การเปิดตัว รถยนต์เฟียตโฉมใหม่ เฟียต 500

ข่าวยานยนต์ Wednesday December 2, 2009 10:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--ไทย เพรสทีจ โอโตเซลส์ การเปิดตัวรถยนต์เฟียตโฉมใหม่ รุ่น เฟียต 500 ซึ่งตอบสนองทุกวัตถุประสงค์และทุกการขับขี่ เป็นรถยนต์ที่ฉีกแนว ด้วยกลยุทธ์ด้านการสร้างแบรนด์และนำเสนอด้วยวิธีการใหม่ๆ เฟียตได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมาและรถยนต์รุ่นนี้ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งยานยนต์สายพันธ์อิตาเลียนและกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เฟียตกำลังขับเคลื่อนสู่โลกแห่งอนาคต ไม่ว่าใครก็สามารถปรับโฉมรถยนต์รุ่นนี้ได้ เพราะรูปทรงของรถยนต์คันนี้เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ ยนตรกรรมบางรุ่นเป็นผลพวงมาจากความคิดสร้างสรรค์ของชาวอิตาเลียนในช่วงหลังสงคราม อาทิ เฟียต 500 หรือ เวสป้า ซึ่งไม่สามารถวัดกันได้ที่ชื่อ หรือสมรรถนะการขับขี่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะยานยนต์เหล่านี้เปรียบเสมือนยานยนต์อันทรงพลังพร้อมด้วยการออกแบบที่ฉีกแนว ตามแนวคิดที่สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานด้านยานยนต์ ด้วยแรงบันดาลใจเหล่านี้จึงรังสรรค์เกิดผลงานชิ้นโบว์แดงที่เป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ และ เฟียต 500 ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์หน้านี้ด้วย เรื่องราวนี้ได้เกิดขึ้นถึงสองครั้ง เรื่องแรกเป็นเรื่องราวของบรรดาเจ้าของรถยนต์ แฟนคลับและผู้ที่คลั่งไคล้รถยนต์รุ่นนี้เป็นจำนวนมากที่ช่วยกันโจษขานถึงภาพลักษณ์ที่ดี ความน่าเชื่อถือและความประหยัดของรถยนต์รุ่นนี้ ซึ่งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา เป็นส่วนที่ดีที่สุดที่สื่อถึงอิสระและอารมณ์ เฟียต 500 เชื่อมโยงความทรงจำต่างๆเหล่านี้เข้าด้วยกัน ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนและรักครั้งแรก และยังเป็นภาพในความทรงจำที่ดีที่หลายๆคนอยากจะฟื้นความทรงจำเหล่านั้นให้หวนมาอีกครั้ง รถยนต์ เฟียต 500 ออกแบบโดยดันเต กีอาโกซา ได้รับการเปิดตัวเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 และได้ปิดฉากลงในช่วงสงคราม มีผลทำให้การปรับโฉมรถยนต์รุ่นต่างๆของบริษัทสิ้นสุดลงไปด้วย อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เหล่านั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในอีก 10 ปีถัดมา ช่วงเวลานั้นนับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์การสร้างแบรนด์ของเฟียตในระยะเวลา 100 ปี การออกแบบ เฟียต 500 ให้มีความละม้ายคล้ายกับรุ่นเดิม เป็นการกลับมาอีกครั้งอย่างไม่ธรรมดา ต้องขอบคุณรูปลักษณ์ที่มีสไตล์โดดเด่นและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการปลุกกระแสของความเป็นอมตะ และนี่คือจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์อีกหนึ่งครั้ง คำกล่าวที่ว่าการเปิดตัวรถยนต์โฉมใหม่ของ เฟียต 500 นั้นเป็นเพียงแค่เรื่องธรรมดาหรือเป็นการนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่นั้นคงจะไม่ถูกต้องนัก เป้าหมายของเฟียตไม่ใช่แค่การออกแบบรถยนต์ที่คล้ายกับ เฟียต 500 รุ่นเก่า แต่ต้องการออกแบบรถยนต์ที่สามารถกลายเป็น เฟียต 500 ได้ เฟียต 500 โฉมใหม่เป็นการนำกระบวนการด้านนวัตกรรมสิ่งแวดล้อมใหม่ๆที่ลูกค้ากำลังให้ความสำคัญอยู่ในขณะนี้ เพื่อมากำหนดทิศทางที่ชัดเจนในการวางตำแหน่งสินค้าของเฟียตในอนาคต รถยนต์เฟียต 500 รุ่นใหม่ยังคงรักษาแนวคิดดั้งเดิมในด้านของรูปทรงและการใช้งาน เพราะเป็นสิ่งที่ลูกค้าหลายท่านคาดหวัง และเป็นการย้อนอดีตถึงอารมณ์และความทรงจำที่ไม่มีวันสิ้นสุด สิ่งเหล่านี้จะทำให้เฟียตก้าวล้ำขอบเขตอันจำกัดของรถยนต์ในกลุ่มเดียวกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องกล่าวถึงคือนวัตกรรมใหม่ๆที่สามารถนำมารวมกันอยู่ภายในรถยนต์รุ่นใหม่คันนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นอันดับแรกคือนำผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆมาร่วมในการพัฒนาและวางแผนการตลาดของรถยนต์รุ่นนี้ โดยเริ่มจากการหากลุ่มเป้าหมายกว่า 3,000,000 คนให้เสนอแนวความคิดของพวกเขาเข้ามาในโครงการผ่านทางเวที “เฟียต 500 ต้องการคุณ” โครงการนี้เป็นวัฒนธรรมใหม่ระหว่างผู้ผลิตและลูกค้า ซึ่งส่งผลให้เฟียตกลายเป็นองค์กรที่เปิดรับความคิดเห็นและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ใกล้เคียงที่สุด เฟียต 500 เป็นรถยนต์ของลูกค้า ออกแบบโดยลูกค้า คำกล่าวนี้ได้สรุปปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาของโครงการนี้ ซึ่งนำเสนอสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ยังไม่เคยมีบริษัทใดนำเสนอในตลาดรถยนต์กลุ่มนี้มาก่อน เฟียตได้ผ่านมาตรฐานการจำกัดการปล่อยมลพิษของ ยูโร 5 ล่วงหน้าถึง 2 ปีก่อนวันที่กฎหมายกำหนด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเฟียตเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม มากไปกว่านั้น ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่รถยนต์ขนาดเล็ก (3.5 เมตร) ที่ได้รับคะแนนระดับ 5 ดาวจากการทดสอบการชนของ EuroNCAP และพร้อมแล้วที่จะเข้าทดสอบระดับ 6 ดาวเมื่อมีการเปิดให้เข้าทดสอบ รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่เพียงแค่โครงสร้างที่มีความแข็งแกร่งเท่านั้น ยังเป็นเพราะชิ้นส่วนที่นำมาประกอบตัวถังและโครงสร้างภายใน อาทิ ถุงลมนิรภัย 7 ลูก (รถยนต์ขนาดเล็กรุ่นเดียวที่มีถุงลมนิรภัยที่หัวเข่า) และโปรแกรมควบคุมการทรงตัว (ESP) ที่มีในเครื่องยนต์ทุกรุ่น (มาตรฐานในรุ่น 100 แรงม้า 1.4 16v) องค์ประกอบเหล่านี้เป็นสิ่งที่ใหม่มากสำหรับกลุ่มรถยนต์กลุ่มนี้ เฟียต 500 เป็นรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นแรกที่มีให้เลือกหลากหลาย เฟียต 500 มี 4 รุ่นพร้อมด้วยเครื่องยนต์ 3 แบบ เฉดสีมีให้เลือกมากถึง 12 เฉดและ 6 เฉดสีจะเป็นสีวินเทจที่ทำให้นึกถึงช่วงปี 2493 และ 2503 รวมถึงการเคลือบสีถึง 3 ชั้นด้วยกระบวนการที่ใช้สำหรับการผลิตรถยนต์หรู เบาะนั่งมีให้เลือกถึง 15 แบบซึ่งรวมถึงเบาะหนังระดับหรูอย่างคอนดูราและฟรัว ขอบล้อมีให้เลือกถึง 9 แบบด้วยกัน นอกจากนั้นเฟียตยังออกแบบ สติกเกอร์มาถึง 19 ลาย ซึ่งทำให้ทั้งหมดสามารถตกแต่งลวดลายได้มากกว่า 500,000 สไตล์ (หรือ 549,936 สไตล์) สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับรถยนต์รุ่นนี้คือเครื่องพ่นน้ำหอมไฟฟ้า ซึ่งมีน้ำหอมให้เลือก 3 กลิ่น มากไปกว่านั้นลูกค้าสามารถเลือกสีกุญแจรถได้ ซึ่งจะคล้ายกับตลาดของโทรศัพท์มือถือ ลูกค้าสามารถเลือกสีของกุญแจให้เหมาะกับสีรถยนต์หรือเลือกแบบอื่นๆที่ตนเองชื่นชอบได้ และยังไม่เคยมีรถยนต์ยี่ห้อใดนำเสนออุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์หลากหลายเช่นนี้มาก่อน เฟียต 500 สร้างจากแนวคิดที่ครอบคลุมไม่ใช่แนวคิดเฉพาะเจาะจง และเฟียตคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยไม่มีการแบ่งแยก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ชอบแนวคิดง่ายๆไปจนถึงผู้ที่ชื่นชอบนวัตกรรมใหม่ๆ แนวคิดในการสร้างสรรค์รถยนต์ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของตัวบุคคลได้แสดงผ่านทางการกระบวนการนำเทคโนโลยีด้านอิเล็กโทรนิคมาใช้ในห้องโดยสาร (แบบเสียบสาย) บลูแอนด์มี (Blue&Me) และ ไอพ็อด (iPod) สามารถนำมาใช้ในรถยนต์รุ่นนี้ได้ เพราะมีเต้าเสียบรองรับ นอกจากนั้นยังมีเครื่องนำทางแบบพกพาซึ่งคิดค้นมาเพื่อ เฟียต 500 โดยเฉพาะ ออกแบบโดย แมกเนตี มาเรลลี(Magneti Marelli) ซึ่งสามารถวางบนแผงหน้าปัดได้พอดีและเชื่อมต่อกับฟังก์ชั่นอื่นๆภายในรถยนต์ได้ เฟียตมอบข้อเสนอหลากหลายให้กับลูกค้า เพราะเฟียต 500 ต้องเป็นรถยนต์สำหรับทุกคน เป็นรถยนต์ของทุกคน ที่ทุกคนเป็นผู้ออกแบบ เฟียต 500 คือรถยนต์เฟียตโฉมใหม่และเฟียตโฉมใหม่นี้เป็นรถยนต์ของทุกคน การเปิดตัวเฟียต 500 โฉมใหม่ถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ เป็นการประกาศจุดยืนของเฟียตใน อนาคตที่ต้องการให้ตลาดและสังคมรับรู้ รถยนต์รุ่นใหม่นี้ถือเป็นการกระตุ้นการใช้พลังงานอย่างมีจิตสำนึก เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับการค้นหาประสบการณ์ในด้านยานยนต์ที่มุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพและอารมณ์ เน้นความแตกต่างมากกว่าการผลิตจำนวนมาก ซึ่งการลดทอนบางขั้นตอนไม่ได้หมายถึงการตัดขั้นตอนนั้นออกไป เฟียต 500 เป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมของแรงบันดาลใจเหล่านี้ และด้วยรถยนต์รุ่นนี้เอง ทำให้เฟียตสามารถยิ้มต้อนรับกับอนาคตได้ รายละเอียดรถยนต์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2550 ซึ่งเป็นเวลา 50 ปี พอดี รถยนต์เฟียต 500 โฉมใหม่ได้เปิดตัวที่ ตูริน และจะมีการจัดทำการตลาดทันทีหลังจากการเปิดตัว รถยนต์รุ่นนี้เกิดขึ้นมาด้วยแนวคิด 3+1 ที่ได้มาจากงานมอเตอร์โชว์ ณ กรุงเจนีวา ในปี 2547 เฟียต 500 โฉมใหม่กลายเป็นรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดสำหรับผู้ขับขี่ที่รักอิสระและชอบรถยนต์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังต้องการรถยนต์ที่ให้ความบันเทิงและเหมาะกับทุกการขับขี่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ราคาไม่แพง มีเสน่ห์และสนุกสนาน