทม. เป็นหน่วยงานหลักในการเตรียมความพร้อมในการป้องกัน และแก้ไขบรรเทาเหตุการณ์ รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่สำนักงานปกครองและทะเบียน เพื่อปฏิบัติการและดูแลความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง โดยมอบหมายให้หน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ได้เตรียมพร้อมปฏิบัติการ ซึ่งประกอบด้วย สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดเตรียมรถดับเพลิง รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถน้ำ สำนักการแพทย์และอนามัย เตรียมพร้อมรถพยาบาล หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน แพทย์ พยาบาล รวมทั้งโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ วชิรพยาบาล โรงพยาบาลกลาง และโรงพยาบาลตากสิน สำนักการจราจรและขนส่ง ตรวจสอบความสมบูรณ์ของกล้อง CCTV รวมทั้งสัญญาณไฟจราจร สำนักการโยธา เตรียมรถยก รถเทรลเลอร์ และเครื่องจักรต่างๆ สำนักสิ่งแวดล้อม จัดเตรียมรถสุขา รถน้ำ สำนักเทศกิจ จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ จำนวน 350 นาย ร่วมปฏิบัติหน้าที่กับฝ่ายความมั่นคงในการตั้งด่านตรวจในพื้นที่สำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ชั้นในทั้ง 5 สำนักงานเขต ประกอบด้วย เขตดุสิต พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย ปทุมวัน และสัมพันธวงศ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้เตรียมพร้อมในการรับมือสถานการณ์อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมรถดับเพลิง รถน้ำ รถสุขาเคลื่อนที่ รวมทั้งจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ ในการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุม โดยทุกคนสามารถใช้สิทธิชุมนุมได้ตามกฎหมาย แต่ต้องไม่สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวจะมีกิจกรรมเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2552 ซึ่งคนไทยทุกคนจะต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว