เจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก รายงานผลสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าต่อคุณภาพของรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยมีการปรับปรุงอย่างมาก

ข่าวทั่วไป Friday November 27, 2009 14:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--จิ๊กซอ คอมมิวนิเคชั่นส์ เจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก รายงาน ผลสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าต่อคุณภาพของรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยมีการปรับปรุงอย่างมาก รถยนต์ค่ายโตโยต้าคว้า 3 รางวัลด้านคุณภาพ ขณะที่ฮอนด้าและมาสด้าได้รับค่ายละ 1 รางวัล เจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก เปิดเผยผลการศึกษาวิจัยคุณภาพรถใหม่ในประเทศไทย ประจำปี 2552 (Initial Quality Study — IQS) ในวันนี้พบว่า อัตราการเกิดปัญหาด้านคุณภาพของรถยนต์ใหม่ประจำปี 2552 ลดลงถึง 17% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2551 การศึกษาวิจัยครั้งนี้ ซึ่งเป็นการศึกษาปัญหาคุณภาพรถยนต์ใหม่ที่ลูกค้าได้ประสบในช่วง 2-6 เดือนแรกของการเป็นเจ้าของ การศึกษานี้ได้ตรวจสอบถึงปัญหาหรือความผิดปกติมากกว่า 200 รายการ และสามารถจัดกลุ่มปัญหาหรือความผิดปกติที่พบได้เป็น 8 หมวดหมู่ โดยเรียงตามลำดับของจำนวนปัญหาที่พบ ปัญหาด้านแรกได้แก่ ปัญหาด้านภายนอกรถยนต์ ตามด้วยปัญหาด้านเครื่องยนต์และระบบเกียร์ ปัญหาจากประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ ปัญหาจากระบบฮีทเตอร์ ระบบระบายอากาศและระบบแอร์ (HVAC) ปัญหาด้านเครื่องเสียง ความบันเทิงและระบบนำทาง ปัญหาจากอุปกรณ์ ปุ่มควบคุม และแผงหน้าปัด ปัญหาจากภายในรถยนต์ และด้านสุดท้าย ปัญหาจากที่นั่ง ในการวัดผลด้านคุณภาพ ผลการศึกษานี้ได้คำนวณจากจำนวนปัญหาหรือความผิดปกติที่พบจากรถยนต์ใหม่ทุก 100 คัน (ในที่นี้ เรียกว่า PP100) ถ้ารถยนต์รุ่นใดได้คะแนนน้อย หมายความว่ารถยนต์รุ่นนั้นมีคุณภาพสูง จากการศึกษาพบว่า คุณภาพรถยนต์ใหม่โดยรวมในประเทศไทยประจำปี 2552 มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 133 PP100 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงที่ดีขึ้น เพราะค่าเฉลี่ยที่ได้ในปี 2552 มีค่าลดลงจากปี 2551 ถึง 28 PP100 โดยผู้ใช้รถยนต์ใหม่ได้รายงานปัญหาด้านคุณภาพหรือความผิดปกติที่พบลดลง 7 ด้านจากปัญหาทั้งหมด 8 ด้าน (กล่าวคือปัญหาด้านคุณภาพหรือความผิดปกติที่พบได้ลดลงในทุกด้านยกเว้นปัญหาด้านภายนอกรถยนต์) และสิ่งที่มีการปรับปรุงอย่างชัดเจนที่สุดคือปัญหาด้านเครื่องยนต์และระบบเกียร์ ซึ่งปัญหาด้านนี้ในปี 2552 มีค่าเฉลี่ยลดลง 9 PP100 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2551 ส่วนปัญหาด้านคุณภาพหรือความผิดปกติที่พบบ่อยครั้งที่สุด เป็นปัญหาด้านภายนอกรถยนต์ ได้แก่เรื่อง “เสียงลมดังเกินไป” ซึ่ง ร้อยละ 11 ของเจ้าของรถยนต์ใหม่ได้รายงานถึงปัญหาตรงจุดนี้ ‘ประเทศไทยเป็นทั้งฐานการผลิตและฐานการส่งออกรถยนต์รายใหญ่ และเมื่อคำนึงถึงจุดนี้แล้ว บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ในไทยจึงมีความมุ่งมั่นและพิถีพิถันในความพยายามที่จะปรับปรุงคุณภาพของรถยนต์’ โลอิค เปอ็อง ผู้จัดการประจำประเทศไทย เจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก กรุงเทพ กล่าว ‘จะเห็นได้ว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุณภาพของรถยนต์ใหม่โดยรวม ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและ ดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายจุด ที่ผู้ผลิตรถยนต์สามารถปรับปรุงได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาหรือความผิดปกติด้านภายนอกรถยนต์ ซึ่งมักจะเจอปัญหาด้านคุณภาพที่เกิดขึ้นซ้ำๆ’ ผลงานของรถรุ่นต่างๆ แบ่งตามกลุ่ม ในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางระดับต้น (Entry Midsize Car) พบว่า โตโยต้า ยาริส ครองอันดับหนึ่งด้วยคะแนน 117 PP100 ส่วนรถยนต์ของฮอนด้า 2 รุ่น คือ ซิตี้โฉมใหม่ (119 PP100) และแจ๊ซ (133 PP100) ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 2 และ 3 ตามลำดับ มาสด้า 3 (115 PP100) ได้รับคะแนนคุณภาพรถยนต์ใหม่สูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลาง (Midsize Car) ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยมีฮอนด้า ซีวิค (137 PP100) และ โตโยต้า โคโรล่า อัลติส (152 PP100) อยู่ในอันดับรองลงมา ส่วน กลุ่มรถยนต์ SUV (รถอเนกประสงค์กึ่งสปอร์ต) ฮอนด้า ซีอาร์-วี ซึ่งได้คะแนน 102 PP100 ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ตามมาด้วยอีซูซุ มิว-7 (105 PP100) และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ (112 PP100) ในบรรดารถกระบะมีแค็บ (Pickup Extended Cab) โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ พรีรันเนอร์ สมาร์ทแค็บ ติดอันดับสูงสุด ด้วยคะแนน 124 PP100 ตามด้วยอีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ (127 PP100) และนิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา (130 PP100) ในส่วนของรถกระบะ 4 ประตู (Pickup Double Cab) โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ พรีรันเนอร์ ครองอันดับสูงสุด(117 PP100) ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ตามติดด้วย โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ (127 PP100) และอีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ (150 PP100) ผลการศึกษาเพิ่มเติมสำหรับตลาดรถยนต์ การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า ในช่วงของการใช้งานรถยนต์ใหม่นั้น จำนวนปัญหาที่พบ ส่งผลอย่างมากต่อความพึงพอใจของเจ้าของรถยนต์ใหม่ และยังส่งผลต่อเนื่องถึงความตั้งใจที่จะกลับมาซื้อรถยนต์ยี่ห้อนั้นอีก สำหรับกลุ่มลูกค้าที่รายงานว่าไม่พบปัญหาใด ๆ ระหว่างการใช้งาน ร้อยละ 46 กล่าวว่า พวกเขา ‘พอใจมาก’ (โดยมีการให้คะแนน 10 เต็ม) กับรถยนต์ของตน ส่วนกลุ่มลูกค้าที่รายงานว่าได้พบปัญหา 1 อย่างหรือมากกว่านั้น มีเพียงแค่ร้อยละ 17 ที่กล่าวว่าพวกเขา ‘พอใจมาก’ กับรถยนต์ของตน ยิ่งไปกว่านั้น ประมาณ 2 ใน 3 ของกลุ่มลูกค้าที่ ‘พอใจมาก’ กล่าวว่า พวกเขาจะกลับมาซื้อยี่ห้อเดิมอีก ‘อย่างแน่นอน’ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีจำนวนมากกว่าลูกค้าที่กล่าวว่าพวกเขารู้สึก ‘ผิดหวัง’ หรือ ‘เฉยๆ’ กับรถยนต์ของตน (โดยให้คะแนนระหว่าง 1-7 จากจำนวนเต็ม 10 คะแนน) ถึง 2.5 เท่า ‘ประสบการณ์ในช่วงแรก ๆ ของการใช้รถยนต์มีความสำคัญอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่เป็นการสร้างการรับรู้ของลูกค้าใน ระยะสั้น แต่ประสบการณ์นี้ยังส่งผลกระทบในระยะยาวต่อความพึงพอใจของลูกค้า และความจงรักภักดีทีมีต่อยี่ห้อนั้นด้วย’ เปอ็องกล่าว การศึกษาวิจัยคุณภาพรถใหม่ในประเทศไทย ประจำปี 2552 จัดทำขึ้นโดยประเมินผลจาก เจ้าของรถยนต์ใหม่จำนวน 3,460 ราย ที่ซื้อรถยนต์ระหว่างเดือนตุลาคม 2551 ถึงเดือนกรกฎาคม 2552 โดยทำการศึกษาผู้ซื้อรถยนต์นั่ง รถกระบะ และรถยนต์อเนกประสงค์ จำนวนทั้งสิ้น 58 รุ่น จากรถยนต์ 11 ยี่ห้อ การศึกษานี้ได้เก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนามระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 เกี่ยวกับ เจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก (J.D. Power Asia Pacific) เจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก มีสถานที่ทำการในกรุงโตเกียว