รถยนต์รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ดึงดูดใจ สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และกำลังได้รับกระแสความสนใจจากตลาด อย่างไรก็ตาม เฟียตยังคงรักษาประวัติศาสตร์และพันธกิจที่จะผลิตรถยนต์สไตล์ดั้งเดิม ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ที่ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ รวมถึงการนำเสนอเทคโนโลยีอันชาญฉลาดที่ช่วยประหยัดพลังงานและช่วยให้การขับขี่ดีขึ้น รถยนต์เฟียต 500 ได้พัฒนาคุณภาพในด้านของความนุ่มนวลและความปลอดภัยในการขับขี่ นำเสนอเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆสำหรับตลาดกลุ่มนี้ พร้อมทั้งยังมีนวัตกรรมใหม่ๆสอดแทรกเข้าไปด้วย เฟียต มุ่งมั่นในการสรรหาทรัพยากรที่ดีที่สุดและวิธีการที่ดีที่สุด จึงก่อให้เกิดโครงการที่ดีๆขึ้นมา อย่างไรก็ตามโครงการนี้ยังไม่แล้วเสร็จ สำหรับโครงการเฟียต 500 เฟียตตัดสินใจปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่โดยการนำแนวความคิดของความร่วมมือมาเป็นศูนย์กลางของกระบวนการพัฒนา และโครงการนี้เป็นโครงการแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่นำผู้ที่สนใจจากทั่วโลกมาร่วมแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับรถยนต์ในอนาคตผ่านเวทีบนอินเตอร์เน็ตชื่อ “เฟียต 500 ต้องการคุณ” นักออกแบบและวิศวกรของเฟียต เป็นผู้เก็บรวบรวมข้อเสนอแนะต่างๆและนำมาตั้งเป็นเป้าหมาย เพื่อพัฒนารถยนต์ที่มีสไตล์และใช้อุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังมากที่สุด เฟียต 500 จึงเป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อทุกคน โดยพัฒนามาจากแนวความคิดของทุกคน ท้ายที่สุด รถยนต์รุ่นใหม่นี้ได้ยืนยันความเป็นผู้นำในตลาดกลุ่มนี้ของเฟียต ออโตโมบิลได้อย่างชัดเจน เป็นสัญชาตญานของเฟียตที่ย้อนอดีตไปไกลและสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของตลาดกลุ่มนี้ เฟียต 500 เกิดขึ้นมาด้วยเทคนิคพิเศษและการออกแบบสไตล์ดั้งเดิมที่ได้รับการคิดค้นมาหลายทศวรรษ และได้มาจากความชำนาญที่มีเพียงบริษัทที่เป็นผู้นำในตลาดยุโรปมาโดยตลอดเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเฟียตไม่เพียงแต่เอาชนะตลาดรถยนต์ขนาดเล็กด้วยยอดขายแล้วแต่เหนือสิ่งอื่นใดยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าด้วย ลูกค้าไว้วางใจในแบรนด์และประสบการณ์ของนักออกแบบ รูปทรงเย้ายวนใจบวกสไตล์อันทันสมัย เฟียต 500 แบบ 3 ประตูโฉมใหม่ รูปทรงกะทัดรัดออกแบบโดยศูนย์การออกแบบเฟียต ความยาว 355 เซนติเมตร ความกว้าง 163 เซนติเมตร ความสูง 149 เซนติเมตรและฐานล้อกว้าง 230 เซนติเมตร รถยนต์ขนาดเล็กที่ดูนุ่มนวลและสง่างาม สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ขับขี่ได้แม้ในขณะที่ต้องเผชิญกับการจราจรที่ติดขัดทุกวัน เพราะเป็นรถยนต์ที่ไม่กินพื้นที่มากและเหมาะสมกับวิถีชีวิตแบบเร่งรีบ ด้วยรูปทรงที่มีเสน่ห์ รถยนต์รุ่นนี้จึงเป็นรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเมื่อมองจากด้านข้าง รูปทรงเพรียวกะทัดรัด ส่วนหน้าของรถยนต์เป็นการผสมผสานกันระหว่างเฟียตรุ่นใหม่และรุ่นเก่าเข้าด้วยกัน เอกลักษณ์อันโดดเด่นของรถยนต์รุ่นแรกคือการผสมผสานกันของไฟหน้าทรงกลม ไฟล่างที่ให้แสงสว่างอย่างเต็มที่ กระจังหน้าและส่วนที่เป็นโลโก้ด้วย นอกจากนั้น ส่วนหน้าของตัวถังจะลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อเน้นย้ำความแข็งแรง ในขณะที่ด้านหลังจะมีรูปทรงที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย มือจับโครเมี่ยมที่ชวนให้นึกถึง เฟียต 500 รุ่นแรก รูปลักษณ์ภายนอกสื่อถึงสไตล์อันโดนเด่น ที่มาพร้อมด้วยเฉดสีถึง 12 สี (สีเมทาลิก สีธรรมดาและสีมุก) และยังตกแต่งวัสดุภายในได้หลากสไตล์ด้วยวัสดุผ้าและหนัง เฟียต 500 เป็นรถยนต์เฟียตรุ่นแรกที่ใช้ชื่อเป็นโลโก้ติดไว้ที่ล้อแมกซ์และวงล้อ รถยนต์รุ่นนี้มีเสน่ห์และคงความดั้งเดิมไว้ ซึ่งมาพร้อมกับวัสดุตกแต่งที่สร้างความประทับใจได้ตั้งแต่แรกเห็น เบาะโดยสารที่กระชับเพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เฟียตใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อมอบความสมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า มากไปกว่านั้นเฟียตรุ่นใหม่ยังคงได้รับกลิ่นอายจากรุ่นแรกแต่นำมาปรับแต่งใหม่ด้วยวัสดุที่ดีเยี่ยม เช่น วัสดุหนังแบบฟรัวที่นำเสนอเป็นรายแรกในตลาดกลุ่มนี้ อุปกรณ์โครเมี่ยม เบาะที่นั่งแบบ 2 เฉดสี แผงหน้าปัดที่เข้ากับสีรถยนต์ รวมถึงที่เก็บของภายในรถยนต์ และเบาะนั่งโดยสารที่นั่งได้ 4 คนแบบสบายๆ เครื่องยนต์สีเขียว รถยนต์รุ่นนี้ ยังยืนยันถึงสมรรถนะอันทรงพลังแต่ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เฟียตนำเสนอเกียร์ 5 จังหวะด้วยการเปลี่ยนเกียร์แบบ Dualogic เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่ นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญด้วย เครื่องยนต์ทั้งหมดที่ติดตั้งภายในเฟียต 500 ได้รับการพัฒนาและผลิตมาแล้วกว่า 10 ล้านเครื่อง ผ่านมาตรฐาน ยูโร 5 และยังผ่านการควบคุมการปล่อยมลพิษที่มีผลบังคับใช้ในปี 2552 1.3 มัลติเจ็ท ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ลดควันดำ (PDF) ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถยนต์รุ่นนี้ ความปลอดภัยเหนือระดับ เฟียต 500 เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ปลอดภัยมากที่สุดในบรรดารถยนต์ในรุ่นเดียวกันและได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผ่านมาตรฐานการควบคุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง ระบบเบรกที่มีประสิทธิภาพรวมเข้ากับอัตราเร่งของเครื่องยนต์และสามารถควบคุมการขับขี่ได้ตลอดเวลา รถยนต์รุ่นใหม่นี้จะช่วยนำพาคุณออกจากสถานการณ์คับขันได้โดยง่าย เฟียต 500 สามารถรองรับถุงลมนิรภัยได้มากถึง 7 แห่งซึ่งถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (2 ลูกใส่ไว้ด้านหน้า 2 ลูกใส่ไว้ด้านหลัง 2 ลูกอยู่ด้านข้างและอีก 1 ลูกใส่ไว้เพื่อปกป้องหัวเข่า) ซึ่งยังไม่เคยมีรถยนต์ในรุ่นเดียวกันทำมาก่อน นอกจากนี้ยังได้มีการนำเทคนิคพิเศษเข้ามาใช้เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถยนต์ได้ตลอดเวลา (การป้องกันก่อนเกิดเหตุ) จากระบบเบรกแบบ ABS ที่มาพร้อมกับระบบกระจายแรงเบรก (EDB) กลายมาเป็นการใช้ระบบควบคุมการทรงตัว (ESP) และระบบป้องกันล้อลื่นไถล (ASR) รวมถึงระบบควบคุมเกียร์บนทางลาด เพื่อช่วยผู้ขับขี่ขณะขับบนทางลาดและระบบเสริมแรงเบรก (HBA) ที่เข้ามาช่วยเมื่อต้องหยุดรถยนต์กะทันหัน เฟียต 500 มีองค์ประกอบที่หลากหลายและความนุ่มนวลพร้อมที่จะไปกับคุณทุกเส้นทางด้วยความปลอดภัย นอกจากนั้นแล้วยังมีระบบกันสะเทือนอิสระแมคเฟอร์สันอยู่ด้านหน้า และระบบกันสะเทือนแบบกึ่งอิสระยึดกับล้อทั้ง 4 พร้อมด้วยคานแบบบิดติดตั้งที่ด้านหลัง แบบทั้ง 2 นี้ได้รับการพัฒนามาจากการออกแบบของ แมกเนติ มาเรลลี (Magneti Marelli) ที่ใช้กับรถยนต์รุ่นอื่นๆของเฟียต อุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการพัฒนาและปรับแต่งใหม่เพื่อให้เข้ากับรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อการควบคุมอันดีเยี่ยมและเพื่อความนุ่มนวลในการขับขี่สูงสุด 500,000 รูปแบบในการสัมผัสกับเฟียต 500 โฉมใหม่ รถยนต์รุ่นนี้จะมีให้เลือกถึง 4 แบบสำหรับตลาดหลักๆในประเทศแถบยุโรป อาทิ เนคด์ ป็อบ สปอร์ต และเลาจน์ เครื่องยนต์ 1.4 - 100 แรงม้า สำหรับตัวถังรถนั้นมีเฉดสีให้เลือกมากถึง 12 เฉด ลูกค้าสามารถเลือกวงล้อได้ถึง 9 แบบ ซึ่ง 7 ใน 9 แบบนั้นจะเป็นวงล้อแบบอัลลอยด์ พร้อมกับขนาดของขอบยาง 15” และ 16” เมื่อนำอุปกรณ์ตกแต่งและเครื่องเล่นต่างๆที่เฟียตนำเสนอมาทั้งหมดมารวมกัน จะถือได้ว่าเฟียตสามารถผลิตรถยนต์ที่โดนใจและตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด เพราะลูกค้าสามารถผสมผสานอุปกรณ์ตกแต่งได้มากถึง 500,000 แบบ เช่น ลูกค้าสามารถออกแบบรถยนต์ให้ดูแตกต่างด้วยการเพิ่มลายของสติ๊กเกอร์เข้าไปด้านข้าง บนหลังคาหรือฝาครอบและสามารถเลือกลวดลายได้ 3 แบบ ไม่ว่าจะเป็นลวดลายธงตารางหมากรุกไปจนถึงธงชาติอิตาลี ลายบาร์โค้ดหรือรถแข่ง และอุปกรณ์ที่เป็นโครเมี่ยม เช่น กระจกมองข้าง ฝาครอบล้อหรือตัวกันกระแทกที่ติดอยู่ตรงกันชนหน้า ภายในรถยนต์นั้นมีการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยนวัตกรรมเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการขับขี่ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เครื่องพ่นน้ำหอมแบบใหม่ ที่มีกลิ่นน้ำหอมให้เลือก 3 กลิ่น นอกจากนั้นยังมีที่สำหรับแขวนเสื้อแจ๊คเกตด้วย ภายในรถยนต์ยังมีที่สำหรับวางโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องเล่น ไอพ็อด (iPod) ยูเอสบี และที่ชารจ์ไฟ 12 โวลต์ อีกทั้งคันเร่งอลูมีเนียม และตรงมือเปิดประตู ยังคงเอกลักษณ์ของเฟียต 500 รุ่นดั้งเดิมไว้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีที่ว่างสำหรับใส่ของ เช่น ที่สำหรับใส่กระเป๋าเดินทางอยู่ตรงประตูหลังเหมาะสำหรับใส่กระเป๋าเดินทางทุกขนาด รายการอุปกรณ์ตกแต่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นจะยังคงรักษาเอกลักษณ์ของเฟียต 500 ในยุค 2503 ไว้ด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้ทุกคนจดจำรถยนต์รุ่นใหม่นี้ได้ ด้วยความทุ่มเทในโปรแกรมพัฒนารถยนต์เพื่อลูกค้า