โยโกฮามารุกตลาดชูกีฬามอเตอร์สปอร์ต ตั้งเป้าปั้นยอดขายปีหน้า 1,750 ล้านบาท ปูทางติด 1 ใน 4 ผู้นำตลาดยางเมืองไทย

ข่าวยานยนต์ Friday December 4, 2009 10:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ โยโกฮามา ทุ่มงบหนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตเต็มตัว หวังสะท้อนสมรรถนะที่สุดของยางรถยนต์ Hyperformance จากสนามแข่งสู่ท้องถนน เพื่อกระตุ้นการรับรู้ผู้บริโภคและเพิ่มยอดขาย มั่นใจสิ้นปี 2552 ฟันยอดขายตามที่คาด 700 ล้านบาท พร้อมประกาศปีหน้าเพิ่มเป้าอีก 1.5 เท่า หรือ 1,750 ล้านบาท วาดหวังติด 1 ใน 4 ผู้นำตลาดยางรถยนต์เมืองไทย มร.ยาซูชิ อิอิดะ ประธานกรรมการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเปิดเผยว่า ยางโยโกฮามารุกกิจกรรมส่งเสริมการตลาดครั้งยิ่งใหญ่ โดยสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ “Super Car Thailand Bangsaen Festival” เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรแกรมมหกรรมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL 2009 ที่จัดแข่งขันไปเมื่อวันที่ 27-29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์ “โยโกฮามา” ว่าเป็นยางรถยนต์ Hyperformance ที่ไม่ใช่เป็นเพียงยางรถยนต์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านสมรรถนะและประสิทฺธิภาพสูงเท่านั้น แต่เป็นยางที่ให้ความนุ่มนวลและความเงียบอีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นของยางโยโกฮามาจากสนามแข่งสู่ท้องถนน โดยมีนักแข่งรถยนต์ชื่อดังของไทยให้การตอบรับ ไม่ว่าจะเป็น “ศรานนท์ ภรณ์พัฒนารักษ์” แชมป์ดริฟรถของเมืองไทย เจ้าของฉายา “God Of Drift” และดารานักแข่ง “พีท ทองเจือ” ที่ใช้ยางโยโกฮามารุ่น แอดแวน นีโอวา เอดี-08 โชว์ดริฟและขับแข่งขันในรายการนี้ด้วย พร้อมทั้งได้นำผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันมาออกบู๊ธและจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อโชว์เทคโนโลยีการผลิตและออกแบบยางรถยนต์โยโกฮามา รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ยางรถยนต์ให้แก่ผู้สนใจทั่วไปภายในงานนี้ด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมการแข่งขันรถยนต์ในรายการนี้อย่างคับคั่ง “เป็นครั้งแรกที่โยโกฮามาสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตในไทย ซึ่งนับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดของโยโกฮามา เพราะเห็นว่า Super Car Thailand Bangsaen Festival ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้รักกีฬาความเร็ว โดยในระยะแรกใช้งบการตลาดไม่เกิน 10 ล้านบาท และในอนาคตจะเพิ่มการสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตประเภทอื่น เช่น การแข่งขันแรลลี่ทางเรียบและครอสคันทรีต่อไป” มร.ยาซูชิ อิอิดะ กล่าวว่า ปีเศษที่บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มตัว ปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ 10% แต่จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้มั่นใจว่าตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง “กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นวัยรุ่นและกลุ่มที่เพิ่งเข้าทำงานใหม่ๆ เริ่มมีรายได้มากขึ้น อีกทั้งตลาดรถยนต์เมืองไทยมีรถยนต์อยู่กว่า 3 ล้านคัน ย่อมทำให้การขายยางรถยนต์ทดแทนจะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งในส่วนที่จะเพิ่มขึ้นนี้นั้น เราไม่ได้กำหนดว่าเป็นยางในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ แต่นโยบายการตลาดของเราจะจับในทุกๆ ตลาด เพื่อให้ครอบคลุมยางรถยนต์ทุกประเภทที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงยางในกลุ่มรถบัสและรถบรรทุกด้วย โดยเฉพาะรถเก๋งจะแยกเป็นรถสปอร์ตที่โยโกฮาได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมาโดยตลอด และยังมียางรถอีกกลุ่มหนึ่งคือ ยางรถแบบเอสยูวี แต่ในช่วงนี้จะเน้นที่ยางรถเก๋งก่อน เพราะไม่สามารถทำตลาดในทุกกลุ่มไปพร้อมๆ กันได้ แต่ในอนาคตจะต้องมีผลิตภัณฑ์ครบในทุกกลุ่มตลาด” สำหรับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วทุกภูมิภาคของโลก และสถานการณ์การเมืองภายในประเทศไทยที่ไม่แน่นอนในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดการจำหน่ายยางรถยนต์โยโกฮามากนัก เนื่องจากโยโกฮามามีสัดส่วนทางการตลาดเพียง 10% “ยอดขายโยโกฮามาปี 2552 ตั้งไว้ที่ 700 ล้านบาท สิ้นปีนี้ทำถึงเป้าได้แน่นอน ปัจจุบันตำแหน่งของเราอาจอยู่อันดับ 6 หรือ 7 ในตลาดผู้จำหน่ายยางรถยนต์ แต่ไม่ได้มีความหมายกับเรา แต่ผมตั้งเป้าไว้ว่า อนาคตอันใกล้นี้จะต้องเป็น 1 ใน 4 ผู้นำตลาดยางรถยนต์เมืองไทย ส่วนนโยบายการตลาดปี 2553 ก็ดูจะเร็วเกินไปที่จะตอบในวันนี้ แต่ตั้งใจว่าจะทำให้ยอดขายยางโยโกฮามาเพิ่มขึ้นอีก 1.5 เท่าของปี 2552 หรือ 1,750 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์การตลาดด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ต ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมกระตุ้นการรับรู้แบรนด์ “โยโกฮามา” เพื่อส่งเสริมการขายให้มากขึ้น” มร.ยาซูชิ อิอิดะ กล่าวในท้ายสุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: มีเดีย ฟอร์เวิร์ด ที่ปรึกษางานประชาสัมพันธ์บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด “คุณเล็ก” โทร.083-301-6333

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