กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--กบง.
ที่ประชุมกบง.ปรับแผนการดำเนินการสนับสนุนกลุ่มรถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซ LPG ให้เปลี่ยนมาเป็น NGV โดยให้ประกวดราคาเพื่อจัดซื้อถัง NGV และอุปกรณ์ส่วนควบ 3 หมื่นชุดๆละ 35,000 บาท และสนับสนุนค่าติดตั้งให้กับอู่ที่ให้บริการโดยจ่ายตามจริงไม่เกินคันละ 5,000 บาท เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมไฟเขียวอนุมัติเงินชดเชยการนำเข้า LPG ในส่วนที่เกิน 500 ล้านบาท/เดือน
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อ 25 พ.ย.2552 ว่า ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาเห็นชอบในเรื่องสำคัญๆ คือ การปรับแนวทางการดำเนินการสนับสนุนกลุ่มรถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซ LPG ให้เปลี่ยนมาเป็นรถแท็กซี่ NGV โดยแบ่งเงินสนับสนุนจำนวน 1,200 ล้านบาทตามที่กบง.อนุมัติไว้เดิมเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกใช้สำหรับประกวดราคา (e-Auction) เพื่อจัดซื้อถัง NGV และอุปกรณ์ส่วนควบจำนวน 30,000 ชุดๆ ละ 35,000 บาท อีกส่วนหนึ่งใช้สนับสนุนการบริการติดตั้งถัง NGV และอุปกรณ์ รวมทั้งการรับประกันหลังการขาย 1 ปีหลังติดตั้งโดยไม่จำกัดระยะทางให้กับอู่ติดตั้งที่ได้มาตรฐาน โดยจะสนับสนุนให้ตามวงเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินคันละ 5,000 บาท
ทั้งนี้เดิมวิธีดำเนินการของโครงการเปลี่ยนรถแท็กซี่ที่ใช้ LPG มาเป็น NGV ได้กำหนดให้ใช้วิธีประกวดราคาให้กับผู้รับจ้างติดตั้งโดยกระจายเป็นหลายๆ สัญญาเพื่อป้องกันการผูกขาด แต่จากข้อเสนอของคณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงาน (Term of Reference : TOR) และร่างเอกสารการประกวดราคาของโครงการนี้เห็นว่า แนวทางเดิมอาจเกิดปัญหาทำให้ผู้รับจ้างไม่สามารถติดตั้งให้รถแท็กซี่ LPG มาเป็น NGV ได้ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ เพราะการนำรถแท็กซี่เข้าร่วมโครงการนี้เป็นความสมัครใจของเจ้าของรถ จึงยากจะควบคุมปริมาณแท็กซี่ที่จะเข้าร่วมได้ตามสัญญา ดังนั้นจึงปรับแผนการเปลี่ยนรถแท็กซี่มาใช้ NGV ใหม่เพื่อให้กระบวนการดำเนินการมีความเป็นไปได้และเป็นประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อจ่ายชดเชยการนำเข้าก๊าซ LPG เกินวงเงินเดือนละ 500 ล้านบาทได้ ตามภาระการชดเชยราคานำเข้า LPG ที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละเดือน ทั้งนี้เพราะสถานการณ์การนำเข้าก๊าซ LPG ของไทยที่เพิ่มขึ้นและราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้จำนวนเงินที่ต้องจ่ายชดเชยการนำเข้าก๊าซ LPG ตั้งแต่เดือนสิงหาคม — ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมาเกินวงเงินตามมติ กบง.ที่กำหนดไว้ระดับ 500 ล้านบาท/เดือน ซึ่งปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิอยู่ที่ 20,512 ล้านบาท(ณ วันที่ 18 พ.ย.2552)