รถยนต์รุ่นใหม่นี้ได้ตอกย้ำความเป็นรถยนต์อิตาเลียนได้อย่างดี เป็นรถยนต์ที่คุ้มค่า กุญแจรถยนต์รุ่นใหม่มีให้เลือกถึง 9 แบบเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสีที่เข้ากับสติ๊กเกอร์ของตัวรถได้ เครื่องมือพิเศษไม่เหมือนใครเพื่อความนุ่มนวลที่เหนือกว่า Fiat 500 นำเสนอความแปลกใหม่หลายประการสำหรับตลาดกลุ่มนี้ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำคุณลักษณะเฉพาะซึ่งสงวนไว้สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่ขายในตลาดระดับบนเท่านั้นมาใช้ในรถยนต์รุ่นนี้เพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ ลูกค้าสามารถเลือก Blue& Me ระดับพื้นฐาน (ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชั่นแบบแฮนด์ฟรี พร้อมด้วยบลูทูธ อินเตอร์เฟส พร้อมด้วยการใช้คำสั่งด้วยเสียงที่นำสมัย, พอร์ท USB, เครื่องเล่น MP3 และตัวแปลข้อความตัวอักษร) หรือ เวอร์ชั่นล่าสุด (หลังจากเปิดตัวแล้ว): Blue & Me Fiat 500 เป็นรุ่นแรกในรถยนต์กลุ่มเดียวกันที่ใช้ ระบบไฮไฟชั้นยอด ซึ่งรู้จักกันในนาม ระบบเสียงอินเตอร์สโคป หรือ Interscope Sound System ระบบเสริมนี้ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นสำหรับ Fiat 500 และนำมารวมเข้ากับวิทยุพร้อมซีดีและเครื่องเล่น MP3 ความแปลกใหม่ของระบบเสียงอินเตอร์สโคป คือ การใช้วิธีการที่แตกต่างกันสามแบบในเวลาเดียวกันเพื่อประมวลผลสัญญาณ ซึ่งทำขึ้นเพื่อความเพลิดเพลินจากคุณภาพเสียงที่ไม่เหมือนใครเมื่อขับขี่รถยนต์ นอกจากระบบปรับอากาศอัตโนมัติที่เป็นมาตรฐานทั่วไปแล้ว Fiat 500 ยังมีระบบควบคุมสภาพอากาศอันชาญฉลาดซึ่งทำงานร่วมกับหน่วยควบคุมกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะทำการควบคุมอุณหภูมิ การไหลเวียนของอากาศ การจ่ายอากาศ การควบคุมแรงกดอากาศและการทำให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศโดยอัตโนมัติ อุปกรณ์หลายๆ อย่างในรถยนต์รุ่นใหม่นี้เป็นระบบไฟฟ้าพร้อมด้วยฟังก์ชั่นไฟส่องสว่างกลางวัน (Day Time Running Light), กระจกซันรูฟขนาดใหญ่ (มีทั้งในแบบติดตั้งถาวรหรือแบบเปิดโดยใช้ไฟฟ้า) ซึ่งเน้นความสว่างภายในและเป็นคงความนิยมของหลังคาแบบแคนวาส รูฟ ซึ่งเป็นที่นิยมของรุ่น 500 ในช่วงปี ค.ศ. 1950 และ 1960 และท้ายที่สุด กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ (Electro Chromic Mirror) ซึ่งช่วยขจัดแสงสะท้อนที่น่ารำคาญใจจากรถยนต์คันหลังได้อีกด้วย Fiat 500C: เป็นมากกว่า "หน้าต่างสู่ท้องฟ้า" เปิดตัวให้โลกได้ยลโฉมเป็นครั้งแรกในงานมอเตอร์โชว์ ณ กรุงเจนีวา ปี 2552 นอกจาก Fiat 500C ใหม่จะเป็นการแสดงความเคารพต่อ Fiat 500 รุ่นแรกที่ถือกำเนิดเมื่อปี 2500 และหลังคาผ้าใบของ Fiat 500 แต่ก็ยังให้โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในส่วนของการออกแบบทางด้านเทคนิค เครื่องยนต์และความสบาย ทั้งหมดนี้เป็นไปตามประเพณีของ Fiat ของแท้และดั้งเดิมที่สุดในการให้คนได้เข้าถึงองค์ประกอบและเทคโนโลยีของประเทศอิตาลี ทุกท่านสามารถทดลองขับรถยนต์รุ่นนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมซึ่งเป็นวันเกิดของ Fiat 500 และสองปีเต็มหลังจากการเปิดตัวของรถยนต์รุ่นที่ยกระดับในส่วนของความสบาย ความปลอดภัย เทคโนโลยี และลักษณะทั่วไปได้อย่างแท้จริง ด้วยการใช้วิธีแบบ open-source (เช่น การค่อยๆ พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จโดยมีพื้นฐานอยู่บนข้อมูลที่ได้ลูกค้า) ศูนย์การออกแบบ Centro Stile Fiat สร้างสรรค์เฟียต 500C โดยการทำงานร่วมกันกับกลุ่มแฟนพันธุ์แท้ของ เฟียต ชินควีเชนโต( CINQUECENTO) — ในเว็บไซต์ชื่อ “เฟียต 500 ต้องการคุณ” — และเสริมสถานะของรถยนต์รุ่นนี้ให้เป็น “รถยนต์ของทุกคน ที่ออกแบบโดยทุกคน’ เริ่มต้นจากรถยนต์ขนาดเล็ก การเปิดตัวหลังคาแบบเปิดประทุน ไม่ได้เปลี่ยนคุณลักษณะเด่นที่ประสบความสำเร็จของรถยนต์รุ่นนี้ อาทิ ที่นั่งอันแสนสบาย 4 ที่นั่ง และความจุของกระโปรงหลังรถ แต่ได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่เพิ่มความสุขและความเบิกบานใจให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วยการเปิดกระโปรงท้ายได้ง่ายยิ่งขึ้นแม้ว่าหลังคาแบบ เปิดประทุนจะเปิดออกก็ตาม ซึ่งต้องขอบคุณระบบอันชาญฉลาดของบานพับแบบสี่เหลี่ยมด้านขนาน จุดแข็งอีกอย่างหนึ่งของเวอร์ชั่นเปิดประทุนแบบดั้งเดิมคือความรู้สึกสบายทางเสียงและสภาพอากาศอันสุดยอดของมันเอง ด้วยการวิจัยแอโรไดมามิคหมายความว่ากระแสลมที่ผู้ขับขี่จะรู้สึกเมื่อเปิดหลังคานั้นจะถูกลดลงให้เหลือน้อยที่สุด ทำให้ได้ความเพลิดเพลินกับการสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มที่ และการมีเพื่อนนั่งรถไปด้วยกัน การตัดสินใจที่จะแปลความหมายของการออกแบบแบบดั้งเดิมอีกครั้งในแบบโมเดิร์น ด้วยหลังคาเลื่อนด้วยไฟฟ้า แต่มาพร้อมกับการออกแบบอย่างมีสไตล์โดยยังคงรูปร่างของรถยนต์รุ่นคลาสสิคที่ทำให้รถยนต์ Fiat 500C ดูไม่เป็นสินค้าที่มีจำนวนจำกัดเฉพาะช่วงเวลามากนัก และผู้ขับขี่สามารถมีความสุขกับรถยนต์ Fiat 500C ได้ตลอดทั้งปี โดยสรุปคือ คุณลักษณะทั้งหมดนี้ทำให้ยานยนต์ใหม่นี้เป็นหนึ่งในรถยนต์เปิดประทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในตลาดรถซิตี้คาร์สมัยใหม่ ด้วยการออกแบบที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของลูกค้า หลังคาแบบเปิดประทุนของ Fiat 500C โดดเด่นด้วยการเคลื่อนไหวอย่างสง่างามที่ควบคุมด้วยไฟฟ้าและลักษณะเฉพาะต่างๆ ที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีพร้อมเก็บรายละเอียดได้อย่างน่าประทับใจ ตั้งแต่กระจกหลังไปจนถึงไฟเบรกตัวที่สามที่ทำมาเพื่อหลังคาแบบเปิดประทุนเท่านั้น มีให้เลือกสามสี (สีงาช้าง สีแดง และสีดำ) หลังคา soft top อันชาญฉลาดนี้เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับการเคลือบสีต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย การสร้างสรรค์แบบพิเศษโดยเฉพาะ ได้แก่ สีแดงรากามัฟฟินประกายมุก สีเทาเทคเฮ้าส์ ซึ่งเป็นสีแบบฉบับสำหรับรถซุเปอร์คาร์แบบสปอร์ต และสีฟ้าโกท-เมทัล Fiat 500C ให้ความรู้สึกเฉพาะในส่วนของการตบแต่งภายในด้วยผ้าเนื้อดีคุณภาพสูงและเป็นแบบที่เป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ประกอบด้วยเครื่องหนังของฟรัวและรายการอันยาวเหยียดของมาตรฐานที่เป็นไปตามความต้องการของตลาดและลักษณะต่างๆ ที่เป็นออฟชั่น ตั้งแต่การควบคุมสภาพอากาศแบบอัตโนมัติจนถึงระบบเสียงอินเตอร์สโคป ไฮไฟที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ไปจนถึงคอลเลคชั่นใหม่ที่ประกอบด้วยออปชั่นต่างๆ ให้เลือก ด้วยลักษณะของรถยนต์ที่เต็มไปด้วยความเป็นอิสระและการแสดงออกถึงความรู้สึก Fiat 500C ยังคงรักษาขนาดของรถยนต์ให้เหมือนกับรุ่นที่เป็นต้นแบบดั้งเดิม (ยาว 355 ซม. กว้าง 165 ซม. และสูง 149 ซม.) และในรถยนต์รุ่น 100 แรงม้า เครื่องยนต์น้ำมัน 1.4 ลิตร ซึ่งมีทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติแบบดูอัลโลจิค คุณภาพทั่วไปของรถรุ่นนี้ยังประกอบด้วยความไว้วางใจได้อย่างยิ่งยวดและความเคารพที่มีให้กับสิ่งแวดล้อม (ทั้งหมดได้รับการรับรองจาก Euro5) เพื่อเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเฟียต ออโตโมบิลส์ ที่มีต่อการคุ้มครองสภาพแวดล้อมและการเดินทางอย่างยั่งยืน หลังคาผ้าใบนวัตกรรมใหม่สำหรับสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ หลังคาผ้าใบของ Fiat 500C เป็นสุดยอดของการออกแบบอย่างแท้จริง ด้วยลักษณะการเคลื่อนไหวซึ่งควบคุมด้วยไฟฟ้าและโซลูชั่นทางด้านเทคนิคที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอบหลังคาในสีเดียวกันบนหลังคาผ้าใบ ทำหน้าที่เป็นสปอยเลอร์และที่ติดตั้งของไฟเบรกดวงที่สาม เป็นการสร้างให้มีลักษณะแบบแอโรว์ไดนามิคที่คล้ายคลึงกับเวอร์ชั่นแบบซาลูน และ Cx ของ 0.33 รูปร่างที่ยอดเยี่ยมนี้ทำให้ Fiat 500C เป็นรถยนต์ชั้นนำของรุ่น ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับแต่งโครงร่างของสปอยเลอร์หลังและฝาครอบล้อหลังใหม่ให้เหมาะเจาะที่สุด ความสบายของผู้โดยสารเบาะหลังก็ได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษเช่นกัน ซึ่งพิสูจน์โดยความเร็วลมที่ 7 m/s ในขณะที่เปิดหลังคา นอกจากนี้เมื่อดึงหลังคาผ้าใบลงมาจะมีการจัดตำแหน่งของสปอยเลอร์เพื่อให้สามารถมองเห็นไฟเบรกดวงที่สามได้ หลังคาผ้าใบแบบสองชั้นทำให้แน่ใจว่าจะเป็นฉนวนที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันแสงจากภายนอก หลังคาผ้าใบแบบไฟฟ้าอัตโนมัติสามารถควบคุมได้โดยปุ่มที่อยู่ใกล้กับไฟที่ติดอยู่บนเพดานรถยนต์ด้านใน หรือจากรีโมทคอนโทรล นอกจากนี้ หลังคาผ้าใบสามารถทำงานได้ตลอดการเคลื่อนที่ไปในแนวนอน (ไกลเท่ากับสปอยเลอร์) ไม่ว่าจะอยู่ในระดับความเร็วใดก็ตาม การเคลื่อนที่ในแนวดิ่งสามารถทำได้ในระดับความเร็วต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง(37mph) นอกจากนี้หลังคาผ้าใบยังใช้งานได้ง่าย เมื่อต้องการเปิด เพียงแค่กดปุ่มค้างอย่างน้อยครึ่งวินาทีเพื่อกระตุ้นการเคลื่อนไหวซึ่งจากนั้นจะเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติไปจนถึงสปอยเลอร์ (จุดกลางทางสามารถเลือกได้โดยการกดปุ่มอีกครั้งหนึ่ง) กดปุ่มอีกครั้งหนึ่งเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งวินาทีเพื่อเปิดหลังคาอย่างเต็มที่ เมื่อใช้รีโมทคอนโทรล