สิงคโปร์ กรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกรุงเทพฯ โดยจัดทำบทวิจัยความพึงพอใจของลูกค้า และให้บริการวิเคราะห์ผลงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการเงิน ผลงานจากห้าสำนักงานนี้คือความเข้าใจในความพึงพอใจของลูกค้าที่ช่วยให้ผู้บริโภคและธุรกิจต่าง ๆ ใน ประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ประเทศไทย และเวียดนาม เข้าใจถึงสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับความพึงพอใจ ท่านสามารถเข้าเยี่ยมชมเกี่ยวกับ เจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก และสินค้าของบริษัท ได้ที่ www.jdpower.com เกี่ยวกับ เจ.ดี. พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (J.D. Power and Associates) สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เวสต์เลค วิลเลจ, แคลิฟอเนียร์ โดย เจ.ดี. พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ เป็นบริษัทจดทะเบียนระดับโลกที่ให้บริการด้านข้อมูลทางการตลาดโดยมีการดำเนินงาน ในกลุ่มธุรกิจหลักอันรวมถึงการวิจัยทางการตลาด การคาดการณ์ การปรับปรุงผลงาน การทำวิจัยผ่านเว็บไซต์ (Web intelligence) และการวัดความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งนี้เจ.ดี. พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ เป็นบริษัทหนึ่งของ เดอะ แมคกรอ—ฮิล คอมพานีส์ เกี่ยวกับ เดอะ แมคกรอ—ฮิล คอมพานีส์ (The McGraw-Hill Companies) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2431 เดอะ แมคกรอ—ฮิล คอมพานีส์ (NYSE: MHP)เป็นผู้ให้บริการด้านข้อมูลชั้นนำระดับโลกที่ตอบสนองความต้องการจากทั่วโลกในด้านบริการทางการเงิน การศึกษา และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับข้อมูลด้านธุรกิจผ่านแบรนด์ชั้นนำ เช่น สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (Standard & Poor’s) แมคกรอ—ฮิล เอดูเคชั่น (McGraw-Hill Education) แพลทส์ (Platts) แคปิตอล ไอคิว (Capital IQ) เจ.ดี. พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ แมคกรอ—ฮิล คอนสตรัคชั่น (McGraw-Hill Construction) และเอวิเอชั่น วีค (Aviation Week) ทั้งนี้ บริษัทมีสำนักงานมากกว่า 280 แห่งใน 40 ประเทศและมียอดขายในพ.ศ.2551ที่ 6,400 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้จาก http://www.mcgraw-hill.com ติดต่อเพิ่มเติม ติดต่อสื่อมวลชนสัมพันธ์ เดวิด ทูกู๊ด กรรมการผู้จัดการ บริษัท จิ๊กซอ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด เลขที่32 ถนนสุขุมวิทซอย19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ : 02-253-2793; david.toogood@jigsaw-communications.com โลอิค เปอ็อง ผู้จัดการประจำประเทศไทย เออาร์เอ เป็นหน่วยงานหนึ่งของ เจ.ดี. พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 66 ซอยอโศก ถนนสุขุมวิท ซอย 21 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ : 02-264-2050; loic_pean@auto-resources-asia.com จอห์น ทิวส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารมวลชนสัมพันธ์ เจ.ดี. พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ เลขที่ 5435 คอร์ปอเรท ไดรฟ์ ห้องชุดเลขที่ 300 ทรอย มิชิแกน 48098 สหรัฐอเมริกา โทรศัพท์ : 001 248-312-4119; john.tews@jdpa.com ห้ามนำข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่ครั้งนี้ไปใช้ในการโฆษณาหรือการส่งเสริมการขายอื่นๆ โดยไม่ได้รับการยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนจาก เจ.ดี. พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ http://www.jdpower.com/corporate

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