กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
ออสสิริส ผู้นำด้านลงทุนทองคำชั้นนำของไทย ต้อนรับศักราชใหม่เปิดตัวการลงทุนทองคำผ่าน “โปรแกรมออมทอง” พร้อมเปิดตัวเหรียญทองคำออสสิริส ซีรีส์ใหม่ ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ และเอาใจนักลงทุนด้วยบริการใหม่ อินเทอร์เน็ต เทรดดิ้ง เพิ่มความสะดวกการซื้อขายทองคำออนไลน์
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทออสสิริส จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2553 ว่า ออสสิริสต้องการตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของนักลงทุน โดยออสสิริสมีนโยบายที่จะพัฒนาและเพิ่มช่องทางการลงทุนอย่างหลากหลายเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้ในหลายรูปแบบ โดยในปีหน้านักลงทุนจะสามารถเลือกลงทุนได้ไม่ว่าจะเป็น ทองคำแท่ง ออมด้วยทองคำ หรือเก็บสะสมเหรียญทองคำ ผ่านช่องทางต่างๆ ที่บริษัทได้พัฒนาขึ้น รวมถึงการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจรด้านการลงทุนทองคำ
นายบุญเลิศ ระบุว่า ขอเริ่มต้นที่ บริการ “ออมทอง” ภายใต้โปรแกรมการออมทองคำ โปรแกรมที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนมีวินัยในการออม และเพิ่มความมั่งคั่งให้กับผู้ลงทุนในอนาคตด้วยทองคำ โดยออสสิริสมีโปรแกรมการออมที่ช่วยสร้างนิสัยสู่ความมั่งคั่งในอนาคต 2 แบบคือ โปรแกรมที่ 1 ออมเหรียญทองคำ เหมาะสำหรับ คนที่อยากเก็บเล็กผสมน้อย เพื่อให้ได้สะสมเหรียญทอง สู่ความมั่งคั่งในอนาคต โดยเริ่มต้นที่ 1,000 บาท โปรแกรมที่ 2 ออมทองคำแท่ง เหมาะสำหรับ คนที่อยากสร้างวินัยในการออม ด้วยการออมเป็นทองคำแท่ง โดยเริ่มต้นที่ 10,000 บาท
“เมื่อสมัครโปรแกรมการออม ผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะเริ่มออมที่เท่าไหร่ หากต้องการออมเพื่อรับเหรียญทองคำจะเริ่มด้วยขั้นต่ำที่ 1,000 บาท แต่หากต้องการออมเพื่อรับทองคำแท่งจะเริ่มด้วยขั้นต่ำที่ 10,000 บาท โดยโปรแกรมจะสะสมสม่ำเสมอเป็นรายเดือนและสามารถปรับเปลี่ยนจำนวนเงินออมรายเดือนให้มากขึ้นหรือน้อยลง เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินและตามแต่สภาพคล่องทางการเงินของตนเอง โดยโปรแกรมจะนำเงินออมไปซื้อทองให้ทุกวันตามระยะเวลาการออมของแต่ละราย ผ่านวิธีการตัดบัญชีอัตโนมัติกับธนาคาร ทุกวันทำการแรกของเดือน โปรแกรมการออมจะบอกจำนวนเงินที่ออมและจำนวนทองที่สะสมได้หรือสถานะการออมทุกเดือน โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ
นายบุญเลิศกล่าวเพิ่มเติมว่า โปรแกรมการออมจะช่วยสร้างนิสัยแห่งความมั่งคั่ง ด้วยการสร้างวินัยในการออมอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ที่สำคัญ ควรมีการกำหนดจำนวนเงินของการออมทุกๆ เดือน ไม่ว่าทองจะมีราคาเท่าไหร่ก็จะซื้อ เพราะการออมอย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดความผันผวนของราคาทองได้ โดยหากราคาทองเพิ่มขึ้น ก็จะซื้อทองได้น้อยลง และหากราคาทองลดลง ก็จะซื้อทองได้มากขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับภาวะตลาด ขณะที่ลงทุนด้วย
นอกจากนี้ ในโอกาสที่เทศกาลปีใหม่ใกล้เข้ามา ออสสิริสได้เปิดตัวเหรียญทองคำสำหรับนักษัตรใหม่ปีเสือให้ผู้ชอบสะสมเหรียญประจำราศีหรือปีเกิด และเหรียญคอลเลคชั่นดอกไม้ (ดอกกล้วยไม้แคทลียาและพวงมาลัยมะลิ) เป็นคอลเลคชั่นสะสมหรือเพื่อมอบให้คนพิเศษ (gold coin for gift) เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาของขวัญปีใหม่ รวมถึงนักลงทุนที่ชื่นชอบการสะสมเหรียญทองคำ
นายบุญเลิศกล่าวว่า ในโอกาสเดียวกันนี้ ออสสิริสได้เพิ่มช่องทางการซื้อขายเพื่อเอาใจนักลงทุนฉบับออนไลน์ โดยเปิดให้มีการซื้อขายผ่านทางเว็บไซต์ หรืออินเทอร์เน็ตเทรดดิ้ง ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการทดสอบระบบมาแล้วระยะเวลาหนึ่งและพร้อมให้บริการตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
นายบุญเลิศระบุว่า ปัจจุบันการลงทุนทองคำได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนในหลายกลุ่มและหลายระดับที่มองว่าการลงทุนในทองคำแท่งมีความมั่นคงเป็นสินทรัพย์ที่สามารถจับต้องได้ และในขณะเดียวกันก็ให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
“ปัจจุบันความต้องการทองคำแท่งในประเทศมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากทองคำจัดเป็นสินทรัพย์ที่มีความคงทนไม่เสื่อมคุณภาพ และมีมูลค่าในตัวเองซึ่งมูลค่าของทองคำจะสูงขึ้นตามกาลเวลา และทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูดกับนักลงทุน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำ”
นายบุญเลิศยังได้แนะถึงกลยุทธ์การลงทุนในทองคำภายในภาวะการณ์ปัจจุบันว่า นักลงทุนควรตัดสินใจในการลงทุนอย่างรอบคอบ หากสนใจซื้อทองคำในช่วงนี้ไม่ควรซื้อเยอะ ควรจำกัดปริมาณการซื้อไม่เกิน 10-20 บาท เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน และนักลงทุนควรให้ความสนใจในการติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดทุนและภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญนักลงทุนควรลงทุนทองคำตามเป้าหมายในการลงทุนของแต่ละบุคคลและควรเลือกประเภทการลงทุนที่เหมาะสมตามประเภทสินค้าของทองคำ ซึ่งมีทั้งทองคำแท่ง เหรียญทองคำ โกลด์ฟิวเจอร์ส และอื่นๆ
“ด้วยภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ยังคงผันผวน การลงทุนในทองคำจะยังคงได้รับความสนใจอย่างสูงในหมู่นักลงทุน ทั้งจากการเพิ่มขึ้นของแรงซื้อที่มาจากภาคการลงทุน ค่าเงินดอลลาร์ที่มีทิศทางอ่อนค่าลง รวมถึงการเข้าซื้อทองของธนาคารกลางเพื่อใช้เป็นทุนสำรองมากขึ้น ซึ่งทำให้ราคาทองคำจะยังคงได้รับแรงหนุนต่อไปในปีหน้า ในฐานะที่เป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย โดยคาดว่าราคาทองคำในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 จะอยู่ในกรอบ 1,000-1,200 เหรียญต่อออนซ์”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณปัณรษี ไทยวัชรามาศ
บริษัทพีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด
โทร 0-2651-8989 ต่อ 222
อีเมล์ panarasee@prassociates.net