กรุงเทพฯ--2 ธ.ค.--การบินไทย
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดให้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ของคณะกรรมการบริษัทฯ และฝ่ายบริหาร เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2552 เพื่อผลักดันการบินไทยในการเป็น 1 ใน 3 ของภูมิภาคเอเชีย และ 1 ใน 5 ของสายการบินทั่วโลก ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยมีนายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมฝ่ายบริหาร เข้าร่วมสัมมนา
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า ฝ่ายบริหาร ได้นำเสนอแผนกลยุทธ์ (แผน 5 ปี 2553-2557) รวมทั้งงบประมาณประจำปี 2553-54 ต่อคณะกรรมการบริษัทฯ โดยคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบ แต่มีข้อสังเกต บางประการที่มอบหมายให้ฝ่ายบริหารรับไปปรับปรุง และนำเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ อีกครั้งในวันที่ 18 ธันวาคม 2552 หลังจากนั้นจึงจะนำไปสู่การปฏิบัติ Mission TG 100 เพื่อให้การบินไทย สู่อนาคตที่แข็งแกร่งและเติบโตก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืนอีก 50 ปี
แผนกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ มุ่งเน้นใน 3 ด้านหลัก คือ เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นความต้องการของลูกค้า (Highly Customer Oriented) ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (Highly Competitive) และเป็นองค์กรที่มีความคล่องตัวสูง (Highly Dynamic) สามารถตัดสินใจและดำเนินการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ตามความผันผวนของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ กลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญเพื่อการผลักดันไปสู่แผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมและมีทิศทางที่ชัดเจน ได้แบ่งออกเป็น 9 ส่วนที่ตอบสนองกลยุทธ์ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1. การกำหนดตำแหน่งทางกลยุทธ์ 2.การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า 3. การพัฒนาเครือข่ายเส้นทางบินและฝูงบิน 4. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ 5 ด้านราคา การจัดจำหน่าย และการบริหารรายได้ 6. การเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนและผลิตผล 7. การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารองค์กร 8. ด้านโครงสร้างทางธุรกิจ และ 9.การสร้างความแข็งแกร่งด้านการเงิน
การวางยุทธศาสตร์ครั้งนี้ จะเน้นเรื่องการปรับปรุงและพัฒนา การให้บริการทุกจุดสัมผัสที่ผู้โดยสารสามารถรับรู้ได้ ตั้งแต่ การสำรองที่นั่ง การปรับปรุงเก้าอี้ในเครื่องบิน ตลอดจนอุปกรณ์และระบบสาระบันเทิงในเที่ยวบิน ( Inflight Entertainment ) เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 2 ปี
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้ปรับปรุงที่นั่งบนเครื่องบินแบบ โบอิ้ง 747 จำนวน 12 ลำ ซึ่งให้บริการในเส้นทางยุโรปเป็นหลักและเป็นเส้นทางที่สร้างรายได้เป็น อย่างมาก เครื่องบินโบอิ้ง 747 ยังเป็นเครื่องบินที่ให้บริการครบทั้ง 3 ระดับ คือ ชั้นประหยัด ชั้นธุรกิจ และ ชั้นหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงดังกล่าวต้องใช้เวลาถึง 2 ปี จึงจะดำเนินการได้ครบทั้ง 12 ลำ ดังนั้น ในช่วงของการปรับเปลี่ยนนี้ ฝ่ายบริหารจึงได้นำยุทธศาสตร์การบริการด้านอื่นๆ เข้าไปทดแทน เช่น การปรับปรุงเมนูอาหาร การดูแลปรับปรุงทุกจุดสัมผัสให้มีมาตรฐานการให้บริการ ที่เหมือนกัน ซึ่งฝ่ายบริหารจะต้องเร่งดำเนินการในทันที
ในแผนกลยุทธ์ฯ บริษัทฯ ได้มีเป้าหมายผลการดำเนินงานของปี 2553 ประมาณรายได้อยู่ที่ 193,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.7 จากปี 2552 มีกำไรก่อนภาษีและอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 4,300 ล้านบาท EBITDA 32,000 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายของปริมาณการผลิตและการขนส่ง ปี 2553 กำหนดปริมาณที่นั่ง (ASK) ไว้ที่ 80,000 ล้านที่นั่ง-กิโลเมตร ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) 59,000 ล้านคน-กิโลเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 จากปี 2552 อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ร้อยละ 74 ปริมาณการผลิตสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ADTK) 4,400 ล้านตัน-กิโลเมตร ปริมาณการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (RFTK) 2,200 ล้านตัน-กิโลเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.0 จากปี 2552
การพัฒนาองค์กรจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่การบินไทยจะต้องสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งขององค์กร ปี 2554 เป็นปีที่การบินไทยจะต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน หลังจากนั้นตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป จึงจะเป็นปีที่การบินไทยจะสามารถเติบโตตาม การขยายตัวของบริษัทฯ และนำบริษัทฯ ไปสู่ความยั่งยืนได้ในที่สุด