หลังคาจะถูกเปิดได้เพียงในระยะที่เท่ากับสปอยเลอร์ การทำตามขั้นตอนเดิมจะเป็นการปิด ด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย หลังคาจะหยุดในระยะห่างจากจุดที่เป็นการปิดอย่างสมบูรณ์ประมาณ 25 เซนติเมตร (เพียงกดปุ่มอีกครั้งหนึ่ง การเคลื่อนตัวปิดก็จะสมบูรณ์) เมื่อฝากระโปรงหลังเปิด หลังคาผ้าใบจึงจะสามารถปิดได้ (ฟังก์ชั่นการเปิดหยุดทำงาน) อย่างไรก็ตาม ถ้าหลังคาเปิดอย่างเต็มที่และจำเป็นต้องเปิดกระโปรงหลัง เมื่อกระโปรงหลังถูกเปิด หลังคา ผ้าใบจะเลื่อนมาอยู่ตรงกลางโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการกีดขวางการขนถ่ายสัมภาระ ท้ายที่สุด มีออพชั่นแผงบังลมที่สามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดายด้านหลังที่พักศีรษะเบาะหลัง (ติดอยู่กับที่เก็บสัมภาระ) อุปกรณ์เสริมนี้ผ่านการทดสอบในช่องลม ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับFiat 500C และทำมาจากวัสดุพิเศษที่มีรูพรุน ซึ่งสามารถลดกระแสลมได้อย่างมากสำหรับผู้โดยสารทุกคน ในทุกระดับความเร็ว นอกจากนี้ยังต้องย้ำว่าไม่มีความจำเป็นต้องเอาแผงบังลมออกเพื่อเปิดหรือปิดหลังคาผ้าใบ (เป็นลักษณะพิเศษอีกอย่างสำหรับรถยนต์รุ่นนี้) เครื่องยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Fiat 500C ใช้เครื่องยนต์น้ำมันเบนซินแบบ 1.4 ลิตร 100 แรงม้า 16 วาล์ว มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ นับว่ามีความเยี่ยมยอดในเรื่องการแสดงออกทางอารมณ์อย่างมีชีวิตชีวาและใจกว้าง สมรรถนะที่สูง และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ คุณภาพทั่วไปของรถยนต์รุ่นนี้ยังประกอบด้วยความน่าเชื่อถือและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งหมดนี้สอดคล้องกับมาตรฐานของ ยูโร 5 หน่วยพลังงานของ Fiat 500 ผลิตโดย Fiat Powertrain Technologies (FPT) ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของ เฟียตที่รับผิดชอบเรื่องนวัตกรรม การวิจัย การออกแบบ และการผลิตเครื่องยนต์และกระปุกเกียร์สำหรับยานยนต์ทุกชนิด: ตั้งแต่รถยนต์โดยสารไปจนถึงรถยนต์บรรทุก เรือ และเครื่องมือทางการเกษตร มีพนักงานกว่า 20,000 คน โรงงาน 16 แห่ง และศูนย์วิจัย 11 แห่งใน 9 ประเทศ แผนกนี้เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญระดับโลกในการผลิตเกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์ (Power Train Manufacturing) ที่ FPT มีช่างเทคนิคที่มีความชำนาญอย่างสูงเฉพาะด้านกว่า 3,000 คน ซึ่งทุ่มเทให้กับการพัฒนาและเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ทางวิศวกรรม การมีสิทธิบัตรมากกว่า 40 สาขาในทุกๆ แห่งเป็นหลักฐานที่แสดงถึงคุณภาพและความมุ่งมั่นต่อพันธะสัญญาที่มี ทำให้ FPT เป็นศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศสำหรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง เครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร 16 วาล์ว ให้ความแรงถึง 73.5 kW (100 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 131 Nm (13.4 kgm) ที่ 4,250 รอบต่อนาที ด้วยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ได้สมรรถนะสูงพร้อมประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์นี้ทำให้ Fiat 500C เป็นผู้นำของรุ่น ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 182 กิโลเมตร/ชั่วโมง (113mph) และเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 11 วินาทีเท่านั้น การประหยัดเชื้อเพลงก็เป็นที่น่าประทับใจเช่นเดียวกัน: เวอร์ชั่นนี้จะกินน้ำมันเพียง 6.1 ลิตร/100 กิโลเมตรเท่านั้น (ด้วยเกียร์แบบธรรมดา) และสามารถกินน้ำมันลดลงถึง 5.8 ลิตร/100 กิโลเมตรด้วยระบบเปิด-ปิดเครื่องยนต์ และที่เหนือไปกว่านั้น ด้วยเครื่องยนต์ชนิด 100 แรงม้า รถยนต์ขนาดเล็กคันนี้มีสมรรถนะแบบสปอร์ตท่ามกลางการจราจรในเมือง ผู้นำด้านความปลอดภัย ด้วยโครงสร้างที่มาจากเวอร์ชั่นซาลูน (รถรุ่นแรกที่ได้รับการจัดอันดับในระดับห้าดาวจาก Euro NCAP) Fiat 500C ยังคงมีส่วนประกอบด้านความปลอดภัยและคุณลักษณะพิเศษต่างๆ (ทั้งแบบแอ็คทีฟและพาสซีฟ) ซึ่งเหมาะสมที่สุดสำหรับรถยนต์ที่ดีที่สุดของรุ่น Fiat 500C นั้นเหนือกว่ารถยนต์ในกลุ่มเดียวกันในด้านความปลอดภัยแบบพาสซีฟ ยกตัวอย่างเช่น ด้วยถุงลมนิรภัยถึงเจ็ดลูกที่นำเสนอเป็นมาตรฐาน (สองลูกด้านหน้า สองลูกด้านหลัง สองลูกด้านข้าง และหนึ่งลูกอยู่ที่หัวเข่า) ระบบเบรกที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพของรถยนต์รุ่นใหม่ซึ่งประสานการเร่งความเร็วอย่างยอดเยี่ยมรวมเข้าไว้ด้วยกันกับการควบคุมที่เชื่อใจได้อย่างที่สุดทำให้ผู้ขับขี่สามารถออกจากสถานการณ์คับขันได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ Fiat 500C ยังได้นำเอาโซลูชั่นทางด้านเทคนิคที่นำสมัยมาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่จะสามารถควบคุมรถยนต์ได้อย่างสมบูรณ์ (ความปลอดภัยแบบแอ็คทีฟ) ตั้งแต่ระบบเบรก ABS ที่มาพร้อมกับระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake Distribution: EBD) ไปจนถึงระบบควบคุมการทรงตัว (Electronic Stability Program: ESP) ที่ทันสมัย จากระบบป้องกันล้อลื่นไถล (Anti Slip Regulation: ASR) ไปจนถึงเครื่องมือฮิลโฮลเดอร์ (Hill Holder) ซึ่งช่วยผู้ขับขี่ให้มั่นใจเพิ่มมากขึ้นเมื่อขึ้น-ลงทางลาดชัน และระบบเสริมแรงเบรกแบบไฮโดรลิก (Hydraulic Brake Assistance: HBA) เพื่อช่วยในการจอดอย่างฉุกเฉิน นอกจากนี้ เพื่อให้แน่ใจถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รถยนต์รุ่นใหม่มีตัวถังที่ออกแบบมาให้สอดคล้องกับบรรทัดฐานเกี่ยวกับการต้านทานการชนล่าสุด (นี่เป็นรถซุปเปอร์คอมแพ็คคาร์คันแรกที่มาพร้อมกับโครงสร้างป้องกันการชนด้านหน้า ซึ่งออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อปรับปรุงกรณีเกิดการชนด้านหน้าด้วยห้องโดยสารที่แข็งแกร่งเพื่อคุ้มครองผู้ที่นั่งอยู่ภายในและโซนรับการกระแทก (high-absorption zones) จากทางด้านนอก เข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ที่นั่งด้านหน้ามีระบบดึงกลับอัตโนมัติแบบคู่และตัวควบคุมแรงกระแทก (ผู้ที่นั่งอยู่ทางด้านหลังมีเข็มขัดนิรภัยสามจุด) ที่นั่งเบาะหน้าและเบาะหลังมาพร้อมกับระบบเบาะนั่งป้องกันการลื่นไภล (anti-submarining) ซึ่งหยุดไม่ให้ผู้สวมใส่ไหลลอดลงไปใต้เข็มขัดนิรภัย และยังมี Isofix สำหรับที่นั่งของเด็กภายในรถได้มีการติดตั้งไว้เป็นมาตรฐานในรุ่นนี้ทั้งหมด ท้ายที่สุด Fiat 500C มีลักษณะพิเศษต่างๆ ที่ให้ความสะดวกสบายและมีพลวัตรซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถออกเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นการเดินทางแบบใดก็ตาม ระบบกันสะเทือนที่มาจากการออกแบบของแมกเนตี มาเรลลีทำหน้าที่หลักในเรื่องนี้: ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระจัดทำโดยแม็คเฟอร์สันสตรัทและระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบกึ่งอิสระด้วย คานแบบบิดติดตั้งที่ด้านหลัง นอกจากนี้ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบกึ่งอิสระ ยังมีลักษณะเป็นเหล็กกันโครงเพื่อรักษาระดับและกันโครงของตัวรถที่ได้มาจาก 500 Abarth เพื่อยกระดับการใช้งานและความสะดวกสบาย FIAT 500 By Diesel Fiat 500 ชอบการเปลี่ยนแปลงและเป็นหนึ่งไม่เหมือนใคร ยกตัวอย่างเช่น ในรุ่น Limited Edition By Diesel ซึ่งสร้างสรรค์โดย Fiat ด้วยความร่วมมือจากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ เป็นแบบเฉพาะที่โดดเด่นไม่เหมือนใครแต่ยังคงความสบายแบบลำลองด้วยสัมผัสของความเก๋ไก๋ ซึ่งเป็นยานยนต์แบบเออร์เบอร์น เซอร์ไวเวอล (Urban Survival) ตัวใหม่ของเฟียตซึ่งแสดงออกถึงสปิริตที่เป็นการเหน็บแนมและการไม่มีความเคารพของ Fiat 500 Fiat 500 โดย Diesel มีสไตล์ที่โดดเด่นสะดุดตาในทันที เริ่มด้วยสีตัวถังที่พิเศษไม่เหมือนใคร (สีเขียว Diesel Green และสีดำ Crossover Black) และองค์ประกอบของตัวถังภายนอก เช่น ด้านข้างและด้านหลังจะมีโลโก้ของ Diesel, ล้ออัลลอยลายพิเศษพร้อม Diesel Logo ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 195/45R16 คาลิปเปอร์เบรกออกแบบพิเศษสีเหลืองสะดุดตา กระจกหลังคาแบบติดตั้งถาวร สปอยเลอร์หลัง คิ้วตกแต่งรอบคันออกแบบโดย Diesel ทั้งกันชนหน้า กันชนหลัง คิ้วฝากระโปรงท้าย คิ้วกันกระแทกด้านข้าง คิ้วขอบประตู มือเปิดประตู ฝาครอบกระจกมองข้าง เป็นสีไทเทเนียม การตกแต่งภายในของ Fiat 500 By Diesel ก็เป็นการออกแบบที่เฉพาะไม่เหมือนใครเช่นกัน ด้วยกรอบคอนโซลหน้าสีไทเทเนียม เรือนไมล์สปอร์ตสีเหลือง พวงมาลัยหุ้มหนังแบบสปอร์ต เดินด้ายสีเหลือง เบาะนั่งพิเศษที่ทำจากผ้าเดนิมเนื้อดีของ Diesel เดินด้ายสีเหลือง ช่องเก็บของข้างเบาะดีไซน์รูปกระเป๋ากางเกงยีนส์ Diesel คิ้วบันไดแสตนเลสดีไซน์เฉพาะรุ่น Diesel Fiat 500 By Diesel นำเสนอความสบายขั้นสูงสุด ซึ่งต้องยกความดีให้กับเบาะนั่งคนขับที่สามารถปรับความสูงได้ ระบบ Blue & Me และการควบคุมสภาพอากาศแบบปรับได้ ระบบความบันเทิงเหนือระดับด้วยเครื่องเสียงพร้อมระบบ Hi Fi Interscope Sound System Fiat 500 By Diesel รุ่น Limited Edition มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด I.4 I6v I00 HP พร้อมระบบส่งกำลังขับเคลื่อนแบบดูอัลโลจิกอีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