กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--แสนสิริ
แสนสิริ แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/49 โตสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจยุคน้ำมัน-ดอกเบี้ยผันผวน สามารถสร้างยอดขายรวมถึง 5.5 พันล้านบาท มีรายได้รวมกว่า 2,400 ล้านบาท และมีกำไรกว่า 134 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ารุกขยายตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางอย่างต่อเนื่อง เน้นขยายเฟสก่อสร้างในโครงการที่เปิดตัวไปแล้ว และเปิดตัวโครงการใหม่ที่มีระดับราคาที่ตอบรับความต้องการสูงสุดอีก 2 โครงการ ได้แก่ สราญสิริ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท และบ้านพร้อมพัฒน์ รามอินทรา ราคาเริ่มต้นเพียง 1.75 ล้านบาท ตั้งเป้าสิ้นไตรมาส 2 ยอดขายประมาณ 5,000 ล้านบาท
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทั้งปัจจัยจากการปรับตัวของราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ที่มีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ในขณะที่กลุ่มบริษัทแสนสิรินั้น กลับสามารถสร้างยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยที่สวนกระแสดังกล่าว ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปี 2549 นี้ บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ค่อนข้างน่าพอใจ โดยสามารถสร้างรายได้รวมกว่า 2,400 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนทำได้ 1,900 กว่าล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิไตรมาสแรกของปีนี้ทำได้ถึง 134 ล้านบาท
นายเศรษฐา กล่าวเสริมว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2549 กลุ่มบริษัทแสนสิริและบริษัทในเครือ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในการรุกตลาดที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ทั้งโครงการบ้านจัดสรร โครงการคอนโดมิเนียม และโครงการทาวน์เฮ้าส์ โดยในช่วงระยะเวลาเพียง 3 เดือน สามารถสร้างยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยรวมได้กว่า 1,250 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าการขายรวมกว่า 5,500 ล้านบาท ซึ่งยอดขายดังกล่าวจะมีการทยอยรับรู้รายได้ไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ความสำเร็จดังกล่าว ส่วนหนึ่งเกิดจากความสำเร็จในการจัดงานนำเสนอที่อยู่อาศัยของกลุ่มบริษัทแสนสิริและพันธมิตรธุรกิจที่ชื่อว่า “Living in Style 2006“ เพียง 3 วัน มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 15,000 ราย และสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 1,000 ล้านบาท ภายในงานดังกล่าว ยังได้มีการเปิดตัวโครงการ “ Condo One” คอนโดมิเนียมใหม่สุดฮ็อต ที่นำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตอย่างมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างถึง 6 ทำเล ที่มีมูลค่าโครงการขายรวมถึง 1,700 ล้านบาท ซึ่ง Condo One ได้กลายเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการอยู่อาศัยของกลุ่มบริษัทแสนสิริ ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยสามารถปิดการขายเกือบทุกโครงการภายในงาน Living in Style 2006 ด้วย
นอกจากนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนให้กลุ่มบริษัทแสนสิริ ประสบความสำเร็จในด้านการขายโครงการที่อยู่อาศัยตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้ายังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางและตลาดระดับล่าง ที่ยังคงมีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อแสนสิริได้มีการจัดทำแคมเปญทางการตลาดเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคทราบว่า โครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพของกลุ่มบริษัทแสนสิริ มีหลากหลายรูปแบบและครอบคลุมทุกระดับราคา สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม โดยจัดทำเป็นแคมเปญโฆษณา พร้อมภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ในชุด “โอกาส” ขึ้น ซึ่งเป็นส่วนช่วยสนับสนุนการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าได้เร็วขึ้นนั่นเอง
นายเศรษฐา กล่าวเสริมถึงแผนการรุกธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 ของกลุ่มบริษัทแสนสิริว่า ยังคงเน้นการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยจะขยายเฟสการก่อสร้างในโครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวไปแล้ว ตามประมาณการของความต้องการจริง ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นการสร้างที่อยู่อาศัยแบบสร้างเสร็จก่อนขาย นอกจากนี้ก็จะมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยที่มีระดับราคากลาง-ล่างเพิ่มขึ้น โดยกำลังจะเปิดตัวโครงการสราญสิริ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยวที่มีระดับราคาขายตั้งแต่ 3.89 ล้านบาท และโครงการบ้านพร้อมพัฒน์ โครงการบ้านแฝดที่มีระดับราคาขายตั้งแต่ 1.75 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งนี้ มีการตั้งเป้าหมายว่าไตรมาสที่ 2 นี้ กลุ่มบริษัทแสนสิริน่าจะมียอดขายโครงการที่อยู่อาศัย คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท และยังคงมั่นใจว่ากลุ่มบริษัทแสนสิริ จะสามารถสร้างยอดขายจากโครงการที่อยู่อาศัยรวมทั้งปี 2549 ถึงเป้าหมาย 14,000 ล้านบาทได้
“ ในช่วงต้นไตรมาสที่สองยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยโดยรวมก็ค่อนข้างน่าพอใจ แม้ว่าปัจจัยหลายๆ ประการทางเศรษฐกิจจะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อโครงการที่อยู่อาศัยช้าลงไปบ้าง แต่ก็มั่นใจว่าความต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริงก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้จากยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยรวมตั้งแต่เมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ขายไปแล้วเกือบ 400 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าการขายรวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยบ้านทุกเซกเมนต์และทุกระดับราคายังได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนโครงการที่มียอดขายดีมากได้แก่ โครงการเศรษฐสิริ ประชาชื่น ที่มีการเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ที่ชื่อชุด “คู่รัก” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพียงอาทิตย์ดียวก็มียอดขายไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท หรือทั้งสัปดาห์กลุ่มบริษัทแสนสิริสามารถสร้างยอดขายได้เกือบ 600 ล้านบาททีเดียว” นายเศรษฐา กล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) คุณอัญชลี (เอ) โทร. 0 2201 3530