กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
“ฉากกระท่อมน้อยคอยรัก” ฉากรักสุดคลาสสิคที่บรรดาเหล่าแฟนพันธุ์แท้แหยมยโสธรทุกคนล้วนจำติดตากับลีลาพลอดรักสุดฮาของบักแหยมและอีเจ้ยจากการแสดงแบบเข้าขากันสุดๆของ “หม่ำ จ๊กมก” และ “เจเน็ต เขียว” ที่ทำเอาคนไทยทั่วทุกภาคขำกันทั้งโรงมาแล้ว พอมาถึง “แหยมยโสธรภาค2” ที่มีคู่พระนางรุ่นใหม่อย่าง “ดิม หรินทร์” นักร้องหนุ่มแห่งวงแทททูคัลเลอร์ที่รับบท “ปลัดธนู” หนุ่มรูปหล่อจากกรุงเทพ และ “เอ็ม บุษราคัม วงษ์คำเหลา” ลูกสาวในชีวิตจริงของ “ผกก.หม่ำ จ๊กมก” มาสวมบท “อีแว่” ลูกสาวที่เปรียบได้กับไข่ในหินของกำนันแหยม ผู้กำกับหม่ำไม่วายส่งโจทย์สุดหินมาเป็นบททดสอบทางการแสดงครั้งสำคัญให้กับทั้งคู่นั่นคือ “ฉากพลอดรักฮาแตกในกระท่อมหลังเดิม ท่ามกลางบรรยากาศฝนพรำที่ทำให้นึกถึงฉากรักในตำนานของคู่แหยม-เจ้ย” เพียงทว่าอารมณ์ฮาสุดโรแมนติกแบบโจ๊ะๆ ที่ทั้งดิม-เอ็มต้องถ่ายทอดร่วมกันทั้งผาดโผน แถมโจนทะยานเบิกบานความฮาให้ทวีคูณยิ่งกว่า ถึงขนาดหนุ่มดิมออกปากว่า แม้จะได้มีโอกาสเล่นฉากบู๊แอ็คชั่นก็คงไม่เสี่ยงตายเท่ากับฉากพลอดรักในกระท่อมแถมยังต้องเล่นต่อหน้าคุณ(ว่าที่)พ่อ(ตา)ที่เป็นถึงผู้กำกับของ “แหยมยโสธร” อีกต่างหาก
“ก็อย่างที่หลายๆคนรู้พี่หม่ำเขาเป็นคนหวงลูกสาวมาก แต่จริงๆ แล้ว The show must go on พออยู่หน้ากล้องแล้วมันก็เป็นเรื่องของตัวละคร แถมตอนเข้าฉากต้องมีการจับไม้จับมือ มองตากันตลอด มิน่าตอนเรียนแอ็คติ้ง ครูเงาะถึงเน้นเรื่องนี้อย่างเดียวเลย เพราะจะจับมือกันตลอดเวลา เอะอะก็จับมือ ผมคิดว่าครูเงาะน่าจะรู้ว่าฉากที่ยากสำหรับนักแสดงเรื่องแรกน่าจะเป็นฉากพวกนี้ พวกที่เกรงใจกัน เขาก็เลยสอนแต่ฉากนี้ พูดกันเยอะๆ จับมือกันเยอะๆ จีบกันเยอะๆ ให้อีกคนหนึ่งหลับตา อีกคนหนึ่งจูงแขนวิ่งรอบห้อง คือต้องเข้าใจว่าเราต้องเชื่อใจกันก่อน”
ขณะที่สาวเอ็มเองก็เขินแบบสุดๆ เพราะต้องสบตาหนุ่มดิมในระยะที่ใบหน้าห่างกันแค่คืบเดียว แถมเจอบทสุดขำ และมุกแก๊กรายล้อมรอบที่ผกก.หม่ำตั้งใจนำเสนอในฉากนี้อีกเพียบ โดยกว่าจะได้ฉากดับเบิ้ลฮาออกมาสมใจ งานนี้ก็เลยต้องถ่ายกันอยู่ 6-7 เทคเลยทีเดียว
“ฉากนี้เบื้องหลังฮาสุดๆ ด้วยความที่พี่ดิมเขาทำหน้าตาย คือเขาทำหน้าลับหลังเรา แต่เราเห็นพี่ๆทีมงานที่อยู่หลังกล้องยิ้ม เราก็พยามจะกลั้นไม่ให้หัวเราะ ด้วยความที่ต้องเขินอาย และไดอะล็อกที่ชวนหัวเราะ และพี่ดิมก็จะจิ๊จ๊ะอยู่ด้านหลัง มันทำให้เรารู้สึกว่าอยากหัวเราะ แล้วประโยคไดอะล็อกพลอดรักได้ขำมากๆ ไม่รู้ว่าคิดได้ไง แล้วยิ่งมองหน้าพี่ดิม เขาจะทำหน้าเขินๆ อายๆ ทำหน้าตายอีก เอ็มเองเป็นคนสมาธิสั้น พอจ้องปุ๊บ เราก็รู้สึกว่าเราอยากขำ ตัวพี่ดิมเองก็ขำ พอพูดจบประโยคเรานิ่ง พอเรามองหน้ากันแล้วเราก็ยิ้ม พอคัทเราก็หัวเราะออกมาเลยแล้วพ่อก็จะวิ่งมาเลย เอ็มทำแบบนี้นะ ดิมเอาอย่างนี้นะ ก็จะมีมุกงอกแทรกเข้ามาอีก แล้วพอไดอะล็อกขำๆ คนอื่นเขาก็จะขำ แล้วพอเราเห็นคนอื่นขำ เราก็อยากจะขำไปด้วย ทั้งหมดก็ถ่ายอยู่ประมาณ 6-7 เทค เป็นฉากที่ยากสำหรับเอ็ม แล้วหน้าเอ็มกับหน้าพี่ดิมใกล้กันมาก ไม่เกิน 1 คืบ เอ็มไม่เคยจ้องหน้าใครแบบนี้ด้วย จะรู้สึกแปลกๆ เพราะพี่ดิมจะจ้องหน้าเราตลอดเวลาเลย เราก็รู้สึกเสียความมั่นใจ แต่สุดท้ายก็โอเคผ่านไปได้”
เตรียมพบกับอีกหนึ่งฉากรักรากหญ้าฮาคลาสสิคว่าคู่หนุ่มสาวรุ่นใหม่อย่างดิม-เอ็มจะเทียบชั้นได้กับลีลาพลอดรักของ “หม่ำ-เจเน็ต เขียว” ได้หรือไม่ 3 ธันวาคม นี้พิสูจน์กันทุกโรงภาพยนตร์